คิดอะไรไม่ออกก็ยึด "ราชประสงค์"

                สูตรการชุมนุมที่ใช้มาแทบทุกสมัย

                ม็อบ ๓ นิ้ว ปิดพื้นที่เศรษฐกิจ แม้จะยังไม่ค้างคืน แต่ธุรกิจต้องปิด เพราะมีความเสี่ยงเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน

                มีคนบอกว่าเพื่อประชาธิปไตย จำต้องเสียสละกันบ้าง เป็นไรไป

                แต่ผลของการปิดพื้นที่เศรษฐกิจกลางเมืองก็อย่างที่เห็น ถ้ายังได้นักการเมืองเลวเข้าสภาฯ ปิดประเทศก็ช่วยอะไรไม่ได้

                เคยถึงขนาดลงทุนลงแรงเผาเมือง...แล้วเป็นไง?

                หรือคราวนี้จะก๊อบปี้ม็อบฮ่องกงทุกกระเบียดนิ้ว

                ม็อบไม่ต้องมีแกนนำ แต่เจอกันทุกเย็นหลังเลิกงาน เลิกเรียน

                ผ่านไป ๑ เดือน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง...ก็เริ่มเผา

                เมื่อรักจะลอกม็อบฮ่องกง ก็ให้ดูจุดจบของม็อบฮ่องกงด้วย

                ไม่มีอะไรติดมือนอกจากความขัดแย้งร้าวลึกระหว่างรุ่นคน

                ส่วนแกนนำ...ติดคุก หรือไม่ก็หนีไปต่างประเทศ

                ศึกษาจากประวัติการชุมนุมที่ผ่านมา เหลือง แดง กปปส.แล้ว คนไทยน่าจะตกผลึกร่วมกันว่า สุดท้ายม็อบไม่เคยนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้จริง 

                หนำซ้ำยังเป็นเหตุให้เกิดโรคแทรกซ้อน

                ฉะนั้นการเลือกตั้งควรจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับความปรารถนาในการเปลี่ยนขั้วการเมือง หรือเปลี่ยนอำนาจ

                ดูอเมริกาเป็นตัวอย่าง

                ทรัมป์จะเลวร้ายแค่ไหน อเมริกันตายเพราะโควิดไปแล้วกว่า ๒ แสนคน

                แต่อเมริกันก็ตัดสินด้วยการเลือกตั้ง

                อย่าอ้างว่าระบบการเลือกตั้งไม่เป็นธรรม เพราะอนาคตใหม่-ก้าวไกล คือพรรคที่ได้ประโยชน์จากระบบการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ มากที่สุด

                หากคิดว่าการชุมนุมเท่านั้นที่เป็นทางออกเดียว ก็เตือนไว้ล่วงหน้าตั้งแต่วันนี้ว่า เมื่อไหร่ที่ก้าวไกลเป็นรัฐบาล มันจะย้อนกลับมาไม่รู้จบ

                และไม่ว่าฝ่ายไหนขึ้นมามีอำนาจก็จะตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน 

                เคยปลุกม็อบก็ต้องเจอม็อบ!

                สถานการณ์โลกปัจจุบัน เศรษฐกิจแทบจะพังพินาศ โควิดลามไปทั่ว จ่อประตูจะเข้าไทยทั้งตะวันตกและใต้

                ไม่มีอะไรรับประกันว่า การระบาดรอบ ๒ จะไม่เกิดขึ้นในไทย

                บนสมมติฐานเลวร้ายสุด หากระบาดรอบ ๒ รัฐบาลไม่มีเงินพอที่จะอุ้มใครอีกแล้ว นั่นหมายความว่าเศรษฐกิจจะดำดิ่งลงกว่านี้

                ฉะนั้นความปรารถนาในประชาธิปไตยแบบเร่งด่วน ไม่อาจแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้

                มีแต่จะซ้ำเติมเหมือนที่หลายประเทศเจอ

                สุดท้ายเป็นเรื่องที่คนไทยต้องเลือกเอา.