เหยื่อแห่ดูตัวแก๊งตุ๋นค้าลอตเตอรี่ หลังตำรวจตามจับได้ 5 คน ส่วนหัวหน้าแก๊งยังหลบหนี เผยมีผู้หลงเชื่อนับร้อย เสียหายกว่า 700 ล้าน บางคนขายที่นามาลงทุนกว่า 10 ล้าน

    เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมนี้ ที่ สภ.รัตนบุรี ได้มีกลุ่มผู้เสียหายจากแก๊งตุ๋นค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลประมาณ 60 คน ไปดูตัวและพบพนักงานสอบสวน หลังทราบข่าวว่าตำรวจสามารถจับตัวแก๊งคนร้ายฉ้อโกงประชาชนด้วยการชักชวนร่วมลงทุนค้าสลาก อ้างให้ผลตอบแทนสูง จนมีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อประมาณ 100 คน รวมความเสียหายกว่า 700 ล้านบาท กระทั่งมีการเข้าแจ้งความตำรวจตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.63
    คดีนี้ พ.ต.อ.กิตติเชษฐ์ ศักยภาพวิชานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ยศวัจน์ งามสง่า ผกก.สภ.รัตนบุรี ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.รัตนบุรี นำโดย พ.ต.ต.วิโรจน์ เพ็ชรบุญ สว.สส.สภ.รัตนบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานความร่วมมือกับชุดสืบสวน สภ.ดงครั่งใหญ่ จ.ร้อยเอ็ด ร่วมกันจับกุมผู้ต้องตามหมายจับศาลรัตนบุรี จำนวน 5 คน เมื่อวันที่ 14 ต.ค.63 ที่ผ่านมา ประกอบด้วย นายกำพล จิตรแม้น อายุ 53 ปี, นายอุ่น จันสีดา อายุ 61 ปี, นางพิมพ์จันทร์ พูนสุข อายุ 41 ปี, นางศรีไพร จิตรแม้น อายุ 51 ปี และนายทะนงศักดิ์ จิตรแม้น อายุ 31 ปี ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามหมายจับศาลรัตนบุรีที่ 86/2563 ลงวันที่ 12 ต.ค.2563 โดยสามารถจับกุมบุคคลดังกล่าวได้ที่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 12 ต.ครั่งใหญ่ อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นบ้านของนายทศพร จิตรแม้น หัวหน้าแก๊งที่กำลังหลบหนีคดีไปพร้อมกับนายยุทธนา ทองคำ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนพบว่ามีการทำงานเชื่อมโยงกันเป็นกระบวนการ ซึ่งผู้ต้องหาที่จับกุมครั้งนี้ล้วนเป็นพ่อ แม่ และพี่น้องนายทศพร จิตรแม้น ทั้งสิ้น
    นางนิติยา ใยดี อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126 หมู่ 13 ต.ไผ่ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ตนและสามีได้ทำการค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลกับนายทศพรมาแล้วเกือบ 1 ปี โดยขั้นตอนคือโอนสดเงินให้ก่อนที่จะได้รับสลากในงวดถัดมา ซึ่งแต่ละงวดได้กำไรดีมาก ตอนนี้มีทุนหมุนเวียนประมาณ 12 ล้านบาท ก็มาถูกกลุ่มนายทศพรฉ้อโกงไป หลังทราบข่าวว่ามีการจับกุมกระบวนการได้ กลุ่มผู้เสียหายจึงมีการรวมตัวกันมาดูตัว และทราบว่ากลุ่มที่ถูกจับมาได้ส่วนใหญ่เป็นพ่อ แม่ ญาติของนายทศพร นอกจากนี้ยังทราบอีกว่ากลุ่มพวกนี้ได้เตรียมเงินสดและทองคำมูลค่ากว่า 2 ล้านบาทมาเพื่อขอประกันตัวเองออกไปด้วย เบื้องต้นได้แจ้งให้ตำรวจทราบและยึดเงินสดพร้อมทองคำไว้แล้ว อยากขอร้องตำรวจช่วยเหลือให้ความเป็นธรรมกับพวกตนด้วย ตอนนี้ทุกคนที่สูญเงินต่างเหมือนตายทั้งเป็นแล้ว
    ส่วนนางสุกัญญา สาแก้ว อายุ 48 ปี กล่าวว่า ตนเองนอกจากจะร่วมกับญาติขายที่ดินที่นามาลงทุน สูญเงินกว่า 10 ล้านบาทยังไม่พอ ตนยังเป็นผู้ใช้ชื่อเช่าบ้านเลขที่ 352 ม.12 บ้านดอนแก้ว ต.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านที่นายทศพรหัวหน้าแก๊ง กับพวก ได้มาขอเช่าเพื่อเป็นที่พัก หลังจากตำรวจได้บุกยึดทรัพย์ภายในบ้านไปแล้ว ตนเองได้ถูกเจ้าของบ้านมาทวงถามค่าเช่าบ้านตลอดมา ทำให้สุขภาพจิตย่ำแย่มาก ไม่รู้จะทำอย่างไรได้ ไม่มีที่พึ่ง
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกลุ่มผู้เสียหายเดินทางมาที่ สภ.รัตนบุรีไม่ขาดสาย ทุกคนต่างจะขอเข้าดูตัวและพูดคุยกับกลุ่มพ่อ แม่ ญาติพี่น้องนายทศพร ต้องการขอเงินคืน บางรายก็ด่าทอ และถามว่าเลี้ยงลูกอย่างไรถึงโกงได้มากมายอย่างนี้ ทำให้ตำรวจต้องคอยระมัดระวังป้องกันเหตุบานปลาย สำหรับนายทศพร จิตรแม้น เคยมีคดีฉ้อโกงประชาชนในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ดมาแล้ว และจะเปลี่ยนชื่ออยู่เรื่อยๆ เช่น คุณปิติ, ครูบาต้น, ครูบอย โดยเมื่อ พ.ศ.2561 อวดอ้างตนเองเป็นร่างทรง องคเจ้า ร่วมกับแก๊งเที่ยวหลอกลวง ทำให้มีผู้หลงเชื่อสูญเสียเงินจำนวนมาก.