ขุนคลังสั่ง “สศค.” คลอดของขวัญแจกปีใหม่ไม่ให้ซ้ำ “คนละครึ่ง-ช้อปดีมีคืน” รับต้องใช้เวลากว่าเศรษฐกิจฟื้น ปลัดคลังเผยอาจเจาะเป้าคนว่างงานที่มีอยู่กว่าล้าน โอ่ไม่ต้องกลัวงบเหลือบาน 5 แสนล้าน
เมื่อวันพุธที่ 14 ตุลาคม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์หลังเรียกประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงการคลัง และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ว่าได้ให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปศึกษาแนวทางการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน หลังจากที่ได้ออกนโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านโครงการคนละครึ่ง เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านค้า และมาตรการช้อปดีมีคืน ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภคแล้ว โดยมาตรการที่จะเป็นของขวัญปีใหม่ที่จะออกมานั้นจะเป็นอย่างไร และแจกให้ใครบ้าง ต้องขอเวลาพิจารณาก่อน
“สศค.ยังได้รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2563 และแนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2564 โดยคาดว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ดังนั้นจึงจำเป็นที่ภาครัฐต้องเพิ่มการใช้จ่ายเพื่อเยียวยาและช่วยเหลือประชาชนกลุ่มต่างๆ อย่างเร่งด่วนเพิ่มขึ้น” นายอาคมกล่าว
รมว.การคลังยังกล่าวถึงนโยบายการคลังว่า ต้องเน้นการประสานนโยบายและมาตรการภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังอย่างยั่งยืน โดยระยะสั้นจะให้ความสำคัญกับการบริหารเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวโดยเร็ว ตามมติของคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากการระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 (ศบศ.) โดยเฉพาะเรื่องเร่งด่วนคือ การกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศ รวมถึงการแก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่องของภาคธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) เช่น มาตรการซอฟต์โลน การเร่งรัดการปรับโครงสร้างหนี้ รวมถึงมาตรการการพักชำระหนี้ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 22 ต.ค.นี้ กระทรวงต้องประสานธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อกำหนดมาตรการที่เหมาะสมในระยะต่อไป ส่วนรายละเอียดต้องรอความชัดเจนจาก ธปท.อีกครั้ง
“ภารกิจสำคัญอีกเรื่องในระยะสั้นคือต้องพยายามให้เอกชนรักษาการจ้างงานขององค์กรไว้ให้ได้มากที่สุด โดยขณะนี้รัฐบาลได้อนุมัติโครงการส่งเสริมการจ้างงานใหม่สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่แล้ว ส่วนการสร้างความเข้มแข็งให้ฐานะการคลัง และการดูแลกระแสเงินสดของภาครัฐให้เพียงพอต่อการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจ จะให้ความสำคัญกับการจัดเก็บรายได้ตามเป้าหมาย โดยยังไม่มีการปรับเป้าใหม่ รวมทั้งต้องเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณในปี 2564 ทั้งงบรายจ่ายและงบลงทุน โดยเฉพาะงบการจัดประชุมสัมมนาในต่างจังหวัด” นายอาคมกล่าว
สำหรับมาตรการระยะปานกลาง นายอาคมกล่าวว่า มีเป้าหมายคือปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจและดูแลให้เศรษฐกิจไทยสามารถกลับมาเติบโตได้ตามศักยภาพหลังจากวิกฤติโควิด-19 โดยมีประเด็นเร่งด่วนคือ การเตรียมมาตรการฟื้นฟูหลังเศรษฐกิจเปิด ทั้งมาตรการด้านการเงินการคลังเพื่อรองรับการดำเนินการดังกล่าว และเร่งรัดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ โดยชูจุดแข็งว่าไทยเป็นประเทศที่ปลอดภัยในการลงทุน เพราะเป็นประเทศปลอดเชื้อ ซึ่งอาจจะเจาะกลุ่มการท่องเที่ยวเพื่อการลงทุน จากเดิมท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า มาตรการแจกของขวัญปีใหม่จะเน้นกลุ่มที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือในช่วงที่ผ่านมา โดยเป็นคนละส่วนกับมาตรการช้อปดีมีคืน และคนละครึ่ง ซึ่งเบื้องต้นอาจเจาะกลุ่มผู้ว่างงาน ซึ่งขณะนี้มีตัวเลขอยู่ราว 1 ล้านคนที่เข้าไปช่วยก่อน โดยไม่ต้องห่วงเรื่องงบประมาณ เพราะยังเหลือเงินจากพระราชกำหนดกู้เงิน 1 ล้านล้านบาทอีกประมาณ 5 แสนล้านบาท ที่ยังนำมาใช้ได้.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |