14 ต.ค.63 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงเรียนบ้านทุ่งมน ต.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจาก สพป.ขอนแก่น เขต 2 ลงพื้นที่ สอบสวนนักเรียนและครู และผู้ปกครอง ที่โรงเรียนดังกล่าว หลังเกิดเหตุรูนำนักเรียนหญิง 5 คนเข้าแจ้งความเอาผิด ผอ.โรงเรียนฯ หลังถูกลวนลามและกระทำการเชิงชู้สาว
นายสุบรรณ แหล่ป้อง ครูชำนาญการพิเศษ รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านทุ่งมน กล่าวว่า หลังจากมีครู นักเรียนเข้าแจ้งความกล่าวหาผู้อำนวยการโรงเรียนลวนลาม ซึ่ง สพป.ขอนแก่น เขต 2 ได้ออกคำสั่งทันทีให้ตัวเองรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ซึ่งเป็นเรื่องปกติในระบบราชการ เมื่อรับคำสั่งมาแล้วก็ทำหน้าที่ตัวเอง ด้วยการทำความเข้าใจกับครู ทั้ง 20 คน นักเรียน 260คน ให้ทุกคนมีใจโอบอ้อมอารีย์ ช่วยเหลือกันและกัน ไม่กลั่นแกล้งหรือทำร้ายคนอื่น ซึ่งทุกคนก็เข้าใจในหน้าที่ตัวเอง ครูก็ทำการสอนตามปกติ นักเรียนก็เข้าห้องเรียนหนังสือ
ขณะที่ น.ส.ภวรรค์อัมพร แถวโนนงิ้ว หรือครูพร อายุ 46 ปี ครูภาษาไทยโรงเรียนบ้านทุ่งมน ครูที่รับมอบอำนาจจากผู้ปกครองนักเรียนหญิง จำนวน 5คน พานักเรียนเข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมา กล่าวว่า หลังจากผู้ปกครองให้พานักเรียนเข้าแจ้งความก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำพร้อมกับนักเรียน จากนั้นได้พบและพูดคุยกับผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือเด็กนักเรียน และเลขาธิการศูนย์ช่วยเหลือนักเรียน นักศึกษาผู้ถูกล่วงละเมิดทางเพศ กระทรวงศึกษาธิการ พร้อมรักษาการ ผอ. สพป.ขอนแก่น เขต 2 และ ศึกษาธิการจังหวัดขอนแก่น จากนั้นก็ถูก คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจาก สพป.ขอนแก่น เขต 2 สอบปากคำด้วย ซึ่งก็ให้รายละเอียดตามที่นักเรียนบอกกล่าวมา เนื่องจากเรื่องที่นักเรียนบอกมานั้น ไม่ใช่เรื่องที่จะมาปั้นแต่งหรือกล่าวหา ใส่ร้ายใครได้ มีเพียงการบอกเล่าความจริงตามที่รับฟังมาเท่านั้น
"โดยส่วนตัวเมื่อทราบว่ามีการย้าย ผู้อำนวยการโรงเรียนออกไปแล้วก็รู้สึกโล่งใจ เพระถ้าผู้อำนวยการอยู่เกรงว่านักเรียนจะกลัว ไม่กล้ามาเรียนหนังสือ แต่ขณะนี้ไม่กดดันและสบายใจแล้ว อีกทั้งหลังเข้าแถวเคารพธงชาติหน้าเสาธงในช่วงเช้าเรียบร้อยแล้วนั้น นักเรียนระดับมัธยมพากันปรบมือและส่งเสียงให้กำลังใจ พร้อมทั้งบอกว่าสู้ๆ จึงมีกำลังใจขึ้นมาอีกหลายเท่า และจะยืนเคียงข้างนักเรียนไปตลอด เพราะทุกคนไม่ได้ใส่ร้ายและสร้างเรื่อง แต่เพราะนักเรียนรังเกียจไม่ชอบในการกระทำ และกลัวจนมีความเดือดร้อน หาที่พึ่ง เมื่อนักเรียนเดือดร้อนครูต้องช่วยเหลือเท่าที่จะช่วยได้"
ด้าน ยายหอม(นามสมมุติ) อายุ 59 ปี ยายของด.ญ.สี(นามสมมุติ) อายุ 14 ปีนักเรียนชั้น ม.2 ซึ่งเดินทางมาให้ปากคำกับ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง สพป.ขอนแก่น เขต 2 กล่าวว่า ทราบเรื่องจากหลานสาว ว่า ขณะเดินอยู่ในโรงเรียน ถูกผู้อำนวยการเรียก และเข้ามากอด โอบไหล่ ลูบไล้ที่แผ่นหลัง 2 ครั้ง จึงไม่ชอบและเกลียดการกระทำแบบนี้ และหลานสาวยังบอกอีกว่า เพื่อนก็ถูกกระทำเหมือนกัน จะพากันนำเรื่องนี้ไปแจ้งให้ครูในโรงเรียนทราบ จากนั้นไม่นาน ครูพรก็เรียกผู้ปกครองของนักเรียนหญิงทั้ง 5 คน ไปสอบถามถึงเรื่องที่ลูกหลานบอกกล่าว ซึ่งทุกคนไม่พอใจ แต่ไม่มีเวลาเดินเรื่องและแจ้งความ จึงได้มอบอำนาจให้ครูพรพานักเรียนเข้าแจ้งความ หากมีการสอบสวนจะเดินทางไปให้ปากคำเอง
"ยายไม่เคยเห็นหน้าผู้อำนวยการ เพราะไม่ใส่ใจเนื่องจาก ผู้อำนวยการหลายคนที่มาบริหารที่โรงเรียนแห่งนี้ไม่เคยสร่งปัญหาที่ขุ่นเคืองใจให้ผู้ปกครองและนักเรียน มีเพียงผู้อำนวยการคนปัจจุบันที่มาทำเรื่องเช่นนี้ ซึ่งเมื่อเกิดปัญหา ไม่ได้ต้องการให้ออกจากราชการต้องการเพียงการย้ายออกจากพื้นที่ไป และปรับปรุงตัวเอง อย่าสร้างปัญหาอีก เพราะเชื่อว่า ไม่มีพ่อแม่ ผู้ปกครองนักเรียนรายใดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น และถ้าย้ายไปแล้วอย่าเอากลับมาในพื้นที่อีกเด็ดขาด"
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |