น้ำมูลที่ไหลผ่าน อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ หนุนสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเริ่มเอ่อล้นตลิ่งท่วมนาข้าวเกษตรกรติดริมมูลแล้ว หลังพายุฝนกระหน่ำต่อเนื่อง ขณะศูนย์ร่มโพธิ์แก้ว สาขา 7 ของพระพยอม เฝ้าระวังเตรียมพร้อมรับมือน้ำเหนือจากโคราชที่จะไหลมาสมทบ หลังเคยท่วมหนักปี 53
12 ต.ค.63 - สถานการณ์น้ำในลำน้ำมูลที่ไหลผ่าน อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ มีปริมาณหนุนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงนี้ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 5-10 เซนติเมตร จนเริ่มเอ่อล้นตลิ่งหลากเข้าท่วมนาข้าวของเกษตรกรที่อยู่ริมลำน้ำมูลแล้วหลายร้อยไร่ และคาดว่าน้ำอีก 4-5 วัน น้ำเหนือจากจังหวัดนครราชสีมาก็จะไหลมาสมทบอีก
ทั้งนี้จะส่งผลให้ระดับน้ำมูลเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เสี่ยงน้ำท่วมในพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ติดริมน้ำมูล โดยเฉพาะศูนย์ร่มโพธิ์แก้ว สาขา 7 ตั้งอยู่บ้านวังปลัด ต.บ้านแพ อ.คูเมือง ของพระพยอม กัลญาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ที่เคยถูกน้ำมูลเอ่อเข้าท่วมหนักเมื่อปี 2553 โดยระดับน้ำท่วมสูงถึง 2 เมตร ส่งผลกระทบสัตว์เลี้ยงทั้งวัว แพะ หมู บ่อปลา รวมถึงพันธ์ุไม้อีกหลายชนิดที่ทางศูนย์ฯปลูกไว้ก็ได้รับความเสียหายด้วย ปีนี้ทางศูนย์ฯจึงได้มีการเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือไว้แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดน้ำท่วมหนักเหมือนปี 2553 ที่ผ่านมา
ด้าน พระวุฒิ พระผู้ดูแลศูนย์ร่มโพธิ์แก้ว สาขา 7 จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังจากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ก็ส่งผลให้ปริมาณน้ำมูลเพิ่มสูงขึ้นโดยช่วงนี้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 5-10 เซนติเมตร ซึ่งทางศูนย์ร่มโพธิ์แก้วก็ได้ติดตามสถานการณ์น้ำ และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะน้ำเหนือจาก จ.นครราชสีมา ที่จะไหลมาสมทบลงลำน้ำมูลเพิ่มเติม ซึ่งหลังจากทางศูนย์มีประสบการณ์น้ำท่วมหนัก เมื่อปี 2553 จึงได้มีการเตรียมการป้องกันน้ำท่วมจากมวลน้ำดังกล่าวไว้แล้ว ทั้งการสร้างคอกสัตว์ให้อยู่ในที่สูง ทำแนวกั้นน้ำป้องกันไม่ให้หลากเข้าร่วมพื้นที่การเกษตร รวมถึงอาคารต่างๆด้วย เชื่อว่าปีนี้ไม่น่าจะมีปัญหาน้ำท่วมเหมือนปี 2553
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |