11 ต.ค.63-นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรมว.พลังงาน โพสต์เฟซบุ๊กพร้อมภาพระหว่างหารือกับสมาพันธ์ SME รวมพลังคนตัวเล็ก จากผู้ประกอบการหลากหลาย เสริมความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ และหนุนธุรกิจเกื้อกูลกันและกัน โดยระบุว่า วันนี้มีโอกาส มาร่วมพูดคุยแชร์วิสัยทัศน์ กับพี่ๆ น้องๆ สมาพันธ์ SMEs ในฐานะผู้ก่อตั้งและประธานสมาพันธ์ฯ คนแรก ก่อนอื่นต้องขอชื่นชม คณะกรรมการสมาพันธ์ และสมาชิกฯ ที่ร่วมกันผลักดันสร้างเครือข่าย จากรุ่นสู่รุ่น และประสบความสำเร็จมากครับ เพราะสามารถเชื่อมโยงกับทั้งภาครัฐและผู้ประกอบการ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จนเกิดเป็นพลังทางสังคมอีกภาคส่วนหนึ่ง
"เป็นที่ทราบกันดีนะครับ ว่า MSME (ตามนิยามใหม่ ของ สสว.) ถือเป็นกลุ่มที่สร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศที่สร้างมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP MSME) ทั้งในเชิงโครงสร้างและในเชิงปริมาณ จากรายงานสถานการณ์วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ปี 63 ได้แสดงไว้ว่าในปี 62 มีมูลค่า 5.96 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน ต่อ GDP รวม ร้อยละ 35.3 โตเฉลี่ยร้อยละ 0.7 ตั้งแต่ปี 2554เป็นต้นมา ตัวเลขดังกล่าวสะท้อน เศรษฐกิจของ MSME ที่ยังคงมีบทบาทต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจประเทศ"
นายสนธิรัตน์ ระบุว่า เมื่อครั้งที่ผมอยู่ ในตำแหน่ง ที่กระทรวงพาณิชย์ ได้ให้นโยบายการผลักดันภาคการค้าและบริการ ซึ่งมองจากปัจจัยการสนับสนุนเมื่อครานั้น ยังมีไม่มากพอ จึงให้กรมส่งเสริมการค้าต่างประเทศและกรมพัฒนาธุรกิจ ได้ริเริ่ม ในการผลักดัน e-commerce มาสนับสนุนการค้า ไว้มีโอกาสจะแชร์ ข้อมูลแนวคิดนั้นให้ฟังครับ มาจนปัจจุบันการเติบโตของภาคการค้า และบริการใน ช่วง 4-5 ปี ที่ผ่านมา เห็นได้ชัดเจน คือ การเติบโตของ e-commerce โดยเฉพาะช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ที่ทั่วโลก การค้าใช้ระบบช่องทางการค้าทางออนไลน์ มากที่สุด และการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจเชื่อมโยง การบริโภคครัวเรือนและการขยายตัวของภาคเอกชน อีกทั้งมาตรการส่งเสริมของภาครัฐ เหล่านี้ มีผลต่อมูลค่าทางเศรษฐกิจมากครับ
อดีตรมว.พลังงาน ระบุว่า ฟันเฟืองที่สำคัญของสมาพันธ์ฯ ที่รวมตัวกันที่ผ่านมาถือได้ว่า เป็นหน่วยสานพลังการเชื่อมโยง MSME และSME กับหน่วยงานภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นการสะท้อนปัญหา ร่วมเป็นกรรมการในคณะต่างๆของรัฐ การร่วมพัฒนาสมาชิก จากที่ได้นั่งรับฟังข้อมูลที่หลากหลาย ยังมีเรื่องที่ต้องช่วยกันผลักดันอีกมากพอสมควรตัวอย่างเช่นมีกฎระเบียบที่ไม่สอดคล้องระหว่างมาตรการของรัฐต่อผู้ประกอบการฯลฯ ผมมีแนวคิดฝากยังพี่ๆน้องๆ ถึงการรวมตัวกันอย่างมีพลัง ทั้งนี้ระบบฐานข้อมูลสมาชิก ต้องชัดเจนสามารถสังเคราะห์และสามารถจำแนกตามขนาดธุรกิจ เพื่อให้ถอดมาตรการของรัฐ มาขับเคลื่อนกับสมาพันธ์ฯ ตอบโจทย์สมาชิกที่หลากหลายให้เข้ามามีส่วนร่วมทั้งภาคการผลิต ภาคเกษตร ภาคการค้าและบริการ โดยเลือกทำ ใน Sector ที่สำคัญในสถานการณ์ปัจจุบัน หรือจะทำอย่างไร หลังสถานการณ์โควิด-19 ควรเตรียมความพร้อมการปรับตัว ตามพฤติกรรมการค้าในประเทศและของโลก จุดแข็งตรงนี้ ถ้าเราผลักดันสู่ช่องทางที่เหมาะสมก็จะเป็นจุดเปลี่ยนของธุรกิจ
"ผมใช้เวลาช่วงนี้เชื่อมโยงกลุ่มต่างๆ ทั้งภาคประชาสังคมและทุกภาคส่วน แลกเปลี่ยนข้อมูล คิด ค้น ตกผลึก หาแนวทางแก้ปัญหาความยากจน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ในกรณีที่สมาพันธ์ SMEs ทำอยู่เป็นโมเดลหนึ่งที่ดี และอีกหลายๆ โมเดล ผมจะมาเล่าให้ฟังอีกครับ ต้องขอบคุณน้องๆ ในสมาพันธ์ฯทุกท่านที่ แชร์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ร่วมกัน และเราจะร่วมกันพัฒนาประเทศ ต่อไปครับ"
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |