เวที 'ภูเก็ตไม่ทน' คนร่วมบางตา เรียกร้อง 'บิ๊กตู่-ส.ว.' ลาออกไป


เพิ่มเพื่อน    

10 ต.ค.63 - กลุ่มเครือข่าย "ภูเก็ตไม่ทน" นำโดย นายสรวุฒิ ปาลิมาพันธ์ ,นายทัชชกร ดิลกแพทย์,นายชูเวช เดชดิษฐรักษ์ และนักธุรกิจจากป่าตอง รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เปิดเวที "ภูเก็ตไม่ทน" สลับกันกล่าวปราศรัย โดยมีชาวภูเก็ตและผู้สนใจเข้าร่วมฯประมาณ 20 คน ท่ามกลางการรักษาความสงบเรียบร้อยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองภูเก็ตและฝ่ายปกครองอำเภอเมืองภูเก็ต  ณ บริเวณสะพานหินภูเก็ต

เครือข่ายคนที่ได้รับความเดือดร้อนในจังหวัดภูเก็ต ออกแถลงการณ์ "ภูเก็ตไม่ทน" ระบุว่า  จังหวัดภูเก็ต มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม มีชื่อเสียง มีวัฒนธรรมประจำถิ่น     โดดเด่น เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ในแต่ละปี มีนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติ      เดินทางเข้ามา ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคนต่อปี สร้างงาน สร้างรายได้ให้คนภูเก็ต มีเม็ดเงินไหลเวียนเข้าสู่ครอบครัว อีกทั้งภูเก็ตเป็นจังหวัด ที่ทำรายได้หลัก ให้กับประเทศปีละไม่ต่ำกว่า 4 แสนล้านบาท

ความเป็นอยู่ที่ดีของคนภูเก็ต ได้เริ่มทรุดต่ำ ดิ่งเหวลง เมื่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาตั้งตนเป็นหัวหน้าทำการปฏิวัติ รัฐประหาร ยึดอำนาจปกครองประเทศแบบเผด็จการ ใช้ชื่อว่า          คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557

หลังจากยึดอำนาจแล้ว พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา บริหารประเทศแบบเอื้อนายทุน เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม การบังคับใช้กฎหมายมีหลายมาตรฐาน ช่วยเหลือพวกพ้องตัวเองให้พ้นผิด แต่จ้องลงโทษ กับคนเห็นต่าง ออกแบบเขียนรัฐธรรมนูญ กติกาสูงสุดของประเทศ ให้มีการสืบทอดอำนาจ โดยกำหนดให้ สว. 250 คน ที่ตนเองคัดเลือกเข้ามา มีสิทธิ์โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี

ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา บริหารประเทศล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง โดยขาดความรู้ ความสามารถ ปราศจากภาวะผู้นำ ไร้ซึ่งวิสัยทัศน์ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตที่ทรุดต่ำลง จากการถาโถมเข้ามา ของการแพร่ระบาดเชื้อโรคไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ได้  ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต อย่างรุนแรง เศรษฐกิจหยุดชะงัก ต่างชาติไม่กล้ามาลงทุน นักท่องเที่ยวเริ่มน้อยลง รายได้ของคนภูเก็ต เหือดหายไป บางธุรกิจต้องปิดตัวลง เจ้าของธุรกิจมีการผูกคอตายหนีปัญหาหนี้สิน

ธุรกิจการท่องเที่ยว ที่เป็นแหล่งรายได้หลักของคนภูเก็ต ต้องหยุดชะงัก โรงแรมที่พักนับร้อยแห่ง ต้องปิดตัวลง บางแห่งบางพื้นที่ ต้องขึ้นป้ายขายในราคาถูก รถตู้ รถแท็กซี่ จอดนิ่งไม่เคลื่อนไหว รอไฟแนนซ์มายึด กับรอขายออกในราคาถูกให้เต้นท์รถยนต์มือสอง  เจ้าของบ้านเช่าต้องปล่อยทิ้งร้าง ไม่มีคนมาเช่า ร้านอาหาร ผับ บาร์ ถูกปิดเงียบสนิท ผู้ประกอบการ ที่เคยมีรายได้ มีเงินเข้ากระเป๋าทุกวัน  ปัจจุบันไม่มีแม้แต่เงินค่าขนมให้ลูกไปโรงเรียน  ลูกจ้าง คนใช้แรงงานหาเช้ากินค่ำ ต้องอดมื้อ    กินมื้อ รอวันตาย บางราย ผูกคอตาย หนีปัญหาหนี้สินไปแล้วก็มี ถือได้ว่าเป็นวิกฤตร้ายแรงของคนภูเก็ตอย่างแท้จริง

การบริหารประเทศที่ล้มเหลวของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นต้นตอของปัญหา ที่ทำให้คนภูเก็ต ถึงจุดตกต่ำ เลวร้ายที่สุดอยู่ในขณะนี้ ดังนั้น นับแต่วันนี้ คนภูเก็ตจะไม่ทน อดอยากปากแห้ง รอวันตายได้อีกต่อไป คนภูเก็ตจะไม่ทนให้ไฟแนนซ์มายึด รถตู้ รถแท็กซี่ ไปต่อหน้าต่อตา คนภูเก็ต จะไม่ทนกับความไม่แยแส ของรัฐบาล คนภูเก็ตจะไม่ทนเห็นโรงแรมร้าง ผับ บาร์ ร้านอาหาร          ปิดเงียบ อีกต่อไปคนภูเก็ตจะไม่ทนเห็นการแพร่ระบาด ของยาเสพติด อีกต่อไป

คนภูเก็ตจะไม่ทนให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ในอำนาจบริหารประเทศซ้ำเติมความเลวร้ายให้คนภูเก็ตต่อไปอีก ที่ผ่านมา พวกเราคนภูเก็ตเคยส่งเสียงบอกกล่าว สะท้อนปัญหาความเดือดร้อน ผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้พลเอกประประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลทราบแล้ว แต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่แยแส กลับเพิกเฉย ไม่สนใจ ที่จะแก้ปัญหาให้คนภูเก็ต

ดังนั้นวันนี้พวกเราคนภูเก็ต ที่มีปัญหาความเดือดร้อน และได้รับผลกระทบ อันเนื่องมาจากการบริหารประเทศที่ล้มเหลว ของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้ารัฐบาล มารวมตัวกัน ภายใต้ชื่อกลุ่มว่า “ภูเก็ตไม่ทน” ออกแถลงการณ์ แจ้งให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ และข้อเรียกร้อง ของพวกเรา ดังนี้

วัตถุประสงค์ 1.เป็นการรวมตัวกันของคนภูเก็ต ที่ได้รับความเดือดร้อนและมีผลกระทบจากการบริหารประเทศล้มเหลวของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล    2.ผลักดัน รณรงค์ ให้มีการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของคนภูเก็ต3.สนับสนุน หลักการ การปกครองตามระบอบประชาธิปไตย

ข้อเรียกร้อง 1. เร่งให้มีการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของคนภูเก็ต ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตที่เกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด -19 )

2. จัดให้ภูเก็ตเป็นจังหวัด จัดการตนเอง โดยผู้ว่าภูเก็ต ต้องมาจากการเลือกตั้ง

3. สนับสนุนข้อเรียกร้องของกลุ่มเยาวชนปลดแอก และกลุ่มประชาชนปลดแอก กล่าวคือ 3.1 หยุดคุกคามสิทธิเสรีภาพ ของนักศึกษา และประชาชน 3.2 จัดให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2560 อย่างเร่งด่วน 3.3 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และ สว. 250 คน ต้องลาออกไป.


 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"