รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2563 มอบให้ "โครงการอาหารโลก" ของยูเอ็น จากความพยายามต่อสู้กับความหิวโหยและปรับปรุงสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสันติภาพในพื้นที่ขัดแย้ง โดยจัดส่งอาหารช่วยเหลือผู้คนที่อดอยากทั่วโลก ขณะที่การระบาดของไวรัสโคโรนายิ่งเพิ่มจำนวนผู้หิวโหยอีกหลายล้านคน

    คณะกรรมการโนเบลของนอร์เวย์ประกาศผลรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2563 เมื่อวันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม โดยมอบให้แก่โครงการอาหารโลก (ดับเบิลยูเอฟพี) ประธานหญิงของคณะกรรมการ เบริต ไรส์-แอนเดอร์เซ็น กล่าวว่า ด้วยการมอบรางวัลให้แก่ดับเบิลยูเอฟพี คณะกรรมการฯ ปรารถนาจะเปลี่ยนสายตาของชาวโลกไปยังผู้คนหลายล้านคนที่ทุกข์ทรมาน เพราะความหิวโหยหรือต้องเผชิญความเสี่ยงจากความหิวโหย
    ดับเบิลยูเอฟพีได้รับเกียรติจากความพยายามต่อสู้กับความอดอยากหิวโหย, จากการมีส่วนร่วมในการปรับปรุงสภาวะที่ดีขึ้นสำหรับสันติภาพในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง และจากการทำหน้าที่เป็นแรงผลักดันความพยายามป้องกันการใช้ความหิวโหยเป็นอาวุธสงครามและความขัดแย้ง" คำประกาศของคณะกรรมการโนเบลนอร์เวย์กล่าว
    คณะกรรมการโนเบลกล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาส่งผลให้จำนวนผู้ประสบกับภาวะหิวโหยในโลกเพิ่มขึ้นอย่างมาก จนกว่าจะถึงวันที่มีวัคซีนทางการแพทย์ อาหารคือวัคซีนที่ดีที่สุดในการต่อต้านความโกลาหลวุ่นวาย
    "มีการประเมินภายในโครงการอาหารโลกว่า จะมีผู้คนอดอยากหิวโหย 265 คนภายใน 1 ปี แน่นอนว่าการมอบรางวัลครั้งนี้ยังเป็นการเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศอย่าได้ให้ทุนสนับสนุนแก่โครงการอาหารโลกน้อยไป"
    ด้านเดวิด บีสลีย์ ผู้อำนวยการดับเบิลยูเอฟพี กล่าวผ่านทวิตเตอร์ว่า องค์กรรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับรางวัลนี้ และทำให้ตัวเขาพูดไม่ออก
    องค์กรในสังกัดองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แห่งนี้ก่อตั้งเมื่อปี 2504 ให้ความช่วยเหลือผู้คนถึง 97 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว โดยแจกจ่ายอาหาร 15,000 ล้านชุดแก่ผู้คนใน 88 ประเทศ องค์กรนี้จัดส่งอาหารด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าเฮลิคอปเตอร์ หรือบนหลังช้างและอูฐ ดับเบิลยูเอฟพีภาคภูมิใจในการเป็นองค์กรมนุษยธรรมชั้นนำในโลกที่ผู้คนประมาณ 690 ล้านคนเข้านอนทั้งที่กระเพาะว่างเปล่า
    รางวัลโนเบลสันติภาพปีที่แล้วมอบให้แก่นายกรัฐมนตรีอาเบีย อาเหม็ด ของเอธิโอเปีย ที่การทำความตกลงสันติภาพกับเอริเทรียช่วยยุติการคุมเชิงทางทหารยาวนาน 20 ปี ภายหลังทำสงครามกันในปี 2541-2543 รางวัลที่ดับเบิลยูเอฟพีได้รับในปีนี้เป็นรางวัลโนเบลสันติภาพครั้งที่ 12 แล้วที่หน่วยงานหรือบุคลากรในสังกัดของยูเอ็นได้รับ.