เปิดไทม์ไลน์ กกต. กำหนด 20 ธ.ค. เป็นวันเลือกตั้งอบจ. เปิดรับสมัคร 9-13 พ.ย. สะพัดพลังประชารัฐหนุน "ตู่ นันทิดา" ลงชิง "นายก อบจ.ปากน้ำ" ในนามกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้าของ "ชนม์สวัสดิ์" ด้าน "ธนาธร" ใช้ตึกไทยซัมมิทเปิดตัว 32 ผู้สมัครนายก อบจ. คณะก้าวหน้า

    หลังมีรายงานว่าคณะรัฐมนตรีได้มีหนังสือแจ้งมติคณะรัฐมนตรีที่เห็นชอบให้มีการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดมายัง กกต.แล้วเมื่อวันที่ 7 ต.ค. และ กกต.เตรียมที่จะมีการประชุมเรื่องดังกล่าวในวันที่ 12 ต.ค.นี้นั้น มีรายงานว่า หาก กกต.เห็นชอบที่จะให้กำหนดให้วันที่ 20 ธ.ค.63 เป็นวันเลือกตั้งนายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ตามไทม์ไลน์ขั้นตอนการปฏิบัติต่างๆ ที่สำนักงาน กกต.เตรียมไว้ และจะเสนอให้ที่ประชุม กกต.พิจารณาเห็นชอบนั้น กำหนดช่วงเวลาต่างๆ ไว้คือ
    วันที่ 6 ต.ค. คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น,   วันที่ 15 ต.ค. ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด (ผอ.กต.จว.)เสนอรายชื่อผู้ได้รับคัดเลือกเพื่อพิจารณาแต่งตั้งเป็น กกต.ท้องถิ่น,  วันที่ 16 ต.ค. วันสุดท้ายที่ ผอ.กต.จว.ประกาศจำนวนเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง, วันที่ 19 ต.ค. กกต.พิจารณาแต่งตั้ง กกต.ท้องถิ่น
    วันที่ 21-23 ต.ค. ประชุมชี้แจงแก่ ผอ.กต.จว.และปลัดจังหวัด,  วันที่ 28 ต.ค. กกต.ประกาศให้มีการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.), วันที่ 4 พ.ย. ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (ผอ.กต.ท้องถิ่น) ประกาศให้มีการเลือกตั้ง
    วันที่ 9-13 พ.ย. รับสมัครเลือกตั้ง, วันที่ 20 พ.ย. ผอ.กต.ท้องถิ่นประกาศรายชื่อผู้สมัคร, วันที่ 21-23 พ.ย.ผู้สมัครที่ไม่ได้รับสมัครยื่นคำร้องต่อ กกต., วันที่ 21-30 พ.ย. บุคคลร้องคัดค้านว่าผู้สมัครผู้ใดไม่มีสิทธิสมัคร, วันที่ 24 พ.ย. วันสุดท้ายที่ ผอ.กต.ท้องถิ่นประกาศหน่วยเลือกตั้ง ที่เลือกตั้ง ปิดประกาศรายชื่อฯ
    วันที่ 29 พ.ย. วันสุดท้าย ผอ.กต.ท้องถิ่นแต่งตั้งกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง รักษาความปลอดภัย, วันที่ 5 ธ.ค. วันสุดท้ายที่ ผอ.กต.ท้องถิ่นแจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปยังเจ้าบ้าน, วันที่ 12 ธ.ค. ผู้สมัครฯ แต่งตั้งตัวแทนผู้สมัครประจำหน่วยเลือกตั้ง     วันที่ 19 ธ.ค. วันสุดท้ายที่ศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาควินิจฉัยสิทธิสมัครและวันสุดท้ายการมอบอุปกรณ์, วันที่ 20 ธ.ค. วันเลือกตั้ง อบจ. และวันที่ 27 ธ.ค. วันสุดท้ายของการแจ้งเหตุไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
    มีความเคลื่อนไหวการเลือกตั้งนายก อบจ.สมุทรปราการ มีรายงานว่า มีการวางตัว "นันทิดา แก้วบัวสาย" หรือตู่ นักร้องชื่อดัง ซึ่งปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นรองประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ จะลงสมัครแข่งขันนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรปราการ ในนาม "กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า" ที่มี นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ เป็นแกนนำคนสำคัญ นอกจากนั้น ยังเตรียมความพร้อมในการวางตัวทีมผู้สมัคร ส.จ.เอาไว้ครบหมดแล้ว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงสมัครนายก อบจ.สมุทรปราการนั้น แม้จะลงในนามกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า แต่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นอย่างดี โดยปัจจุบัน พปชร. มี ส.ส.ในพื้นที่สมุทรปราการถึง 6 เขต จากทั้งหมด 7 เขต
    นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการประชุมหัวหน้าภาค 9 ภาคของพรรค พปชร. เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ. เมื่อวันที่  8 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า เป็นการประชุมตามขั้นตอนตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค พปชร. ได้แจกงานให้รองหัวหน้าพรรคไปกำกับดูแลในแต่ละภาค ซึ่งเป็นการหารือในแต่ละลำดับชั้น โดยมีหลายเรื่องหลายประเด็น รวมทั้งเรื่อง อบจ. แต่เรื่องดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจน และยังไม่ได้รับรายงานการหารือว่าเป็นอย่างไร เพราะการเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และมีผู้ที่ลงสมัครจำนวนมาก จากหลายกลุ่ม หลายพวกหลายพ้อง หลายความคิดเห็น หลายบริบท จึงต้องดูรายละเอียดกันสักพัก และพูดคุยเป็นการภายในระดับแกนนำของพรรค จากนั้นจึงจะสรุปรายละเอียด
    เมื่อถามว่า มี ส.ส.บางจังหวัดระบุจะสนับสนุนคนของอีกพรรคหนึ่ง เช่น น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี ประกาศสนับสนุนคนของพรรคภูมิใจไทย นายอนุชากล่าวว่า ต้องมาพูดคุยกัน เพราะบางครั้งเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. จะไปกำหนดกฎเกณฑ์ตายตัวว่าใครจะต้องทำอะไรอย่างไรคงไม่ได้ และเรื่องการเมืองท้องถิ่นก็เป็นเรื่องยากในระดับพรรค แต่ท้ายที่สุดแล้วหัวหน้าพรรคจะตัดสินใจร่วมกับกรรมการบริหารพรรค เพราะเป็นการทำงานในระบบของพรรค และหัวหน้าก็มีความละเอียดอ่อนในเรื่องนี้
    ที่อาคารไทยซัมมิท นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้จัดกิจกรรมเปิดตัวผู้สมัครเลือกตั้งท้องถิ่น ภายใต้แคมเปญการหาเสียง "เปลี่ยนประเทศไทยเริ่มได้ที่บ้านเรา" โดยนายธนาธร กล่าวบนเวทีตอนหนึ่งว่า คณะก้าวหน้าลงแข่งขันสนามเลือกตั้งท้องถิ่นด้วยยึดแนวทางของพรรคอนาคตใหม่เดิม คือการหาเสียงด้วยนโยบาย ไม่ใช่การซื้อเสียง เพราะการซื้อเสียงเป็นจุดเริ่มต้นของการทุจริต ถ้าเราเข้าสู่อำนาจด้วยการใช้เงินย่อมต้องมีการถอนทุนคืน เราจะไม่ทำอย่างนั้น
    ดังนั้น เราจะใช้นโยบายในการแข่งขัน ซึ่งที่มาจากกรอบแนวคิดเดิมของพรรคอนาคตใหม่ ที่เชื่อว่าคนเท่าเทียมกัน ผลักดันให้ประเทศไทยเท่าทันโลก เป็นเสาหลักนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ โดยภายหลังพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบและมุ่งหน้าทำงานในนามคณะก้าวหน้า เราแปรนโยบายระดับชาติมาเป็นระดับท้องถิ่นที่ประชาชนจับต้องได้
    เขากล่าวว่า วันนี้เราประกาศความพร้อมของคณะก้าวหน้า มีว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ. 32 คน ซึ่งเรามีกรอบการทำงานท้องถิ่นของคณะก้าวหน้า คือ 1.ยึดมั่นในคุณค่าประชาธิปไตย 2.ไม่เอาชนะทางการเมืองด้วยการซื้อเสียง แต่เอาชนะด้วยนโยบาย 3.ไม่มีประวัติการค้ามนุษย์และยาเสพติด 4.เราจะไม่ทุจริตเมื่อเข้าไปมีอำนาจ และ 5.ปฏิรูประบบราชการยุติการรวมศูนย์อำนาจอยู่ที่ส่วนกลาง
    "อยากให้พี่น้องประชาชนให้กำลังใจพวกเรา และช่วยให้พวกเราเข้าไปบริหาร อบจ.ต่างๆ เหล่านี้ พวกเราสัญญาว่าจะนำความไว้วางใจที่มอบให้ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้กับท้องถิ่น"
    ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือด และเป็นพื้นที่ของกิจการครอบครัวนายธนาธรด้วย จะส่งผู้สมัครหรือไม่ นายธนาธรกล่าวว่า ตอนนี้เราคัดเลือกได้ 32 จังหวัดแล้ว เหลืออีก 7 จังหวัดกำลังอยู่ในการพิจารณา ซึ่งจังหวัดอื่นๆ เราก็ยังไม่ได้ปิดรับสมัคร จึงขอใช้โอกาสนี้เชิญชวนประชาชนที่รักประชาธิปไตย และต้องการเห็นท้องถิ่นเปลี่ยนแปลง ให้เข้ามาร่วมทางกับพวกเราโดยลงสมัครนายก อบจ. ในนามของคณะก้าวหน้า ท้องถิ่นเปลี่ยนแปลงไม่ได้ถ้าไม่มีใครกล้าลงมือทำ แน่นอนที่สุด จ.สมุทรปราการก็เป็นพื้นที่เป้าหมายของเรา  
    ซักว่าขณะนี้มีกระแสข่าวชื่อ น.ส.นันทิดาลงสมัครนายก อบจ.สมุทรปราการ ในนามกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า จะทำให้ประชาชนเกิดความสับสนกับคณะก้าวหน้าหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า ไม่สับสน ชื่อของพวกเราคือคณะก้าวหน้าทั่วประเทศ
    ถามต่อว่า การเสนอชื่อ น.ส.นันทิดา ถือเป็นการประกาศว่าเป็นพื้นที่บ้านใหญ่หรือไม่ นายธนาธรกล่าวว่า หลายจังหวัดเป็นการเมืองผูกขาดโดยบ้านใหญ่ของแต่ละจังหวัด ถือเป็นการครอบงำทางการเมือง ประชาชนคงเห็นด้วยตัวเองแล้ว กว่า 10 ปีที่ผ่านมาในท้องถิ่นมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง หากท่านไม่พอใจกับการเมืองท้องถิ่นปัจจุบัน และต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง ขอให้กล้าที่จะเปลี่ยนในการเลือกตั้งครั้งนี้
    ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังเชื่อหรือไม่ว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นจะเกิดขึ้นภายในปี 2563 ประธานคณะก้าวหน้าตอบว่า ประเด็นที่สำคัญที่สุดคือวันเลือกตั้งท้องถิ่นว่าจะเป็นวันที่ 13 ธ.ค. หรือวันที่ 20 ธ.ค. เพราะการเลือกวันใดวันหนึ่งจะมีผลต่อการเมืองอย่างมหาศาล  ถ้าหากมีการจัดเลือกตั้งในวันที่ 20 ธ.ค. จะมีผลให้ประชาชนต้องกลับภูมิลำเนาถึง 3 ครั้ง เนื่องจากช่วงวันหยุดยาวในวันรัฐธรรมนูญ และเทศกาลปีใหม่ จึงไม่สมเหตุสมผล และอาจทำให้ประชาชนไปเลือกตั้งน้อยลง ทั้งภาวะเศรษฐกิจแบบนี้รัฐบาลต้องลดภาระในการเดินทางของประชาชน
    "คณะก้าวหน้าจึงเห็นว่าการเลือกตั้งในวันที่ 13 ธ.ค. มีความเหมาะสมกว่า หากในรัฐบาลประกาศให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 20 ธ.ค. ก็เป็นความชัดเจนว่ากลัวความพร้อมของคณะก้าวหน้า"  
    เมื่อถามว่ามีความมั่นใจการทำหน้าที่ของ กกต.ชุดนี้หรือไม่ นายธนาธรกล่าวว่า การจัดเลือกตั้งครั้งนี้ กกต.มีโอกาสพิสูจน์ตัวเอง เพราะหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือน มี.ค.2562 ก็มีประชาชนร่วมลงชื่อเพื่อถอดถอน กกต. ชุดนี้กว่า 1 ล้านคน อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่เคยมีองค์กรไหนมีวิกฤติศรัทธาขนาดนี้มาก่อน ภาระหน้าที่ของ กกต.ง่ายนิดเดียว คือการจัดเลือกตั้งอย่างโปร่งใสและยุติธรรม ดังนั้นจึงอยากฝากไปถึง กกต.ว่าจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ขอให้ยึดมั่นในความถูกต้อง ถ้าทำหน้าที่ในส่วนนี้ไม่ได้ และประชาชนเคลือบแคลงสงสัย หรือประชาชนไม่มีศรัทธาให้แก่องค์กรอิสระ ก็เท่ากับว่าท่านกำลังพาสังคมไทยไปสู่ทางตัน.