'อนุชา' รับไม่ได้ม็อบปฏิรูปสถาบัน เรื่องอื่นคุยได้หมด ฟันธง 14 ต.ค.คนไม่มากกว่าเดิม


เพิ่มเพื่อน    

 

9 ต.ค.63 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา  นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมของ "กลุ่มคณะราษฎร" ในวันที่ 14ตค. มีความกังวลอะไรหรือไม่ว่า ไม่มี เราไม่เห็นว่ามีอะไรแตกต่างจากครั้งก่อน และนำไปสู่สถานการณ์ที่เลวร้าย ถือเป็นการแสดงออกของนักเรียนและนักศึกษา ซึ่งเป็นลูกหลาน ที่มาแสดงออกตามสิ่งที่เขาคิดเขาเห็น  และ สิ่งที่เขาอยากให้มันเกิด   อีกส่วนหนึ่งก็อยู่ที่ประชาชนเห็นด้วยหรือเห็นต่างอย่างไร เราต้องรอดูผลความคิดเห็นของสังคมส่วนรวมด้วย ถ้าถามว่าเป็นกังวลหรือไม่ ก็ต้องบอกว่าเป็นกังวล เป็นห่วง นิสิต นักศึกษาที่เป็นลูกหลาน อยากให้ทุกฝ่าย ดำเนินการตามขอบเขตรัฐธรรมนูญตามขอบเขตประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ซึ่งความเห็นต่างไม่ใช่เรื่องแปลก แต่การดำเนินการให้บ้านเมืองสงบสุข นำความเห็นต่างสู่เวทีประชาธิปไตยที่เราอยากเห็น โดยไม่เกิดวิบัติ กับชาติบ้านเมือง ซึ่งกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวจะได้เข้าใจขึ้นเป็นตามลำดับ ตามที่เขาได้พยายามเรียกร้อง

เมื่อถามว่าประเมินหรือไม่ว่ามีผู้ชุมนุมจะมามากกว่าวันที่ 19 ก.ย. นายอนุชา กล่าวว่า ตอนนี้คงประเมินอะไรได้ไม่มาก คงมีผู้ร่วมอุดมการณ์ และคงอยู่ในกรอบตามที่เขาดำเนินมา และคงไม่แตกต่างไปกว่าเดิม  ส่วนที่มีการเปลี่ยนชื่อเป็นกลุ่มคณะราษฎรนั้น ส่วนตัวคิดว่า เป็นเรื่องธรรมดา ที่เขาจะเปลี่ยนมิติ   เพราะที่ผ่านมายังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่เขาคิด จึงเปลี่ยนรูปแบบเพื่อหาแนวร่วมเพิ่มเติม เป็นสิ่งที่เราวิเคราะห์

เมื่อถามว่าเพื่อเป็นการโยงคณะราษฎรในอดีตหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า ไม่เป็นไรถือเป็นความคิดเห็นและเขาต้องการให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง แต่สังคมต้องการด้วยหรือไม่ สังคมต้องตอบ อยู่ที่ประชาชนคนไทย จะเป็นผู้ตอบโจทย์ประเทศจะไปในทิศทางไหน

"อยากวิงวอนนิสิต นักศึกษาหันหน้ามาคุยกันเพื่อหาทางออกให้ประเทศ รัฐบาล และนายกฯมีความจริงใจ และเป็นห่วงลูกหลานทุกคนไม่มีความคิดเป็นอย่างอื่น ไม่มีความคิดมาดร้ายหรือคุกคาม แต่บางครั้งผู้ชุมนุมอาจเกินเลย เรื่องขอบเขตกฎหมาย ซึ่งเราก็เห็นกันอยู่ เราก็รู้อยู่แก่ใจว่ามันเกินเลยแล้ว แต่รัฐบาล หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอะลุ่มอล่วย ให้เขาได้แสดงออก ส่วนการตัดสินใจเป็นหน้าที่ของประชาชนซึ่งคุมเสียงของประเทศเพราะเราต้องช่วยนำพาประเทศพ้นวิกฤติไปให้ได้เพราะมีวิกฤติอยู่หลายเรื่อง เช่นโควิด - 19  ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลก็ทำได้ดี ซึ่งประชาชนก็ต้องช่วยกันและป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งการชุมนุมก็มีความเสี่ยง แต่ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรเพราะเขาก็บอกว่าเป็นสิทธิ์"นายอนุชา ระบุ

เมื่อถามถึงข้อเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ  นายอนุชา กล่าวว่า บ้านเมืองเรามีเสาหลัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มานาน ที่เราไม่ต้องเป็นเมืองขึ้นของใคร ไม่อยู่ภายใต้ระบบเผด็จการ เรามาแถลงข่าวยืนพูด เดินขบวนกันได้ขนาดนี้ นับเป็นโชคดีของประเทศไทย ที่เรามีเสาหลัก ที่สามารถคานอำนาจสิ่งที่ไม่คาดฝันเหมือนที่ประเทศอื่นได้รับ นี่คือสิ่งที่เป็นคุณูปการที่เราได้รับมา ส่วนตัวถ้ามีเรื่องนี้ไม่เอาแน่นอน  หัวเด็ดตีนขาด ก็ไม่มีตนอยู่ในนั้นแน่นอนในการคิดและเปลี่ยนในสิ่งนี้ ถ้ามีเรื่องนี้ตนก็เดินตรงข้ามอย่างเต็มที่ เว้นเรื่องนี้เรื่องเดียว เรื่องอื่นคุยได้หมด เพราะเรื่องนี้คนคิดว่าเป็นเรื่องของชาติบ้านเมืองที่เราอยู่ปลอดภัยมา บางครั้งอะไรที่เราควรจะอดทนอดกลั้นเพื่อประเทศที่สงบและมีเสาหลักคานให้เราอยู่ได้เป็นที่ค้ำยันให้เรามีเสรีภาพในระบอบของเมืองไทยของเรา และเมืองไทยของเราไม่จำเป็นต้องคิดเหมือนคนอื่น100% และสิทธิเสรีภาพที่เราก็ค่อนข้างสูงแล้วในโลกใบนี้

นายอนุชา กล่าวด้วยว่า ขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้มอบหมายให้ใครเป็นผู้ประสานงานกับผู้ชุมนุม เพราะเขายังไม่ระบุว่าจะยื่นหนังสือมาที่รัฐบาลแต่อย่างใด

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"