วันที่ 8 ต.ค.ที่วัดพระเชตุพน นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม มีหน้าที่ส่งเสริมและดำเนินการปกป้องคุ้มครองมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม องค์การยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียนรับรองนวดไทยเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2562 ซึ่งภูมิปัญญาด้านการนวดไทยเป็นศาสตร์และศิลป์ทางการแพทย์ดั้งเดิมเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมท้องถิ่น เป็นการรักษาทางเลือกควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพตามแบบแผนตะวันตก เป็นมรดกภูมิปัญญาที่ได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นปัจจุบัน มีองค์กรต่างๆที่ส่งเสริมและพัฒนาการนวดไทยกว่า 50 องค์กร รวมถึงองค์กรภาควิชาชีพสถาบันการเรียนการสอนและสถานประกอบการเพื่อสุขภาพทั่วประเทศ การจัดงาน“ฉลองนวดไทยมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม” ถือว่าเป็นการประกาศและยืนยันบทบาทในการเป็นผู้ปฏิบัติและผู้สืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศไทยในเวทีโลก ซึ่งการจัดงานฉลองจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 29 ต.ค.ถึงวันที่ 2 พ.ย. 2563 ที่วัดพระเชตุพน ซึ่งถือเป็นแหล่งองค์รวบรวมความรู้นวดไทยที่สำคัญระดับโลก ทั้งการนวดไทยและฤๅษีดัดตน ที่มีทั้งจารึกตำราและรูปหล่อฤๅษีดัดตนเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ ภายในงานจะมีนิทรรศการให้ความรู้ สาธิตนวดไทย อีกทั้ง สวธ.ได้คัดเลือกสุดยอดการแสดงทางวัฒนธรรมที่มีความสวยงามและมีเอกลักษณ์แสดงถึงความเป็นไทยมาจัดแสดงทุกวันตลอดการจัดงาน
พระธรรมรัตนากร เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพน กล่าวว่า องค์การยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียนรับรองนวดไทยเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติโดยเฉพาะนวดตำรับวัดพระเชตุพนได้มีการจารึกไว้ในจารึกวัดพระเชตุพนถือว่าเก่าแก่ ทรงคุณค่า เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่ามีความครบถ้วนและสมบูรณ์ทุกประการ จุดกำเนิดการนวดไทยเกิดขึ้นที่นี่ ซึ่งปัจจุบันภายในวัดพระเชตุพนยังเป็นที่ตั้งของโรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดพระเชตุพน มีการให้บริการและสอนด้านการนวดไทยแก่ผู้สนใจ ดังนั้น องค์ความรู้ด้านการนวดตำรับวัดพระเชตุพนนี้จึงได้มีการถ่ายทอดแตกแขนงออกไปอย่างกว้างขวางจนถึงปัจจุบันช่วงที่โควิด-19 ยังไม่ระบาดมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมายังวัดพระเชตุพนเฉลี่ยวันละประมาณ 6,000-10,000 คน และในจำนวนนักท่องเที่ยวเหล่านี้มักจองคิวเพื่อขอรับบริการนวดไทยตำรับวัดพระเชตุพนพร้อมกันเสมอ การจัดงานฉลองนวดไทยวันที่ 29 ต.ค.ถึงวันที่ 2 พ.ย. มีกิจกรรมมากมายทำให้คนไทยรู้จักและเข้าใจคุณค่านวดไทยเพิ่มขึ้น
ด้าน พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การจัดงานฉลองนวดไทยมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมวันเปิดงาน คือวันที่29 ตุลาคม2563 ถือเป็นวันภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยแห่งชาติด้วย ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกมีส่วนร่วมการจัดนิทรรศการและการสาธิตการนวดไทยของบรมครูและภาคีเครือข่ายนวดไทยที่เดินทางมาจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศเพื่อมาสาธิตนวดไทยภายในงาน โดยเฉพาะนวดตำรับวัดพระเชตุพนที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานจะมาเปิดสาธิตให้ชมด้วย
“ ภูมิปัญญานวดไทยคือสิ่งสำคัญ เชิงนโยบายต้องขยายภูมิปัญญาดั้งเดิมนี้ นี่คือศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ นวดไทยตอบโจทย์เชิงสุขภาพ จุดที่กดมีคำอธิบายทางการแพทย์ เป็นจุดเริ่มต้นกล้ามเนื้อ เป็นจุดศูนย์รวมปลายประสาท กดแล้วคลายกล้ามเนื้อ โดยไม่เกิดผลข้างเคียงเหมือนการใช้ยาปฏิชีวนะและช่วยผ่อนคลายจิตใจ ประชาชนที่มาชมงานนวดไทยจะได้เห็นรูปแบบและภูมิปัญญาด้านการนวดไทยของแต่ละภูมิภาคที่มีความแตกต่างกันไปในงานเดียวซึ่งมีความน่าสนใจมาก นอกจากนี้จะมีการเสวนาทางวิชาการเป็นประจำทุกวันมีการออกร้านและจำหน่ายสินค้าสมุนไพรเพื่อสุขภาพมีการให้บริการอาหารเพื่อสุขภาพต่างๆ” พญ.อัมพรกล่าว
นายฐาปน สิริวัฒนภักดี ไวยาวัจกรวัดพระเชตุพนและกรรมการมูลนิธิสิริวัฒนภักดี ซึ่งให้ความสำคัญกับกิจกรรมต่างๆ ของวัดพระเชตุพนรวมทั้งการนวดไทย กล่าวว่า จารึกนวดไทยและฤๅษีดัดตนเกิดจากพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 และพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 โปรดสร้างไว้เป็นทานเมื่อครั้งสถาปนาและปฏิสังขรณ์วัดพระเชตุพนจนเปรียบเทียบว่า วัดพระเชตุพนเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทยและเป็นแหล่งเล่าเรียนสรรพวิชาความรู้ภูมิปัญญาไทยหลายแขนงในบรรดาสรรพวิชา“จารึกวัดโพธิ์” ซึ่งมีทั้งหมด1,440 ชิ้น ซึ่งได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำแห่งโลกโดยองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(UNESCO) โดยในจำนวนนั้นมี 60 ชิ้นพิเศษจารึกเกี่ยวกับการนวดไทยไว้เป็นหลักฐานองค์ความรู้การนวดไทยที่มีความสมบูรณ์ครบถ้วนมากที่สุดในปัจจุบัน จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติของ UNESCO ปี2562 อีกด้วย เมื่อวัดพระเชตุพนจะจัดงาน“ฉลองนวดไทยมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม” เป็นโอกาสที่จะเผยแพร่ความรู้และภูมิปัญญาด้านสุขภาพของประเทศไทยทั้งการนวดไทยและฤๅษีดัดตนที่มีทั้งจารึกตำราและรูปหล่อฤๅษีดัดตนนับเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์กับมวลมนุษยชาติ