เคาะกะลา!

                วานนี้ (๘ ตุลาคม) แกนนำม็อบ ๓ นิ้วนั่งแถลงข่าวที่สนามหลวง

                เรียงเป็นตับ

                ลักษณะแบ่งๆ กันอ่านแถลงการณ์จนครบทุกคน เข้าใจว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นก็หารกันลงตัวพอดี

                จากม็อบเยาวชนปลดแอก เป็นม็อบธรรมศาสตร์ ม็อบ ๑๙ กันยา ม็อบสนามหลวง

                ล่าสุดในแถลงข่าวในนาม "คณะราษฎร"

                สถานที่แถลงคือสนามหลวง แต่เรียกชื่อสนามราษฎร์

                แม้กระทั่งถนนราชดำเนิน ก็เปลี่ยนเป็นถนนราษฎร์ดำเนิน

                จริงอยู่สำหรับประเทศแล้ว ประชาชนมีความสำคัญสูงสุด

                แต่ประชาชนที่ไม่มีชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะเป็นประชาชนที่สมบูรณ์ได้อย่างไร

                ประชาธิปไตย สิทธิ เสรีภาพ ไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลย หากประชาชนเอาแต่คิดว่าตัวเองเป็นใหญ่ และไม่ฟังใคร

                สรุปแล้วม็อบ ๓ นิ้ว เปลี่ยนชื่อเรียกตัวเองไปเรื่อยๆ แล้วแต่วันไหนอยากเป็นอะไร

                รู้ตัวชัดๆ อีกทีว่าเป็นอะไรกันแน่ ก็คงวันที่ตัวเองเป็นกบฏ

                เห็นความสะเปะสะปะในทิศทาง เพราะลึกๆ แล้วม็อบ ๓ นิ้วมีวาระซ่อนเร้นนั่นเอง 

                หลังตีเกราะเคาะกะลา ปลุก ๖ ตุลา ฉายซ้ำความเหี้ยมโหด ด้วยความคาดหวังลึกๆ ว่า ๑๔ ตุลาคมปีนี้รัฐจะปราบปราม

                จะได้ม้วนเดียวจบ

                ทำไมถึงใช้ชื่อ "คณะราษฎร" ประเด็นนี้น่าสนใจ

                ที่ใช้เพราะ คณะราษฎร ทำรัฐประหาร ยึดอำนาจการปกครองไปจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้สำเร็จใช่หรือไม่

                และครั้งนี้จะทำเช่นที่คณะราษฎรในอดีตเคยทำใช่หรือเปล่า

                ๓ ประเด็นที่แถลงคือ

                ๑.พล.อ.ประยุทธ์ต้องลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี

                ๒.เปิดประชุมวิสามัญทันที เพื่อรับร่างแก้ไขเพิ่มเติม รธน.จากประชาชน

                ๓.ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์กลับมาอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ตามครรลองระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

                จากยุบสภาฯ มาเป็นนายกฯ ลาออก เด็กๆ ๓ นิ้วคงจะสับสน เพราะคราวที่แล้วจะให้ไปเลือกตั้งใหม่กันท่าเดียว

                ง่ายๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน แค่คาดหวังว่าเมื่อนายกฯ ลาออก จะนำไปสู่การเปลี่ยนขั้วการเมืองโดยไม่ต้องไปเลือกตั้ง

                แล้วใครรับไม้ต่อ...พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล

                ๒ พรรคนี้มาแล้วประเทศไทยจะมีการเมืองดี ทุกอย่างจะดีตามทั้งหมดอย่างนั้นหรือ

                ที่โกงกัน มีผลประโยชน์ทับซ้อนกัน อย่าง "ธนาธร" ก็ใช่ว่าจะมือสะอาด รัฐบาลยิ่งลักษณ์ออกนโยบายรถคันแรก ปีนั้นไทยซัมมิทโกยรายได้ ๗.๕ หมื่นล้านบาท

                คนพวกนี้เป็น "คนดี" พอที่จะสร้าง "การเมืองดี" ได้อย่างนั้นหรือ

                ลองไปถาม "บุญทรง เตริยาภิรมย์" ในคุกก่อนดีไหม

                เปิดสภาสมัยวิสามัญ ไปถาม ส.ส.ก่อนดีไหมว่า ช่วงปิดสมัยประชุมเขาต้องทำอะไรกันบ้าง                          

                จะปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ "เพนกวิน-ไมค์-รุ้ง-อานนท์" เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลแล้วก็ขอเรียกร้องทะลุเพดานต่อ อยากจะดูว่าในฐานะรัฐบาล พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกลจะทำอย่างไร

                ที่สำคัญ อยากเป็นคณะราษฎร รู้จักคณะราษฎรดีพอหรือยัง

                คณะ ๓ นิ้วรู้ไว้นะ

                คณะราษฎร คือผู้ออกพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๔๘๕ โดย  "ปรีดี พนมยงค์" ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ลงนามในวันที่ ๔ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๔๘๐ ประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมายในปี ๒๔๘๕ สมัยจอมพล ป.

                มาตรา ๖ วรรค ๓ บัญญัติไว้ว่า

                "บุคคลทุกคนจักต้องเคารพตามระเบียบเครื่องแบบหรือตามประเพณี คือ เคารพเพลงชาติ เพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงเคารพอื่นๆ ซึ่งบรรเลงในงานตามทางราชการ ในงานสังคม หรือในโรงมหรสพ"

                แล้วรู้หรือเปล่าว่า ข้อ ๖ ในปณิธานในการเปลี่ยนแปลงการปกครองของคณะราษฎรเขียนเอาไว้ว่าอย่างไร

                "จะต้องให้มีการศึกษาอย่างเต็มที่แก่ราษฎร"

                ทีนี้รู้แล้วนะไอ้พวกที่เข้าโรงหนังแล้วไม่ยืนเคารพ แสดงว่าไม่ได้รับการศึกษาที่ดีพอ

                จึงไม่เคารพกฎหมายของคณะราษฎร.