27 เม.ย. 61 - เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 เม.ย.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.วรพรรณ เบญจวรกุล ทนายความพร้อมด้วย นายวินัย ทองทัพ กำนัน ต.พระลับ รวมทั้งผู้แทนจากเหล่ากาชาด จ.ขอนแก่น,สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น,สำนักงานยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น,หน่วยงานในสังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงขอมนุษย์ หรือ พม.,บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จ.ขอนแก่น และ หน่วยงานฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัว นางมณีเนตร เจริญเหง่า อายุ 40 ปี ผู้เสียชีวิตขณะขับขี่รถจักรยายนต์กลับบ้านพัก ก่อนถูกสายสัญญาเคเบิ้ลเกี่ยวคอจนเกือบขาดเสียชีวิตคาที่ เหตุเกิด บน ถ.เหล่านาดี ด้านหน้าโรงเรียนแก่นนครวิยาลัย เองสนามกีฬากลาง จ.ขอนแกน เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานได้ลงพื้นที่ที่บ้านเลขที่ 78 ม.8 บ.หนองไฮ ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อพบกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ในการกำหนดแนวทางการให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆร่วมกัน รวมทั้งการร่วมเคารพศพผู้ตายที่ขณะนี้อยู่ในระหว่างการประกอบพิธีณาปนกิจที่วัดป่าเทพนิมิตรวนาราม บ.หนองไฮ
จากการพูดคุยกับคนในครอบคัวส่วนใหญ่ต่างยังคงอยู่ในอาการที่เศร้าโศกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและยังรับกับเหตุการณ์ไม่ได้เนื่องจากเป็นการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากการสูญเสียอย่างกระทันหัน ประกอบกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตมีฐานะยากจน สามีของผู้เสียชีวิตป่วยด้วยโรคอัมพฤกษ์ พ่อและแม่ ของผู้เสียชีวิตอยู่ในอาการป่วย ไม่สามารถทำงานได้ ลูกสาวคนเล็กป่วยเป็นออทิสติก มีเพียงลูกสาวคนโต ที่พึ่งสำเร็จการศึกษาในระดับ ปวส. รับจ้างรายวัน รองานประจำ ที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตเป็นเสาหลักของครอบครัวทำหน้าที่รับจ้างรายวันเช่นกัน
จากการพูดคุยกับ น.ส.กนกวรรณ ปัญญาพิมพ์ บุตรสาวของผู้เสียชีวิต บอกว่า เมื่อเล่าถึงเหตุการณ์การเสียชีวิตให้กับคุณพ่อฟัง คุณพ่อซึ่งป่วยด้วยโรคอัมพฤกษ์อยู่แล้วก็มีความเครียดอย่างเห็นได้ชัดและยังคงทำใจไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น หลังจากเกิดเหตุได้พูดกับครอบครัวตลอดว่าอยากที่จะฆ่าตัวตายเพราะไม่ต้องการเป็นภาระให้กับครอบครัว ทำให้วันนี้ครอบครัววิตกกังวลในเรื่องดังกล่าวอย่างมาก เพราะคุณพ่อนั้นไม่สามารถเดินได้หรือเคลื่อนย้ายตัวได้ ลูกๆและญาติ ต้องวิ่งไป-มา ระหว่างบ้านและวัด รวมทั้งการประสานงานร่วมกันกับทุกหน่วยงาน วันนี้การแจ้งใบมรณบัตรก็ยังไม่ได้ทำ วันนี้ทำได้เพียงกำลังและความสามารถที่ครอบครัวนั้นทำได้ โชคดีที่มีทนายความอาสา เข้ามาช่วยและเตือนสติ รวมทั้งการดำเนินการในด้านต่างๆ ทำให้ครอบครัวนั้นมีความหวังและพร้อมที่จะต่อสู้ในเรื่องดังกล่าวนี้ให้ถึงที่สุด
น.ส.วรพรรณ เบญจวรกุล ทนายความ กล่าวว่า การให้ความช่วยเหลือทางด้านคดีความนั้นต้องดำเนินการไปอย่างต่อเนื่องทั้งคดีแพ่งและอาญา โดยเฉพาะการร่วมทำงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ครอบครัวได้ลงบันทึกประจำวันและแจ้งความเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตครั้งนี้ ซึ่งในสำนวนคดีความนั้น บางประเด็นไม่ขอเปิดเผย เพราะจะกระทบกับสำนวนการสอบสวน โดยเบื้องต้นได้ประสานการทำงานในเรื่องสาเหตุที่เน้นไปที่สายสัญญาณที่ตกลงมานั้นเป็นของบริษัทฯใดและเกิดเหตุได้อย่างไร โดยจากข้อมูลของนิติกรของ กฟภ.ระบุชัดเจนว่า ความสูงที่พาดผ่านสายไฟระหว่างถนนนั้นต้องสูงจากพื้นดิน 5.5 เมตร แต่ถ้าพาดไหล่ทางหรือริมถนนจะต้องสูงจากพื้นดินที่ 4.4 เมตร ตามที่ กฟภ.กำหนด อย่างไรก็ดีกับประเด็นสายสัญญาณตกลงมาจากสาเหตุใด ประเด็นนี้คือสิ่งที่สังคมต้องการรับทราบอย่างมาก
“ภาพจากกล้องวงจรปิดภาพเหตุการณ์ของผู้เสียชีวิตในช่วงก่อนเกิดเหตุและขณะเกิดเหตุทั้งหมด โดยพบว่ามีรถยนต์บรรทุก 10 ล้อวิ่งสวนทางมากับผู้ตาย ในถนนเส้นทางเดียวกัน แต่มุมกล้องไม่ชัดเจนว่า รถยนต์บรรทุกคันนี้เกี่ยวสายสัญญาณเคเบิ้ลตกลงมาหรือไม่ ขณะที่แนวทางการให้ความช่วยเหลือตามสิทธิ์ที่ผู้เสียชีวิตพึงจะได้นั้น ขณะนี้ได้ประสานงานไปบัง บ.กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถขอนแก่น ในการขอเบิกเงินชดเชยจาก พรบ.ของรถจักรยานยนต์ ซึ่งทราบมาว่าเตรียมที่จะจ่ายเงินสินไหมทดแทนแลละการให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆแล้ว ขณะที่สิทธิ์อันถึงจะได้ของผู้เสียชีวิตนั้นต้องมีการตรวจสอบทั้งในส่วนของประกันสังคม ,การประกันภัยส่วนบุคคล หรือสิทธิ์ต่างที่ถึงจะได้ทั้งทางแพ่งและอาญา เพื่อให้ความช่วยเหลือกับครอบครัวของผู้ประสบเหตุอย่างสูงสุด และเป็นคดีตัวอย่างที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันเพราะไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีกในพื้นที่”
ด้าน พ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้ความคืบหน้าทางคดีมีความคืบหน้าอย่างมาก โดยขณะนี้ได้มีการสอบปากคำพยานบุคคล พยานที่เกิดเหตุ ไปแล้ว 4 ปาก พร้อมทั้งรวบรวมวัตถุพยาน เพื่อเร่งคลี่คลายคดีโดยเร็ว โดยขณะนี้ทราบแล้วว่าสายสัญญาณเคเบิ้ลดังกล่าวเป็นของบริษัทใด แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด โดยบริษัทฯดังกล่าว ได้ติดต่อมายังพนักงานสอบสวนแล้วและอยู่ระหว่างรอผลพิสูจน์หลักฐานมาประกอบสำนวนการสอบสวน ซึ่งแนวทางการสอบสวนตั้งประเด็นการสอบไว้ 2 ประเด็น
ประเด็นแรกคือ สายดังกล่าวหลุดลงมาเองหรือไม่ มีการชำรุดหรือติดตั้งไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ และประเด็นที่ 2 มีผู้อื่นทำให้สายดังกล่าวตกลงมาหรือไม่ ในส่วนประเด็นของรถสิบล้อที่ปรากฏระหว่างเกิดเหตุนั้น ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นผู้ทำให้สายอินเตอร์เน็ตตกลงมาหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามคนขับรถคันดังกล่าวมาสอบสวน เพราะมีบุคคลอีก 1 คนที่นั่งอยู่บนหลังคารถสิบล้อ และจากการตรวจสอบอย่างละเอียดในภาพวงจรปิดมีลักษณะเหมือนกับหลบบางสิ่งบางอย่าง และในส่วนประเด็นที่ลูกสาวคนเล็กของผู้เสียชีวิตแจ้งว่ามีทรัพย์สินที่ติดตัวแม่หายไป เป็นสร้อยคำหมากปู่ และสร้อยข้อมือทองคำหนัก 1 สลึงนั้น ยังไม่ได้รับแจ้งตามที่ญาติผู้เสียชีวิตอ้างแต่อย่างใด.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |