7 ต.ค.63 - พ.ต.อ.สมนึก มากมี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่พร้อมกับ พ.ต.อ.ชูศักดิ์ แจ้มฟ้า ผกก.สภ.โพธิ์ประทับช้าง พร้อมด้วยตำรวจวิทยาการและฝ่ายปกครองรวมถึง กอ.รมน.พิจิตร หลังจากมีรายงานว่ามีรถเก๋งสีขาวยี่ห้อโตโยต้าขับรถพลิกคว่ำอยู่บริเวณข้างทางถนนวังจิก-หนองหัวปลวก ทางหลวง 1276 จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุก็พบรถคันดังกล่าวอยู่ในสภาพพลิกคว่ำหงายท้อง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย แต่ปฏิเสธไม่ขอรับการช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัยพยายามจะหนีและมีท่าทีพิรุธ
ตำรวจสายตรวจที่ไปยังที่เกิดเหตุพบในรถมีเครื่องแบบทหารแขวนอยู่ ภายในรถมีกระสอบปุ๋ย 2 กระสอบ จึงได้ตรวจดูและรู้ว่าเป็นกระสอบใส่ยาบ้า จากนั้นจึงพาตัวผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย หญิง 1 ราย เด็ก 1 ราย ทั้งหมดเป็นพ่อแม่ลูกครอบครัวเดียวกัน นำส่งรักษาตัวที่ รพ.โพธิ์ประทับช้าง และได้ทำการสอบสวน จากนั้นก็พา จ.ส.ท.นาวิน ปานดำ อายุ 39 ปี ทหารอยู่ค่ายพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย รับสารภาพว่ามีผู้ว่าจ้างให้ขนยาบ้ามาจำนวน 4 กระสอบ ให้มาส่งให้ลูกค้าในเขตเมืองพิจิตรที่จุดนัดหมาย เมื่อถึงจุดนัดพบตนแค่เพียงเปิดฝากระโปรงท้ายรถก็มีชาย 2 คน ยกกระสอบยาบ้าลงจากท้ายรถ ตนเองเมื่อส่งของเรียบร้อยแล้วจึงรีบขับรถออกจากพิจิตร เพื่อจะมุ่งหน้าเอายาบ้าอีก 2 กระสอบที่เหลือไปส่งลูกค้าอีกแห่งหนึ่ง แต่ด้วยความรีบร้อนและไม่คุ้นเส้นทางจึงขับรถประสบอุบัติเหตุจนถูกจับกุมได้ดังกล่าว
สำหรับของกลางที่พบเจอที่จุดเกิดเหตุ 2 กระสอบ ตรวจนับคร่าวๆประมาณ 4 แสนเม็ด ส่วนอีก 2 กระสอบ ที่ส่งให้ลูกค้าในเมืองพิจิตรไปแล้วนั้นก็คาดว่ามีประมาณ 4 แสนเม็ดด้วยเช่นกัน ขณะตรวจที่เกิดเหตุและทำแผน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพบอกแค่เพียงว่ารับจ้างขนยาบ้ามาให้ลูกค้าตามคำสั่งทางโทรศัพท์ ส่วนราคาค่าจ้างผู้ว่าจ้างบอกว่าทำสำเร็จจะให้ค่าตอบแทนอย่างงาม ซึ่งตนเองมีหนี้สินประกอบกับต้องการหาเงินไปรักษาภรรยาที่จะต้องผ่าตัดจึงคิดสั้นรับงานรับจ้างขนยาบ้า แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด เวรกรรมมีจริงขับรถประสบอุบัติเหตุทำลูกเมียได้รับบาดเจ็บและถูกจับกุมได้ดังกล่าว
สำหรับการจับกุมยาบ้าล็อตใหญ่ของตำรวจพิจิตรครั้งนี้ถือได้ว่าในรอบปีนี้เป็นจำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยจับกุมได้ ส่วนการขยายผลก็กำลังดำเนินการคาดว่าน่าจะรู้ตัวนักค้ายาเสพติดที่มารับยาบ้าจากผู้ต้องหาในครั้งนี้ได้ ซึ่งตำรวจพิจิตรต้องขอเวลาทำงานแต่มั่นใจว่างานนี้ไม่น่าพลาด
พลโทสันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบกได้ตรวจสอบแล้ว จ.ส.ท.นาวิน ปานดำ เป็นกำลังพลในสังกัดกองทัพภาคที่ 3 ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดส่วนบุคคล และ หน่วยต้นสังกัด ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อ ดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย ทั้งนี้ กำลังพลดังกล่าวปฏิบัติงานอยู่ในหน่วยทหารพื้นที่ตอนใน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพื้นที่ชายแดน
ทั้งนี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบกได้รับรายงานเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว สั่งการให้ หน่วยต้นสังกัดดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายและสอบสวนวินัยร้ายแรง ซึ่งความผิดดังกล่าว อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถปลดออกจากราชการได้ ทั้งนี้เป็นไปตามพระราชบัญญัติวินัยทหาร
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |