แฟ้มภาพ

7 ต.ค. 63  - นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ.2554 มาตรา 5, 8, 13 ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 129 ว่า ปกติในการทำงานของกรรมาธิการ (กมธ.) ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้อำนาจเราน้อยอยู่แล้ว เป็นเพียงการศึกษาเรื่องต่างๆ ทำรายงานส่งไปยังสภาผู้แทนราษฎรและส่งต่อไปยังคณะรัฐมนตรี อาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ท้ายที่สุดอาจโยนทิ้งหรือไปตั้งไว้ที่อื่นโดยที่เราไม่รู้ว่าแต่ละเรื่องที่ กมธ. ศึกษาไปมีผลอย่างไร เวลาเราอยู่ใน กมธ. ประชาชนจะคาดหวังกับเรามาก กมธ.เป็นพื้นที่กลางในการคุยกันของคนที่มีปัญหา หลายครั้งนำไปสู่การปรับความเข้าใจและแก้ปัญหา ถ้า พ.ร.บ.นี้ขัดรัฐธรรมนูญ ทำให้ กมธ. เหลืออำนาจน้อยลง เพราะหลายคนที่มา กมธ. กลัวว่าถ้าไม่มาตามคำเชิญของ กมธ. เดี๋ยว กมธ. จะออกคำสั่งเรียก และถ้าเกิดไม่มาตามคำสั่งเรียกอาจจะมีความผิดตามกฎหมาย  

• สะดุ้งทั้งสภา!ศาลรธน.มีมติเอกฉันท์ พรบ.คำสั่งเรียกของกมธ.สภา ขัดรัฐธรรมนูญ
• ริบดาบกมธ.! 'ไพบูลย์' เผยกมธ.สภาผู้แทน-วุฒิสภา หมดสิทธิ์เรียกบุคคลต่างๆเข้าชี้แจง

 นายรังสิมันต์ กล่าวต่อไปว่า คำสั่งเรียกเป็นดาบที่ไม่ค่อยมีใครกล้าใช้เท่าไหร่ เพราะกลัวผิดขั้นตอนจะเป็นโทษต่อคนที่ใช้เอง ในทางปฏิบัติไม่ค่อยเห็นการใช้ แต่พอเราถูกคาดหวังจากประชาชน กลับไม่มีดาบในการเชิญหน่วยงานต่างๆ มา ทำให้การแก้ปัญหาต่างๆ อาจไม่เกิดขึ้น ต่อไปหน่วยงานเห็นหนังสือเชิญของ กมธ. อาจจะรู้สึกไม่ต้องมาก็ได้ กมธ.จะยิ่งกลายเป็นเสือกระดาษไม่มีอาวุธอะไรเลย หลายเรื่องเราต้องเชิญคนที่มีอำนาจเชิงนโยบาย ตำแหน่งระดับปลัดกระทรวงขึ้นไป อาจไม่มาหรือส่งคนที่ไม่เกี่ยวข้องมาชี้แจง แล้ว กมธ. จะพูดคุยหาทางออกให้กับประชาชนได้อย่างไร ถ้าเป็นเรื่องในเชิงนโยบาย เจ้าหน้าที่อาจไม่รู้หรือตอบไม่ตรงประเด็น ทำให้ กมธ. ไม่สามารถศึกษาได้อย่างเต็มที่ แสดงให้เห็นว่าการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก็อาจส่งผลต่อการทำหน้าที่ของสภา 

เมื่อถามว่าสิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนี้ เราสามารถไปปรับแก้ไขอะไรต่อไปได้หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องดูก่อนว่าการวินิจฉัยตรงนี้ทำให้ พ.ร.บ.คำสั่งเรียกฯ ตกไปทั้งฉบับหรือไม่ ต้องดูรายละเอียดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญอีกครั้ง เราฝ่ายนิติบัญญัติต้องมานั่งคุยกันว่าจะทำอย่างไรที่จะติดอาวุธให้ กมธ. มากกว่านี้ ถ้าเราไม่ติดอาวุธเลย สุดท้ายเราจะเป็นเสือกระดาษมากขึ้นเรื่อยๆ การทำหน้าที่ของ กมธ. จะยิ่งล้มเหลว และ กมธ.ปราบทุจริตฯ พอถูกตัดอาวุธแบบนี้ แล้วการตรวจสอบทุจริตที่เกิดขึ้นก็ยิ่งทำได้ยากขึ้นหรือเปล่า เป็นสิ่งที่เราต้องไปดู ต้องแก้เกมส์ด้วยการแก้กฎหมายหรือร่างกฎหมายขึ้นมาใหม่ เพื่อติดอาวุธให้กับฝ่ายนิติบัญญัติ