7 ต.ค.63 - ที่ห้องประชุมปทุมมาศ อาคารเฉลิมพระเกียรติในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงานอาชีวะยกกำลังสองและกล่าวปาฐกถาพิเศษ “การขับเคลื่อนนโยบาย อาชีวศึกษายกกำลังสอง” โดยมีนายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ พร้อมผู้บริหารและเด็กอาชีวะให้การต้อนรับ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดวันนี้เราจะต้องเข้าใจและเดินไปด้วยกันทั้งครู นักเรียน ที่จะต้องพัฒนาองค์กรให้ก้าวไกล เด็กและเยาวชนเป็นอนาคตสำคัญของประเทศ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ถือเป็นสิ่งสำคัญ รัฐบาลจึงมีการกำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติและต้องเดินหน้า ซึ่งมีลำดับระยะเวลาจนครบ 20 ปี ซึ่งการกำหนดยุทธศาสตร์ไม่ได้หมายถึงเรื่องการสืบทอดอำนาจใดๆทั้งสิ้น ขอให้ทุกคนเข้าใจ การศึกษาถือเป็นสิ่งสำคัญการสร้างชาติให้มั่นคง มั่งคั่งและยังยืนในอนาคต เราต้องผลิตบุคลากรให้ทันและมีงานทำตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน
“ปัจจุบันโลกมีความทันสมัย สมัยผมเรียนไม่มีความทันสมัยเท่าปัจจุบันมีสิ่งอำนวยความสะดวก แต่โชคดีว่ามีแม่และมีภรรยาเป็นครู แต่สิ่งที่ถูกสั่งสอนมาโดยตลอดคือการรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเมื่อมาเป็นนายกรัฐมนตรีก็เห็นว่าหลายอย่างยังมีความล่าช้า วันนี้เราทำงานทุกอย่างเพื่ออนาคตจะต้องปรับเปลี่ยนจากสมัยก่อน ที่สำคัญครูและเด็กในปัจจุบันก็ต่างยุคต่างสมัย เราจึงต้องเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับสถานการณ์ การเรียนในห้องถือเป็นพื้นฐาน แต่สิ่งที่สำคัญคือการเรียนนอกห้อง การดูงาน การศึกษา ไม่เช่นนั้นแรงบันดาลใจจะไม่เกิด เนื่องจากวันนี้โลกเปลี่ยนทั้งเทคโนโลยีดิจิทัล ทุกคนจึงต้องปรับวิธีคิดใหม่ทั้งหมด สิ่งสำคัญที่อยู่ในตัวบุคลากรไม่ว่าจะเป็นครู หรือนักเรียน คือสมองจะต้องทันสมัยตลอดเวลา ต้องรู้จักปรับตัว ปรับความคิดและหลักคิด วิสัยทัศน์ โดยปรับให้ไปสู่ทิศทางที่สร้างสรรค์ในสิ่งที่ดี” นายกฯกล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การศึกษาถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างชาติ จึงต้องผลิตบุคลากรให้สอดคล้องกับความต้องการ ซึ่งปัจจุบันเราต้องการคนที่ดี มีความเฉลียวฉลาด มีความรู้ความชำนาญในสาขาที่เรียน ต้องมีความรู้ในเชิงปฏิบัติได้ มีความตั้งใจ เป็นคนดี มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ วันนี้โลกหมุนเร็ว การขับเคลื่อนสิ่งต่างๆต้องไปด้วยกัน สิ่งที่เป็นอุปสรรคขวากหนามเราต้องคิดให้เป็นและผ่านไปให้ได้ รัฐบาลมีหน้าที่ในการสร้างโอกาส ทุกคนจึงต้องเข้าใจว่าอะไรคือโอกาส ทั้งโอกาสที่จะมีงานทำ โอกาสที่บ้านเมืองจะเป็นสุข โอกาสที่ประเทศของเราจะมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยังยืน และต้องหลุดพ้นการเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ซึ่งถ้าทำได้ประเทศเราจะเข้มแข็ง ไม่ใช่ประเทศที่ มีปัญหามาตลอด หรือเป็นประเทศที่ตีกัน หรือประเทศที่มีการทุจริต เราต้องช่วยกันทั้งหมด ไม่มีใครทำได้โดยที่ไม่ศึกษาหรือวางแผน หรือพูดเพียงอย่างเดียว เด็กทุกคนต้องคิดและวางแผน จึงขอฝากครูให้กระตุ้นเด็กให้คิดและวางแผนเป็น อยากทำงาน อดทน ตั้งใจ ไม่มีอะไรเริ่มต้นด้วยวันเดียว หรือปีเดียวแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น เราต้องสร้างความเจริญเติบโต ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือกำลังใจ ที่ต้องเกิดจากทั้งคนที่เรียน คนสอนและคนบริหาร ถ้าไม่เกิดตรงนี้ก่อน ต่อให้ทำดี อย่างไรก็ไม่เกิดอะไรขึ้น สิ่งสำคัญคือความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วนในการพัฒนา ยกระดับการเรียนการสอนและระบบอาชีวะไทยให้ก้าวไกล โลกเปลี่ยนเราต้องปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลกในปัจจุบัน สิ่งสำคัญที่การเรียนรู้ การถ่ายทอดจากครูอาจารย์
นายกฯ กล่าวว่า ตนขอเพิ่มจากทุกคน จากยกกำลัง 2 ขอให้เพิ่มเป็นยกกำลัง 4-5 ทั้งในเรื่องการกระตือรือร้น ความเอาใจใส่การปรับเปลี่ยนวิธีคิดและวิธีสอน ไม่ใช่สอนแล้วหลับทั้งห้อง สมัยเด็กแม่ไม่เคยต้องปลุกไปเรียน หรือสอบไม่ต้องมีใครมาเตือน อ่านหนังสือไม่ต้องมีคนมาเรียก การขวนขวายหาความรู้เกิดขึ้นได้ทุกวันไม่ต้องมีคนมาบังคับ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือกระบวนความคิด ไม่มีอะไรที่จะทำได้วันนี้ พรุ่งนี้เสร็จ หรือพูดเพียงปากเปล่าแล้วงานเสร็จ ทุกอย่างเกี่ยวข้องกับระเบียบ กติกา กฎหมาย บ้านเรากว่าจะทำได้ก็ผ่านเวลามาหลายปี ดังนั้นสิ่งที่พูดว่าจะให้ปรับเปลี่ยนในวันนี้พรุ่งนี้มันทำไม่ได้
“ผมถามว่าคนทั้งประเทศเขาจะว่าอย่างไรที่บ้านเมืองวุ่นวาย มันทำไม่ได้แล้วโอกาสที่มีอยู่ก็จะหายไป วันนี้ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโควิด เป็นที่หนึ่งของอาเซียน แต่โอกาสเหล่านี้จะหายไปด้วยความไม่สงบเรียบร้อย ไม่มีเสถียรภาพ เรามีทั้งทรัพยากรธรรมชาติและบุคลากรมนุษย์ ต้องช่วยกันคิดว่าทำอย่างไรถึงจะเกิดประโยชน์กับประเทศมากที่สุด โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้ดีที่สุด คุ้มค่า ประหยัด มีประสิทธิภาพ แก้ไขปัญหาเรื่องการทุจริต เพราะสิ่งเหล่านี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่เป็นอุปสรรคต่อประเทศของเรา เราต้องรวมพลังในการเดินหน้าจึงขอเป็นยกกำลัง 10 ร่วมกับผมไปข้างหน้า ไม่เช่นนั้นจะไม่ทัน วันนี้สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด ไทยเป็นอันดับ 1 ในทางพฤตินัยแล้ว พวกเราจะทำลายไปทำไม สิ่งที่ทุกคนชื่นชมเรา ผมขอถามว่าจะทำลายทำไมขอถามตรงนี้ แล้วถ้ามันเกิดและกลับขึ้นมาอีก ในรอบสองด้วยความไม่ระมัดระวัง แล้วจะเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่กำลังจะตามมาทุกอย่างก็จะละลายหายไปหมด ทั้งการท่องเที่ยว การค้าขายการเดินทาง การพบปะ ทุกอย่างจะหายไปหมด เราต้องการแบบนี้หรือตนจึงจำเป็นต้องพูดถึงเรื่องความรักความสามัคคี”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีของพวกเราในการเดินไปวันข้างหน้า รัฐบาลมีหน้าที่ในการสร้างโอกาส โดยดูตัวอย่างจากหลายๆประเทศด้วย ทั้งตะวันตกและตะวันออก เพราะโลกมันแคบ ฉะนั้นจะทำอะไรต้องคำนึงถึงเพราะเราทำอะไรรู้ถึงเขา และเขาทำอะไรก็รู้ถึงเรา ฉะนั้นขอให้ทำแต่สิ่งที่ดี เขารักประเทศไทย รักรอยยิ้ม อาหาร ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมของไทย ไม่อย่างนั้นจะเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยก่อนโควิด 40 กว่าล้านคนทำไม นั่นคือสิ่งที่ดีของเรา อย่าไปทำลาย ต้องพัฒนาตัวเรา ทำสิ่งดีๆให้กับประเทศชาติ สิ่งที่เสนอมารัฐบาลรับไปดำเนินการในระดับของคณะรัฐมนตรี (ครม.) และคณะทำงานต่างๆ
นายกฯกล่าวต่อไปว่า ในส่วนของครูก็ต้องมีการวัดผลการทำงาน ตนไม่ได้ว่าเพราะตนเคารพครูอยู่แล้ว ทั้งนี้ ครูของตนก็คือประชาชน ซึ่งประชาชนทุกคนคือครูที่สอนวันนี้ ตนเป็นนายกฯเอาความเดือดร้อนทั้งหลายมาคิดมาทำร่วมกับครม.อย่ารังเกียจกัน เพราะทุกคนคือคนไทยเป็นประชาธิปไตยด้วยกันทุกคน จะว่ากันอย่างไรก็ไปแก้กันตรงโน้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาพบบุคลากรทางการศึกษา วันนี้ต้องรู้อะไรคือโอกาสอะไรคือวิกฤติ อย่าทำโอกาสให้เป็นวิกฤติ วันนี้เรากำลังจะเปิดประเทศ ในขณะที่ประเทศอื่นกำลังรบอยู่กับโควิด-19 เราสามารถลดการแพร่ระบาด การติดเชื้อ มีความพร้อมทุกอย่าง หากเราไม่ระมัดระวังการแพร่ระบาดรอบ 2 จะกลับมาหนักกว่าเดิม ขณะนี้เราได้ผ่อนคลายไปเยอะ เริ่มดีตามลำดับ ประเทศไทยมีอาชีพที่หลากหลาย เขาบอกมาไทยไม่มีอดข้าว เวลาไปต่างประเทศตนถามเขา ซึ่งเขาบอกว่าเขารักประเทศไทย วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ อยากมาเที่ยวประเทศไทย วันศุกร์เตรียมมาประเทศไทยพักผ่อน และวันอาทิตย์เดินทางกลับ เพราะเห็นคนไทยมีความสุข เขาอยากเป็นคนไทย ชอบชีวิตความเป็นอยู่ แต่กลับไปทำงานที่โน้น เพราะเงินเดือนสูง
ฉะนั้น เราจะทำอย่างไรให้มีเงินเดือนมากขึ้น ในวันข้างหน้าก็ต้องพัฒนากรอบใหญ่ของประเทศ วันนี้เราต้องมองทั้งมนุษย์เงินเดือน มนุษย์ที่ไม่มีเงินเดือน ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ผู้ที่ไม่มีต้นทุนเลย ต้องเอาเป้าหมายมาดูเพื่อเดินหน้า เราไม่สามารถจะให้เขาทั้งหมดได้ เพราะงบประมาณเป็นอย่างนี้ หากมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเก็บภาษีในวันข้างหน้าทุกอย่างจะกลับมา ฉะนั้น ฝากลูกๆหลานๆ เน้นว่าอะไรคืออนาคตและโอกาส โดยดูว่าจะต้องทำตัวอย่างไรนั่นคืออนาคตและโอกาสที่ทุกคนจะมีความก้าวหน้าในการประกอบอาชีพ มีรายได้เลี้ยงดูพ่อแม่ สร้างครอบครัวในอนาคต
นายกฯ กล่าวว่า ตนอาจจะพูดนอกกรอบแต่ต้องการพูดให้รู้ว่าตนคิดอะไรอยู่ในทุกวัน “หน้าตาผมเหมือนคนนอนไม่หลับ ผมก็เป็นแบบนี้ทุกวัน ใครมาเป็นผมก็จะรู้ พูดมากไปก็บอกว่าลาออกไปสิ ผมกลุ้มใจจริงๆ สิ่งใดที่ทำไม่ดีก็บอกมา ผมรับฟังทุกท่าน แต่ขอให้มีหลักการ ขอให้ช่วยกันรักษาบ้านเมืองให้เรียบร้อย อดีตคืออดีต ประวัติศาสตร์ดีเอามาทำต่อและชื่นชม ประวัติศาสตร์ไม่ดีทิ้งไป อย่าทำอีกเท่านั้นเอง ทุกอย่างมันมีสาเหตุทั้งสิ้น ฉะนั้นเพื่ออนาคตของพวกเราทุกคน พ่อแม่ผู้ปกครองจะได้มีความสุข ขอให้ว่ากล่าวตักเตือนกันบ้าง สังคมเราเป็นแบบนี้ สังคมระบบเครือญาติ นั่นคือครอบครัวของเราต้องรักษาไว้ ถ้าเราไม่รักกันในครอบครัว สังคมก็ไม่รัก แล้วจะเป็นอย่างไร จะอยู่กันต่อไปอย่างไร ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ขอให้ทุกคนช่วยกันทำงานตรงนี้ ทำเพื่อส่วนรวม เพื่อประเทศชาติให้เกิดผลสัมฤทธิ์โดยเร็วจงได้ เป็นอาชีวะที่มีสมรรถภาพ คุณภาพ ความพร้อม ให้ได้ทั้งคนดีคนเก่ง ฐานรากเศรษฐกิจจะดีอยู่ที่คนดี คนเก่ง รักชาติบ้านเมือง เข้ามาพัฒนาประเทศไปด้วยกัน”นายกฯกล่าว
นายกฯ กล่าวในตอนท้ายว่า วันนี้เป็นวันสำคัญที่ได้มาพบพวกท่าน ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ตนเห็นเด็กๆที่มาต้อนรับรู้สึกตื้นตัน เป็นสิ่งที่กระตุ้นให้รู้สึกว่าต้องทำให้มากขึ้นอีกหรือเปล่า ตนคิดอย่างนี้ตลอด ไม่ว่าจะเป็นประชาชน เด็ก ราชการ ครู นี่คือความกังวลของตน ซึ่งตนจะไม่กังวลเรื่องอื่นๆที่ทำให้ไม่มีกำลังใจ ตนจะเฉยๆให้เป็นเรื่องว่ากันไป เราจะต้องรักกัน รักษาแผ่นดินไทยนี้ให้สงบ มีเสถียรภาพให้ได้ เรื่องอะไรที่ไม่สำคัญบางทีคนไทยชอบคุยกันแล้วเกิดความคิดหลากหลาย ซึ่งต้องคิดว่ามันควรจะสรุปให้ได้ คุยกันแล้วมาตีกันไม่ได้ ต้องคุยให้ได้ความก้าวหน้า นี่คือสิ่งสำคัญของประเทศไทยในการขับเคลื่อนประเทศ จากนั้น นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมนิทรรศการผลงานอาชีวะยกกำลังสอง พร้อมถ่ายภาพร่วมกับคณะผู้บริหารและเด็กนักเรียนอาชีวะ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |