7 ต.ค.63 - นางสาวอรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่าสถานการณ์ความรุนแรงในโรงเรียนที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานกรรมการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัย ตาม พ.ร.บ.ปฐมวัย ปี 2562   ควรต้องแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พลเอกประยุทธ์ต้องเข้าใจว่าประเทศไทยได้ลงนามเข้าเป็นภาคีภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก  ตั้งแต่ปี 2535   ทำให้เด็กทุกคนมีสิทธิในการอยู่รอดและได้รับการปกป้องคุ้มครอง  รัฐบาลจึงมีหน้าที่ ปฎิบัติตามข้อตกลงระหว่างประเทศด้านสิทธิเด็ก 

"แต่ท่าทีของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ผ่านมามักจะลอยตัวอยู่เหรือปัญหา โดยไม่สนใจประชาคมโลก กระทรวงศึกษาธิการซึ่งเป็นกระทรวงที่ได้รับงบประมาณแผ่นดินมากที่สุด  ต้องเร่งติดตามการประเมินผลวิชาชีพครูอย่างเป็นระบบ  จริงจังและเด็ดขาด ด้วยการทดสอบความพร้อมของสุขภาพจิต ทดสอบความพร้อมทางวิชาการ และต้องจัดให้มีการประเมินผลสัมฤทธิ์ (KPI) ในการสอนให้สอดคล้องกับพัฒนาการของเด็ก เพราะการทำให้เกิดความกลัวในสถานศึกษา ทำให้เด็กไม่กล้าแสดงออก ซึ่งเป็นการบั่นทอนระบอบประชาธิปไตยในระยะยาว"

นางสาวอรุณี กล่าวอีกว่า จากนี้ไปความรุนแรงต่อเด็กต้องไม่เกิดขึ้นอีก  สถานศึกษาควรเป็นที่ที่ปลอดภัย ครูต้องทำหน้าที่เป็นครูผู้สอน ไม่ใช่ครูผู้มีอำนาจ เนื่องจากที่ผ่านมาระบบการศึกษาไทยถูกกดทับด้วยระบบอำนาจนิยม ที่นับวันจะยิ่งรุนแรงขึ้น หากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน จะส่งผลกระทบต่อเด็กซึ่งเป็นอนาคตของชาติโดยตรง

ด้าน นางสาวทิพานัน ศิริชนะ  อดีตผู้สมัคร ส.ส. กทม. จอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงนางสาวอรุณี เรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงรับผิดชอบกรณีครูทำรุนแรงต่อเด็ก ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามพ.ร.บ.ปฐมวัยปี 2562 ว่า กรณีที่เกิดขึ้นรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะเป้าหมายของรัฐบาลต้องการให้การศึกษาของเยาวชนมีคุณภาพในทุกช่วงวัย โดยเฉพาะหน้านายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้สั่งการให้ผู้เกี่ยวข้องได้เข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาและทำบันทึกข้อตกลงกับโรงเรียนเอกชนที่มีปัญหา เพื่อแก้ไขมาตรฐานคุณภาพการศึกษา และวางแนวทางปรับปรุงในอนาคตอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นวิธีการอนุมติให้จัดตั้งโรงเรียนเอกชน การควบคุมและการลงโทษ รวมทั้งการปรับปรุงเรื่องใบประกอบวิชาชีพ จรรยาบรรณความเป็นครูด้วย

“โฆษกพรรคเพื่อไทยจินตนาการทางการเมืองมากเกินไป จนขาดตรรกะที่สมเหตุสมผล หวังเชื่อมโยงทำลายภาพลักษณ์ของนายกรัฐมนตรี”

นางสาวทิพานัน กล่าวด้วยว่า ไม่เหมือนกับกรณีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ต้องรับผิดชอบโครงการรับจำนำข้าว  เพราะน.ส.ยิ่งลักษณ์ มีความผิดจากการละเลยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวทั้งที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือป.ป.ช.มีหนังสือทักท้วงแล้วว่า โครงการจำนำข้าวจะก่อให้เกิดการทุจริตมหาศาล แต่ก็ไม่ฟัง และปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตมหาศาล