7 ต.ค. 2563 รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า ก่อนสิ้นปีงบประมาณ 2563 หรือ ก่อนสิ้นเดือน ก.ย. 2563 กระทรวงการคลังได้กู้เงินเพื่อชดเชยขาดดุล 4.69 แสนล้านบาท และกู้เงินกรณีที่รายจ่ายมากกว่ารายได้อีก 2.14 แสนล้านบาท ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เต็มจำนวนทั้งสองวงเงิน ทำให้เงินคงคลังณ สิ้นปีงบประมาณ 2563 มีสูงกว่า 5 แสนล้านบาท สามารถรองรับการเบิกจ่ายปีงบประมาณ 2564 ใน 2 เดือนแรก คือเดือน ต.ค.และ พ.ย. ได้อย่างไม่มีปัญหา
ทั้งนี้ งบประมาณรายจ่ายปี 2564 วงเงิน 3.3 ล้านล้านบาท ไม่สามารถใช้ได้ทันตามกำหนด 1 ต.ค. 2563 ทำให้การกู้เงินเพื่อชดเชยขาดดุลของปีงบประมาณ 2564 จำนวน 6.23 แสนล้านบาท ยังไม่สามารถทำได้ และในช่วงต้นปีงบประมาณการเก็บรายได้ของรัฐบาลยังมีเข้ามาน้อย ทำให้กระทรวงการคลังต้องแก้ปัญหาและป้องกันความเสี่ยงกรณีเงินไม่พอเบิกจ่าย โดยการกู้เงินในปีงบประมาณ 2563 ในส่วนที่กู้ได้ ไส่ไว้ในเงินคงคลัง เพื่อรองรับการเบิกจ่าย
อย่างไรก็ตาม มีการประเมินว่างบประมาณ 2564 จะเริ่มใช้ได้อย่างช้าในเดือน พ.ย. 2563 ซึ่งไม่กระทบกับการเบิกจ่ายของรัฐบาล เพราะเมื่องบประมาณมีผลบังคับใช้ กระทรวงการคลังก็สามารถเริ่มกู้เงินเพื่อชดเชยขาดดุลได้อีก
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุอีกว่า มีความเป็นไปได้ที่งบประมาณปี 2564 จะต้องมีการขอ ครม. กู้เงินกรณีรายจ่ายมากกว่ารายได้อีกครั้ง เนื่องจากคาดว่าการเก็บรายได้ยังจะต่ำกว่าเป้าหมายหลายแสนล้านบาท เหมือนปีงบประมาณ 2563 ที่การเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมายประมาณ 4 แสนล้านบาท โดยเพดานการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลหรือกู้กรณีรายจ่ายมากกว่ารายได้ในปีงบประมาณ 2564 เหลืออยู่ประมาณ 1 แสนกว่าล้านบาทเท่านั้น
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |