พอเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในชั้นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คดีทุจริตเงินทอนวัดของ “พระพรหม” 3 รูป เลยดูไม่อึกทึกครึกโครมเหมือนตอนใหม่ๆ
แต่ภายใต้ความ “นิ่ง” กลับมีความเคลื่อนไหวที่ไม่เคยหยุด โดยเฉพาะฝ่ายตกเป็น “ผู้ถูกกล่าวหา” ที่บรรดาเครือข่ายพากันขยับกับปฏิบัติการ “สู้เฮือกสุดท้าย”
ตัวละครหน้าใหม่และหน้าเดิมกำลังเดินเกมเพื่อรักษาชีวิตรอด เพราะเดิมพันครั้งนี้ ถ้า “แพ้” ขั้วอำนาจที่ใหญ่ที่สุดใน “ดงขมิ้น” มาตลอดสิบปีหลังจะล่มสลาย
ป้อมค่ายสำคัญต่างๆ ที่ใช้ในการศึกหลายครั้งหลายครา โดยเฉพาะ “ค่ายคลองสาม” เมื่อคราวอารักขา “ธัมมชโย” ให้รอดพ้นจากการตรวจค้นอาณาจักรธรรมกายครั้งก่อน ถูกเรียกหารือเป็นการด่วนเพื่อ “รับศึกใหญ่”
เครือข่าย “ฝ่ายฆราวาส” หน้าเก่าๆ ไม่ว่ากลุ่มสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย กลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน หรือนักวิชาการบางคนในขุมข่าย ออกมารับหน้าเสื่อทำหน้าที่ชี้แจงแทน “พระพรหม” 3 รูป ทุกวัน
ขณะเดียวกัน ยังเปิดปฏิบัติการเดินทางไปยื่นหนังสือตามที่ต่างๆ “ปลุกกระแส” การตรวจสอบเที่ยวนี้ของ “พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์” ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เป็นการทำลาย “ศาสนจักร”!!!
ลำพังตัวละครเดิมต้นทุนเริ่มต่ำ กระแสชักไม่เอาด้วย ล่าสุดต้องเรียกใช้บริการคนมีหน้ามีตาในเรื่องการตรวจสอบอย่างอดีต “มือปราบ” แห่งค่ายพระราม 6 มาช่วยฟอกให้ตามหน้าสื่อ
แต่ถูกจับได้ไล่ทันว่ามันลักลั่นอยู่ชอบกล เหมือนเซตบทเตี๋ยมกันมา เพราะก่อนหน้า “อดีตนักสืบเงินรัฐ” จะมาสวมบท “องครักษ์” พิทักษ์พรหม 3 รูป “จรูญ วรรณกสิณานนท์” กลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน ที่ตระเวนยื่นนู่นยื่นนี่ให้เอาผิด “พงศ์พร” เก็บอาการไม่อยู่ เว้าวอนอยากให้เรื่องไปอยู่ในการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จนน่าสงสัย
“สตง.” กลายเป็นหน่วยงานที่พระไว้วางใจอยากให้อยู่ในมือ มากกว่าสำนักงาน ป.ป.ช. และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) เสียอย่างนั้น
ทั้งที่ “สตง.” เคยมีประวัติทำเก้าอี้พระผู้ใหญ่บางรูปในอดีต “ขาหัก” มาแล้ว ถ้ายังจำกันได้ “ค่ายภูเขาทอง” ที่กำลังตกเป็นประเด็นอยู่ในตอนนี้นี่แหละ
ตอนนั้น “สตง.” ตรวจพบว่ามีความผิดปกติของการใช้เงินงบประมาณแผ่นดินที่ใช้ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จพระพุฒาจารย์ หรือ “สมเด็จเกี่ยว” อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร จำนวน 67 ล้านบาท เป็นเหตุให้ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ของ “พระพรหมสุธี” หรือ “เจ้าคุณเสนาะ” หลุดลอยในพริบตา
กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ขณะนั้นที่มี สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือ “สมเด็จช่วง” เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เป็นรักษาการสมเด็จพระสังฆราช แต่งตั้ง “พระพรหมสิทธิ” หรือ “เจ้าคุณธงชัย” ขึ้นรับไม้ต่อทันที
แต่มาถึงวันนี้ “เจ้าคุณธงชัย” ที่ได้ดิบได้ดีจากการตรวจสอบคราวนั้น กลายมาเป็น “ผู้ถูกกล่าวหา” อดีตมือปราบการใช้เงินรัฐผิดประเภท ที่เคยเป็นตัวตั้งตัวตีจน “เจ้าคุณเสนาะ” อยู่ไม่ได้ กลับสลัดคราบมาเป็น “องครักษ์”!!!
เป็นเครื่องหมายคำถามมาถึงทุกวันนี้ ตกลงที่ “เจ้าคุณเสนาะ” อยู่ไม่ได้ เพราะพิษตรวจสอบ หรือการเมืองใน “ดงขมิ้น”!
แผนดิ้นไม่ได้จำกัดวงเฉพาะ “ฆราวาส” ที่ใช้สโลแกนปกป้องพระพุทธศาสนามาบังหน้าเคลื่อนไหว
แต่ว่ากันว่า ยังมีความพยายามประสาน "บิ๊ก" ในรัฐบาลบางคนที่ขึ้นชื่อลือชาว่า เป็น “ศิษย์เอกค่ายภูเขาทอง” เข้านอกออกในมาตั้งแต่มีเสียงเชียร์ให้ “สมเด็จเกี่ยว” ขึ้นตำแหน่งพระสังฆราช มาช่วยล้มความพยายามของ “ตาเถรกวาดลาน” นาม “พงศ์พร”
เสียงลือกระฉ่อนกันสนั่น ว่าแม้เบื้องหน้าจะไม่สามารถพูดอะไรได้เหมือนแต่ก่อน เนื่องจากไม่ได้มีหน้าที่ หลังถูกริบสิทธิ์ในการดูแล “พศ.” ไปให้คนอื่น แต่เบื้องหลัง “ศิษย์เอกค่ายภูเขาทอง” ยังเดินเกมลับๆ เพื่อล้มแผน “รัฐประหาร ครม.สงฆ์” เที่ยวนี้อยู่เนืองๆ
แต่ต้องยอมรับว่า ยากเอาการ เหนือบ่ากว่าแรงที่จะหยุดยั้ง เพราะ “พงศ์พร” กลับมาคราวนี้ คนในรัฐบาลมีหน้าที่แค่ “สนับสนุน–ปกป้อง” ให้ภารกิจเดินหน้า ไม่ใช่จ้องแต่จะ “ปลด”
แถมข้อมูลในมือ “พงศ์พร” ยังโหด ถึงขนาดทำให้ใครบางคน “ฉันไม่ได้ จำวัตรไม่สนิท” ตามรายงานที่ว่า บัญชีการเงินมันชัดว่าไหลออกไปทางไหนบ้าง
หนังม้วนนี้ดูเผินๆ เหมือนจะยาว เหมือนจะยาก แต่ความจริงหนาหูเหลือเกินว่า แค่ “อึดใจเดียว”.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |