ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เข้าโรงพยาบาลได้ 3 วันก็กลับไปทำเนียบขาวเมื่อวานนี้
พร้อมประกาศว่า "ผมแข็งแรงกว่าเมื่อ 20 ปีก่อนด้วยซ้ำ"
ผู้นำของประเทศมหาอำนาจหมายเลขหนึ่งของโลกติดเชื้อโควิด-19 แล้วก็ยังบอกกล่าวกับประชาชนของตัวเองว่า
"อย่ากลัวโควิด อย่าให้มันครอบงำชีวิตของคุณ เพราะรัฐบาลของผมได้พัฒนายาและความรู้ที่ยิ่งใหญ่จริงๆ"
ทันทีที่ลงจากเฮลิคอปเตอร์ Marine One จากโรงพยาบาล Walter Reed เมื่อเช้าวันอังคารที่ผ่านมา (เวลากรุงเทพฯ) ทรัมป์ก็เดินขึ้นไปตรงระเบียงทำเนียบขาวและถอดหน้ากากออก
เหมือนจะส่งสัญญาณว่าการสวมหน้ากากนั้นเป็นการแสดงถึงความอ่อนแอของผู้นำ
ในขณะที่คนในทำเนียบขาวติดเชื้อโควิดแล้วไม่ต่ำกว่า 18 คน รวมถึงคนตำแหน่งสูงๆ หลายคน
ที่ทรัมป์ดึงดันจะออกจากโรงพยาบาลหลังจากรักษาเพียง 3 วันนั้น คงจะเป็นเพราะมีความกังวลว่าหากยังไม่กลับไปสู่กระบวนการหาเสียงโดยเร็ว (เหลือเพียง 27 วันถึงวันเลือกตั้งที่กำหนดเป็น 3 พฤศจิกายน) คะแนนนิยมของโจ ไบเดนแห่งพรรคเดโมแครตจะนำหน้าไปอีกหลายจุด
ทรัมป์จึงประกาศผ่านทวิตเตอร์ว่าเขาจะกลับไปสู่การรณรงค์หาเสียงในเร็ววัน
และสำทับว่า "สื่อปลอมนำเสนอแต่ผลโพลปลอม!"
แกคงหมายถึงโพลที่ออกมาในช่วงนี้ที่ตอกย้ำว่าไบเดนกำลังนำแกอยู่มากขึ้นทุกวัน
ทรัมป์เคยดูถูกเหยียดหยามคนที่ใส่หน้ากาก เคยบอกว่าโควิดเป็นแค่หวัดใหญ่ธรรมดาและจะหายไปเอง ไม่ต้องห่วงมาก
แต่พอติดเชื้อเองก็ขอเข้าโรงพยาบาล ไม่ยอมให้กักตัวแกอยู่ในห้องคนเดียวที่ทำเนียบขาว
พออยู่โรงพยาบาลได้วันสองวันก็ออกคลิปมาประกาศว่า "ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับโควิดมากขึ้นเยอะ ตอนนี้ผมเข้าใจมันมากขึ้น"
แต่วันต่อมาก่อนออกจากโรงพยาบาล แกก็ทวีตว่า "อย่าไปกลัวโควิด อย่าให้มันครอบงำชีวิตคุณ"
ก่อนหน้านั้นเพียงวันเดียว ทรัมป์ก็สร้างความประหลาดใจไปทั่วด้วยการขึ้นรถ SUV กับขบวนรถหลายคันวิ่งไปรอบๆ โรงพยาบาล โดยอ้างว่าต้องการสร้าง "เซอร์ไพรส์" ให้ผู้สนับสนุนแกที่มายืนโบกธงหน้าโรงพยาบาล
เกิดคำถามขึ้นมากมายว่า การทำเช่นนั้นเป็นการสร้างความสุ่มเสี่ยงต่อตัวเองและคนใกล้ชิดอย่างไรหรือไม่
อีกทั้งยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหมอของโรงพยาบาลเดียวกัน (ที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของคณะแพทย์ที่รักษาทรัมป์) ว่าการทำเช่นนี้เป็นการฝ่าฝืนกฎกติกามารยาทสำหรับหมอและคนไข้โดยสิ้นเชิง
หมอคนนั้นเขียนขึ้นทวิตเตอร์ว่าการกระทำเช่นนี้เป็น "ความเพี้ยนสุดๆ" (insanity แปลว่า "บ้าสิ้นดี") และเป็น "การไร้ความรับผิดชอบที่น่าตกใจมาก" (astounding irresponsibility)
แม้วันที่ทรัมป์ออกจากโรงพยาบาล และเขียนข้อความบนทวิตเตอร์หลายข้อที่เป็นการละเมิดหลักปฏิบัติทางการแพทย์หลายอย่าง ก็ยังไม่มีคำอธิบายจากคณะแพทย์ว่าอาการจริงๆ ของท่านประธานาธิบดีนั้นเป็นอย่างไร
เป็นเรื่องประหลาดมากๆ ที่คณะแพทย์ไม่ออกมาแถลงรายละเอียดอาการป่วยของประธานาธิบดี ก่อนที่จะให้ออกจากโรงพยาบาล
เป็นเรื่องแปลกมากๆ ที่ไม่มีคำอธิบายว่าเมื่อกลับไปทำเนียบขาวแล้ว ทรัมป์จะต้องกักตัวเองหรือไม่
หรือจะต้องมีคณะแพทย์ดูแลอย่างไร
อีกทั้งยังไม่มีความแน่ชัดว่า เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวจะปลอดภัยจากการแพร่เชื้อของทรัมป์อย่างไร
คำถามใหญ่ต่อมาก็คือว่า การดีเบตรอบสองระหว่างทรัมป์กับไบเดนจะยังมีขึ้นตามกำหนดการเดิม คือ 15 ตุลาคมที่เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา หรือไม่
และถ้าหากจะยังมีการโต้อภิปรายกันจะทำในรูปแบบใด
ล้วนแล้วแต่เป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบจากผู้เกี่ยวข้อง
สำหรับทรัมป์แล้ว เป้าหมายเดียวคือการจะต้องชนะการเลือกตั้งให้ได้เท่านั้น
อย่างอื่นไม่มีความหมายอะไรสำหรับแกทั้งสิ้น
นี่คือภาวะแห่งวิกฤติการเมืองสหรัฐฯ ที่กำลังตกอยู่ในสภาพที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง
เพราะทรัมป์กำลังทำให้ทั้งโลกหล่นลงไปในความสับสนอลหม่าน จับต้นชนปลายไม่ถูก
และมองวันข้างหน้าไม่ออกจริงๆ
โลกป่วนเพราะคนคนนี้คนเดียวจริงๆ
โปรดฟังอีกครั้ง!
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |