นายกฯ แปลกใจ งูเหลือมจ้องกินแต่เก้งเผือก รอผลสอบให้คำตอบ เผยสวนสัตว์สงขลาเคยมีเหตุยักยอกนอแรดเผือกมูลค่า 1 ล้าน และขโมยนกแก้วมาคอว์ 13 ตัว 4 หน่วยงานรื้อคดีหาคนผิดมาลงโทษ ส่วนปมยิง ผอ.สวนสัตว์ พบมือปืนเคยมีเรื่องขัดแย้งกันมาก่อน
    ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 6 ตุลาคมนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีลูกเก้งเผือกสายพันธุ์พระราชทานหายไปจากสวนสัตว์สงขลาว่า กำลังหาสาเหตุที่แท้จริง ซึ่งนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็ไม่สบายใจ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว โดยตนกำชับต้องตรวจสอบหาสาเหตุให้ได้ที่เก้งเผือกหายไป 2 ตัว โดยตัวหนึ่งพบซากกระดูก ซึ่งต้องตรวจสอบว่าใช่หรือไม่ และตัวที่ 2 ระบุถูกงูเหลือมกิน ตนก็แปลกใจว่าทำไมงูกินแต่เก้งเผือก มันเชื่องเกินไปหรือเปล่า ทำไมตัวสีอื่นไม่กิน ก็แปลกดีเหมือนกัน อันนี้ก็ขอให้เป็นเรื่องของการสอบสวน ทุกอย่างอย่าเพิ่งสรุปสาเหตุหรือตัดประเด็นใดออกไป ทุกเรื่องต้องมีคำตอบ ขอเวลาให้เขาทำงานก่อน
    ด้านการสืบสวนสอบสวนคดี นายสัตวแพทย์ภูวดล สุวรรณะ ยิงนายสุริยา แสงพงค์ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เสียชีวิตระหว่างไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่สวนสัตว์สงขลากรณีลูกเก้งเผือกหาย มีรายงานว่า ขณะนี้มี 4 หน่วยงานที่เข้าไปตรวจสอบ ได้แก่ ตำรวจชุดสืบสวนภาค 9 ชุดสืบสวนภูธร จ.สงขลา ตำรวจกองปราบปราม และชุดสืบสวนกองบังคับการการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งประเด็นสอบสวนใน 5 เรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับการบริหารงานภายในของสวนสัตว์สงขลา คือ 1.กรณีนกแก้วมาคอว์หาย 2.กรณีนอแรดเผือกหาย 3.กรณีเก้งเผือกหาย โดยเฉพาะ ‘คุณภูมิ’ ที่พบซาก 4.กรณีการโยกย้าย นสพ.ภูวดล สุวรรณะ และ 5.ความเชื่อมโยงขบวนการค้าสัตว์ป่า
    ข่าวแจ้งว่า การสืบสวนประเด็นความขัดแย้งระหว่างนายสุริยากับ นสพ.ภูวดล พบว่าเคยมีการร้องเรียนเกิดขึ้น โดยเมื่อปี 2561 นสพ.ภูวดลเคยร้องเรียนนายสุริยาเกี่ยวกับการสร้างสวนน้ำในสวนสัตว์สงขลา รวมทั้งนายสุริยาพยายามที่จะย้าย นสพ.ภูวดลหลายครั้ง จึงคาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากความคับแค้นใจสะสมจากเรื่องที่ผ่านมา
    รายงานระบุด้วยว่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช จะส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่าเข้าไปตรวจสอบกรณีเก้งเผือกตัวที่ 2 ชื่อ ‘คุณภาค’ ที่ถูกงูเหลือมกิน และมีภาพถ่ายตอนที่ผ่าท้องงูเหลือม ว่าเป็นวิสัยตามธรรมชาติของสัตว์หรือไม่ หรือเป็นการจัดฉากถ่ายรูป ส่วนซากเก้งตัวแรกที่คาดว่าเป็น ‘คุณภูมิ’ นั้น ขณะนี้มีการส่งโครงกระดูกไปยังสวนสัตว์เขาเขียว เพื่อตรวจดีเอ็นเอว่าเป็นเก้ง ‘คุณภูมิ’ หรือไม่ หรือเป็นเก้งธรรมดา
    ในส่วนการหายไปของนอแรดขาว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 ก.พ.55 แรดขาวของสวนสัตว์สงขลาได้ตายลง 1 ตัว และทางสวนสัตว์สงขลาได้ตัดนอแรด 2 อัน ซึ่งเป็นนอแหลมที่โผล่ออกมาข้างนอก กับนอทู่ที่อยู่ภายในต้องผ่าออกมา โดยนำมาเก็บไว้ที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ต่อมาวันที่ 11 มิ.ย.61 สวนสัตว์สงขลาได้ติดตามนอแรดทั้ง 2 นอ ปรากฏว่ามีการเบิกคืนนอแรดทั้ง 2 นอไปแล้วโดยเจ้าหน้าที่สวนสัตว์สงขลา ตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค.56 แต่เมื่อตรวจสอบ พบว่ามีการทำเอกสารเท็จเบิกนอแรดไปเพียง 1 นอเท่านั้น วันที่ 3 ก.ค.61 ทางสวนสัตว์สงขลาจึงได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสงขลา และทาง สภ.เมืองสงขลาได้โอนสำนวนมายัง สภ.คอหงส์ ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นเรื่องที่นอแรดหายไป 
    นอกจากนี้ทางสวนสัตว์สงขลาได้สอบสวนติดตามนอแรดที่หายไป ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง 2 คน คือคนที่ไปเบิกนอแรดจากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ส่วนอีกคนเป็นคนรับนอแรดทั้ง 2 นอไป ทางสวนสัตว์จึงได้ไล่ออกเจ้าหน้าที่ทั้งสองคนไปแล้ว แต่สามารถติดตามนอแรดคืนมาเพียงอันเดียวซึ่งเป็นนอทู่ ส่วนนอแหลมหายไปอย่างไร้รอย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ที่รับนอแรดนั้นได้เสียชีวิตในเวลาต่อมาด้วยโรคประจำตัว จึงไม่สามารถขยายผลได้ว่านอแรดแหลมหายไปไหน 
    สำหรับนอแรดในข้อมูลการสอบสวนระบุมูลค่าสูงถึงนอละ 1 ล้านบาท ซึ่งคดีการหายไปของนอแรด ทางพนักงานสอบสวน สภ.คอหงส์อยู่ระหว่างการเรียกสอบพยานและออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาให้ปากคำ 
    อีกกรณีหนึ่ง นกแก้วมาคอว์ที่หายไป 13 ตัวนั้น ซึ่งทางสวนสัตว์สงขลาสามารถติดตามคืนมาได้ 2 ตัว พร้อมกับผู้ต้องหา 1 คนที่นำมาโพสต์ขาย แต่คดีนี้ศาลได้ยกฟ้องผู้ต้องหาในข้อหาลักทรัพย์ เพราะไม่สามารถยืนยันได้ว่านกแก้วมาคอว์เป็นของสวนสัตว์สงขลาหรือไม่ เพียงแค่ดำเนินคดีครอบครองสัตว์ป่าเท่านั้น ซึ่งคดีนี้ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองจะรื้อคดีขึ้นมาใหม่เช่นกัน.