6 ต.ค.63 - นายอานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และแกนนำม็อบปลดแอก โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ @arnonnampa ว่า ตอนโพสต์ก็ไม่ได้คิดอะไร แต่พอมีคนมาเตือนว่ามันผิดหลักการ แล้วกลับมาอ่านอีกที ผมเห็นด้วยกับคำติติงครับ และสัญญาว่าจะระมัดระวังการแสดงออก ช่วยกันติเพื่อให้ผมปรับตัวนะครับ และขอโทษเพื่อนมิตรทุกท่านครับ

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากกรณี น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โพสต์ข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ถึงนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาด้วยคำหยาบคาย จากนั้น นายอานนท์ โพสต์ข้อความถึง รุ้ง ปนัสยา ว่า "ถ้า...ที่แจกไปไม่พอ มายืมที่ผมได้ มีพอสมควร" ทำให้นายอานนท์ถูกตำหนิอย่างหนักว่าใช้ข้อความเข้าข่ายคุกคามทางเพศ

ขณะเดียวกัน รุ้ง ปนัสยา ทวีตข้อความผ่าน@PanusayaS ตอบกรณีนายอานนท์ถูกวิจารณ์ว่าใช้ข้อความในลักษณะคุกคามทางเพศตนเองว่า "ทำผิดแล้วติติงกันเป็นเรื่องปกติค่ะ ขอบคุณทุกคนมากที่คอยช่วยกันเตือน พวกเราจะได้พัฒนาตัวเองขึ้นในทุกๆวัน" และ "คนเราสามารถทำผิดพลาดได้ แต่ที่สำคัญคือ ทำผิดแล้วยอมรับไหม เราดีใจนะที่ทนายอานนท์น้อมรับคำติเตียนเพื่อนำไปปรับปรุงตัวเอง"

"เราขอเสริมในมุมมองส่วนตัวกรณีทนายอานนท์แซวทั้งเรื่อง "เสื้อตัวเดียว" แล้วก็เรื่อง "แจก..." จะได้ทำความเข้าใจตรงกัน เรื่องเสื้อตัวเดียวไม่รู้ว่าจะมีคนสังเกตไหม แต่เพื่อนๆรอบตัวเรา และทนายอานนท์สังเกตว่าเสื้อสีแดง (ที่ใส่ขึ้นปราศรัยวันที่ 10 สิงหาคม) เราชอบใส่ไปทุกที่ แทบทุกครั้งที่ออกไปข้างนอกเลยจริงๆ จะมีช่วงนึงที่เราใส่แต่เสื้อตัวนี้ เพื่อนๆเลยแซวกันขำๆ และถ้าดูในคอมเมนท์ไต้โพสต์นั้นก็จะเห็นว่าเราหยอกล้อกัน เราก็คอมเมนท์อยู่ว่า "อย่าแกงน้อง หนูหาเสื้อสีแดงสวยๆไม่ได้" ประมาณนี้ค่ะ ไม่ได้รู้สึกไม่ดีอะไร เพราะคิดอยู่เหมือนกันว่าต้องซื้อเสื้อผ้าเพิ่มบ้าง

ส่วนเรื่องแจก...สืบเนื่องจากที่ด่านายชวน และ ส.ว. ว่า...ตอนนั้นเราโดนโจมตีหนักเรื่องใช้คำหยาบคาย แล้วก็ปีนเกลียวคนที่อายุมากกว่า ทนายอานนท์เห็นก็เลยมาช่วยเสริมทัพ ที่ทนายอานนท์ใช้คำว่า "ถ้าไม่พอมา เอาที่ผมได้" ก็เพราะเราใช้คำว่า...นั่นแหละค่ะ ในบริบทนี้เราและทนายอานุนท์ทำความเข้าใจกัน แล้วว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะ sexual harassment (คุกคามทางเพศหรือล่วงละเมิดทางเพศ) เราแต่อย่างใด มันเป็นบริบทของเป็นคำด่าค่ะ
แต่ทั้งนี้ ในประโยคสองแง่สองง่ามที่สามารถ refer ถึงความหมายในเชิงอวัยวะเพศก็ได้ และด้วยปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ-สถานะ-เพศ-พื้นที่ และในบริบทของภาษา เราเห็นด้วยและเข้าใจดีว่าอาจจะดูไม่เหมาะสม หากพิจารณาดูให้ดีค่ะ

จากนั้นได้มีผู้เข้ามาคอมเมนท์ว่า แอบเสียใจสักหน่อยที่ใต้ทวิตน้องรุ้งมีแต่คนที่มาบอกว่า ดราม่าครั้งนี้ไร้สาระ เราไม่คิดว่ามันไร้สาระเพราะไม่ว่าอย่างไร ปัญหาในหมู่นักกิจกรรมชายไทย เรื่อง sexual harassment ก็มีอยู่จริงๆ เล่นมุกทำกันแบบไม่รู้ตัว การเตือนกัน ช่วยพัฒนาวิธีคิดให้ก้าวหน้าขึ้น เราว่า
มันเป็นสิ่งดี และซีเรียส