6 ต.ค.63-นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่าได้ให้นโยบายทุกหน่วยงานในสังกัดเร่งผลักดันโครงการที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีและสอดคล้องกับนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการเร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อลดต้นทุนโลจิสติกส์ของไทย เช่นโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านคมนาคมขนส่ง เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เชื่อมโยงการขนส่ง ระหว่างอ่าวไทย และอันดามัน หรือโครงการแลนด์บริดจ์ ระนอง-ชุมพร
อย่างไรก็ตามซึ่งจะเป็นการพัฒนาการคมนาคมเชื่อมโยงสองชายฝั่งทะเลของไทย โดยโครงการจะมีมูลค่าประมาณ 2 แสนล้านบาท และขณะนี้รัฐบาลได้จัดสรรงบศึกษาให้แก่หน่วยงาน คือ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข.และการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท.รวม 2 หน่วยงาน วงเงิน 158 ล้านบาท รวมทั้งกระทรวงคมนาคมมีนโยบาย ที่จะให้รวมโครงการทุกระบบขนส่งคือท่าเรือ,ทางมอเตอร์เวย์ และระบบทางรถไฟ ให้เอกชนผู้สัมปทานโครงการ ดำเนินการเพียงรายเดียว เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการจัดการเชื่อมโยงระบบขนส่งต่างๆ
นายปัญญา ชูพานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายแผนการขนส่งและจราจร(สนข.)กล่าวว่า หัวใจคือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 2 ชายฝั่งทะเลของไทย โดยการพัฒนาท่าเรือแห่งใหม่ ทั้งที่จังหวัดระนอง และท่าเรือใหม่ในจังหวัดชุมพร หลังท่าเรือทั้ง 2 แห่ง จะสร้างระบบทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือมอเตอร์เวย์ และทางรถไฟ คู่ขนาน เชื่อมโยง 2 ท่าเรือเข้าหากัน โดยทั้ง 2 ระบบขนส่งจะมีระยะทางใกล้เคียงกันคือประมาณ 120 กิโลเมตร
อย่างไรก็ตามโดยประเด็นสำคัญทางกายภาพและยุทธศาสตร์การขนส่งในภูมิภาค จะเป็นการเชื่อม 2 ภูมิภาค จากกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ที่เป็นแหล่งผลิตน้ำมัน ยุโรป ซึ่งเป็นตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคขนาดใหญ่ ในอนาคต สามารถนำเรือสินค้าเทียบ ท่าที่ท่าเรือระนองของไทย ผ่านโครงสร้างทางถนน และทางรถไฟไปต่อที่ท่าเรือที่ชุมพร ก่อนจะนำส่งสินค้าต่อเรือ มุ่งสู่ภูมิภาคเอเซียตะวันออก ซึ่งประเทศในกลุ่มนี้ ทั้งญี่ปุ่น เกาหลี เป็นประเทศใช้น้ำมัน การบริโภค และเมื่อเชื่อมโยงถึงจีน ก็จะเป็นเสมือน โรงงานผลิตสินค้าของโลก ด้วย
ทั้งนี้ สนข. ประเมินว่า โครงการแลนด์บริดจ์นี้ จะมีมูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท เมื่อโครงการเกิดขึ้น จะส่งผลดีต่อไทย เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน การขนส่งสินค้าผ่านช่องแคบมะละกา ที่มีทั้งปัญหาความแออัด จากเรือสินค้าจำนวนมาก และปัญหาความปลอดภัยในการเดินเรือจากโจรสลัด และการเกิดขึ้นของโครงการแลนบริดจ์นี้ จะช่วยย่นระยะเวลาการขนนส่งได้ 2 วัน ส่งผลดีโดยตรงต่อการลดต้นทุนโลจสิต์ของไทย ให้เหลือไม่เกิน 12 % ต่อจีดีพี ตามแผนยุทธศาตร์ชาติ จากปัจจุบันต้นทุนโลจิสติกส์ของไทย มีมากกว่า 13 % ต่อจีดีพี
สำหรับความคืบหน้าของโครงการ ล่าสุด รัฐบาลได้จัดสรร งบประมาณ ให้ สนข.เร่งรัดศึกษา ในวงเงิน 68 ล้านบาท โดยกำหนด เป้าหมายชัดเจนว่า ระยะเวลา 12 เดือน ของกรอบการศึกษา 30 เดือน ตำหน่งที่ตั้งท่าเรือใน 2 จังหวัดจะต้องชัดเจน การออกแบบราละเอียด การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ รูปแบบธุรกิจ จนถึงการร่วมทุนแบบ PPP กับเอกชน ขณะที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ก็ได้รับกรอบวงเงิน 90 ล้านบาท เพื่อออกแบบโครงการรถไฟ สายชุมพร-ระนองแล้วเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ส่วนรูปแบบการก่อสร้างนั้น สนข. ยืนยันว่า ปัจจุบัน สามารถใช้เทคโนโลยี่ การก่อสร้างใหม่เข้ามาดำเนินการ โดยแนวเส้นทางทั้งทางมอเตอร์เวย์ และรถไฟนี้ จะใช้เทคโนลยี่การขุดเจาะอุโมงค์ ซึ่งปัจจุบันไทยมีความพร้อมแล้ว โดยโครงการจะมีอุโมงค์ 7-9 แห่ง เพื่อทำให้การพัฒนาเส้นทาง ไม่ประสบปัญหาคดเคี้ยว ที่ทั้งสิ้นเปลืองพลังงาน หลีกเลี่ยงการผ่านพื้นที่อยู่อาศัย ที่ส่งผลกระทบเมื่อต้องเวนคืนพื้นที่ก่อสร้าง และง่ายต่อการจัดการปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อม
อย่างไรก็ตามส่วนการบริหารโครงการแลนด์บริดจ์ นี้จะใช้แนวทางการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน หรือ PPP โดยจะเปิดให้เอกชนเข้าร่วมประมูลบริหารโครงการเพียงรายเดียวเพื่อให้เกิดการจัดการ บริหารระบบขนส่งให้เกิดการเชื่อมต่ออย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนอายุการให้สัมปทานเอกชนนั้น เนื่องจากโครงการมีมูลค่าถึง 2 แสนล้านบาท คาดว่าจะมีอายุการให้สัมปทานไม่น้อยกว่า 50 ปี จึงจะสามารถทำให้ผู้ลงทุนเกิดผลตอบแทน คุ้มค่ากับการลงทุนหลังโครงการเปิดใช้งานแล้ว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |