ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดนผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์วิจารณ์อย่างรุนแรง ที่ออกจากโรงพยาบาลทหารระหว่างยังรักษาอาการติดเชื้อโควิด-19 นั่งรถทักทายผู้สนับสนุนที่มาชุมนุมให้กำลังใจ ซึ่งผิดกฎการควบคุมโรคและทำให้บุคคลใกล้ชิดเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือป่วยตายได้

    รายงานเอเอฟพีเมื่อวันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม กล่าวว่า ผู้นำสหรัฐนั่งรถลีมูซีนกันกระสุนของเขาออกจากโรงพยาบาลทหารวอลเตอร์รีดเมื่อวันอาทิตย์ ระหว่างที่ผ่านกลุ่มผู้สนับสนุน ทรัมป์ซึ่งสวมหน้ากากอนามัย โบกมือทักทายด้ว เชื่อว่าทริปสั้นๆ ของเขาครั้งนี้เพื่อแสดงให้ภายนอกเห็นว่าอาการของเขาดีขึ้นแล้ว หลังจากทีมแพทย์ประจำตัวให้ข่าวที่สร้างความสับสนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์

    การออกมานอกโรงพยาบาลของทรัมป์ครั้งแรกนับแต่ถูกส่งเข้ารับการรักษาเมื่อวันศุกร์ สอดรับกับคำแถลงของทีมแพทย์ของเขาที่บอกว่าทรัมป์อาการดีขึ้นอย่างน่าพอใจ และอาจออกจากโรงพยาบาลได้ในวันจันทร์ เพื่อไปเฝ้าดูอาการต่อที่ทำเนียบขาว

    ทรัมป์วัย 74 ปี ได้รับยาสเตียรอยด์ เดกซาเมทาโซน ซึ่งปกติจะให้กับผู้ป่วยที่อาการรุนแรงที่สุดเท่านั้น และเขายังรับยาต้านไวรัสแบบฉีดเข้าเส้นเลือด เรมเดซิเวียร์ ในคอร์ส 5 วัน

    เมื่อวันอาทิตย์ นายแพทย์ฌอน คอนลีย์ แพทย์ประจำตัวประธานาธิบดี เพิ่งแถลงยืนยันข้อมูลที่มีรายงานข่าวมาแล้วก่อนหน้านี้ว่า ทรัมป์ถูกส่งขึ้นเฮลิคอปเตอร์มารักษาที่นี่เพราะมีไข้สูงเมื่อเช้าวันศุกร์ หลังจากอาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว โดยระดับออกซิเจนลดต่ำลงอย่างน่ากังวล แพทย์ผู้นี้อ้างว่าต้องปิดบังข้อเท็จจริงจากสาธารณะเรื่องการให้ออกซิเจนเพิ่มแก่ทรัมป์ เพราะต้องการสร้างทัศนคติในแง่ดี

    ทรัมป์ถ่ายวิดีโอโพสต์ลงโซเชียลมีเดียหลายคลิป หวังเรียกความมั่นใจจากสาธารณชนว่าเขากำลังฟื้นตัวจากโรคระบาดที่คร่าชีวิตคนอเมริกันแล้วมากกว่า 209,000 คน จากผู้ติดเชื้อ 7.4 ล้านคน การได้กลับทำเนียบขาวโดยเร็วน่าจะช่วยสร้างความรู้สึกของภาวะปกติ และได้กลับไปหาเสียงเลือกตั้งสมัยที่ 2 ในขณะที่โจ ไบเดน คู่แข่งของเขาซึ่งผลตรวจเมื่อวันอาทิตย์ยืนยันซ้ำว่าไม่ติดเชื้อ เตรียมเริ่มลุยหาเสียงในรัฐฟลอริดาที่เป็นสมรภูมิสำคัญในวันจันทร์

    โพลของวอลล์สตรีทเจอร์นัล/เอ็นบีซี ที่จัดทำ 2 วันหลังการโต้วาทีระหว่างทั้งคู่เมื่อวันอังคารที่แล้ว โดยที่ทรัมป์ยังไม่ประกาศว่าเขาติดไวรัส ให้ไบเดนมีคะแนนนำทรัมป์ที่ 53 ต่อ 39%

    ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์หลายคนวิจารณ์การออกนอกโรงพยาบาลของทรัมป์ว่า ทำผิดแนวทางสาธารณสุขของรัฐบาล ที่กำหนดให้ผู้ป่วยโควิด-19 ต้องแยกกักกันโรคระหว่างรับการรักษาและยังมีไวรัสที่แพร่เชื้อได้ และเขายังทำให้การคุ้มครองของหน่วยซีเคร็ตเซอร์วิสตกอยู่ในอันตรายด้วย

    เจมส์ ฟิลลิปส์ หัวหน้าฝ่ายเวชศาสตร์ภัยพิบัติของมหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตัน กล่าวว่า ทุกคนที่อยู่บนรถคันนั้นระหว่างการ "ขับผ่าน" ที่ไม่จำเป็นของทรัมป์ จะต้องกักกันโรคนาน 14 วัน คนเหล่านี้อาจป่วย อาจตาย เพียงเพื่อการแสดงละครทางการเมืองตามคำสั่งของทรัมป์ นับว่าเป็นความวิกลจริต

    ด้านซีค เอมานูเอล ประธานภาควิชาจริยธรรมทางการแพทย์และนโยบายสุขภาพ มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย กล่าวถึงการปรากฏตัวต่อสาธารณะของทรัมป์ว่า น่าละอาย การให้หน่วยซีเคร็ตเซอร์วิสขับรถไปกับผู้ป่วยโควิด-19 ในรถที่ไม่เปิดกระจก ทำให้พวกเขาเสี่ยงต่อการติดเชื้อโดยไม่จำเป็น และด้วยเหตุผลเพื่อการประชาสัมพันธ์

    อย่างไรก็ดี จัดด์ เดียร์ โฆษกทำเนียบขาว ยืนกรานว่า มีการป้องกันที่เหมาะสมเพื่อปกป้องทรัมป์และทีมงานของเขาแล้ว ซึ่งรวมถึงชุดป้องกัน และทีมแพทย์ก็อนุญาตให้ทรัมป์ออกจากโรงพยาบาลได้ด้วย.