กรุงเทพฯ / เครือข่ายสลัม 4 ภาค ศูนย์รวมพัฒนาชุมชน สหพันธ์พัฒนาองค์กรชุมชนคนจนเมืองแห่งชาติ (สอช.) ฯลฯ นำประชาชนที่เดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัยประมาณ 2,500 คน เดินรณรงค์ ‘วันที่อยู่อาศัยโลกปี 2563’ เรียกร้อง รฟท.แก้ไขผลกระทบจากโครงการพัฒนาเส้นทางรถไฟ รวมทั้งยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย-พัฒนาคุณภาพชีวิตคนจน ฯลฯ ด้านเครือข่ายขบวนองค์กรชุมชนทั่วประเทศเตรียมจัดงาน ‘มหกรรมบ้านมั่นคง : ที่อยู่อาศัยสำหรับทุกคน เพื่ออนาคตเมืองที่ดีขึ้นกว่าเดิม’ ตลอดเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนนี้
วันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมทุกปี องค์การสหประชาชาติกำหนดให้เป็น ‘วันที่อยู่อาศัยโลก’ (World Habitat Day) เพื่อให้ประเทศต่าง ๆ ให้ความสนใจกับสถานการณ์การอยู่อาศัยและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ตลอดจนสิทธิพื้นฐานของการมีที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม และเพื่อสร้างความตระหนักในความรับผิดชอบร่วมกันในการจัดการให้มนุษย์ทุกคนมีที่อยู่อาศัยในอนาคต
ในปีนี้องค์การสหประชาติมีคำขวัญเนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลกว่า “Housing for All : A Better Urban Future” หรือ “ทุกคนมีที่อยู่อาศัย เมืองจึงจะมีอนาคตที่ดี” เพื่อต้องการสื่อสารว่า คนทุกคนในเมืองมีคุณค่า และที่อยู่อาศัยเป็นเงื่อนไขสำคัญ ที่จะทำให้ทุกคนที่อยู่ร่วมกันในเมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดี และเมืองจะพัฒนาได้ นั่นหมายถึงทุกคนมีส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์ให้เมืองเกิดการพัฒนา ไม่ใช่การพัฒนาที่ละทิ้งคนจน หรือขจัดคนจนออกไปนอกเมือง
ในปีนี้วันที่อยู่อาศัยโลกตรงกับวันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม ในประเทศไทยมีการรณรงค์เคลื่อนไหวของภาคประชาชน โดย เครือข่ายสลัม 4 ภาค ศูนย์รวมพัฒนาชุมชน สหพันธ์พัฒนาองค์กรชุมชนคนจนเมืองแห่งชาติ (สอช.) ฯลฯ นำประชาชนที่เดือดร้อนทั่วประเทศที่ประสบปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินประมาณ 2,500 คน ตั้งขบวนจากบริเวณอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อเดินทางมายื่นหนังสือข้อเรียกร้องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ตั้งอยู่ริมถนนราชดำเนินนอก
โดยจุดแรกผู้แทนเครือข่ายประชาชนยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยมีนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมมารับข้อเสนอ เนื่องจากมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาเส้นทางรถไฟทั่วประเทศ เช่น รถไฟรางคู่กรุงเทพฯ – หัวหิน รถไฟความเร็วสูงนครราชสีมา - หนองคาย รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน รวมถึงโครงการพัฒนาธุรกิจในพื้นที่การรถไฟฯ เช่น โครงการพัฒนาย่านพหลโยธิน ย่านบางซื่อ กม.11 โครงการมักกะสันคอมเพล็กซ์ การพัฒนาสถานีแม่น้ำย่านถนนพระราม 3 การพัฒนาพื้นที่รอบสถานี TOD (Transit Oriented Development) ที่กำลังศึกษา และจะดำเนินการนำร่องใน 3 เมืองใหญ่ คือ ขอนแก่น อยุธยา และพัทยา ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 30,000 ครอบครัว
นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคมมารับข้อเสนอและพูดคุยกับประชาชน
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในวันที่ 24 กันยายน เครือข่ายสลัม 4 ภาคได้จัดเวทีพูดคุยกับตัวแทนการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) โดยมีข้อเสนอต่อ รฟท. เช่น 1. ต้องชะลอการไล่รื้อ เนื่องจากการไล่รื้อบ้านของชาวบ้านไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง 2.ควรใช้นโยบายตามแนวทางมติบอร์ดปี 2543 ซึ่งการทำ MOU เพื่อให้เปิดกว้างในสิทธิการเช่าที่ดินการรถไฟฯ ประโยชน์จะได้ทั้ง 2 ฝ่าย ประชาชนก็จะได้มีที่อยู่อาศัย และ รฟท.จะได้ค่าเช่าและสามารถดำเนินโครงการต่อไปได้ 3.อย่ามองคนจนว่ามาบุกรุกในพื้นที่ รฟท. แต่อยากให้มองว่าคนเหล่านี้เป็นผู้บุกเบิกที่เข้ามาทำให้เกิดการพัฒนาในพื้นที่ 4 .ต้องมีการสำรวจข้อมูลร่วมเพื่อให้เกิดการรับรองสิทธิ 5.ให้ก่อตั้งกองทุนสำหรับการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนจนในพื้นที่ รฟท. ฯลฯ
ด้าน นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตอนนี้มีคณะทำงานร่วมกันระหว่าง รฟท.กับเครือข่ายสลัม 4 ภาค และขอเวลา 2 เดือนเพื่อศึกษาและพิจารณาข้อตกลงการแก้ไขแก้ปัญหาร่วมกัน โดยจะมีการแยกประเภทปัญหา วางกรอบการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหา หลังจากนั้นจะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของบอร์ด รฟท. ส่วนเรื่องคดีความระหว่าง รฟท.กับผู้บุกรุกที่ดินนั้น ในช่วง 2 เดือนนี้จะชะลอการดำเนินคดีเอาไว้ก่อน
น.ส.เนืองนิช ชิดนอก ประธานเครือข่ายสลัม 4 ภาค กล่าวว่า เครือข่ายสลัม 4 ภาคเป็นขบวนคนจนเมือง ประกอบด้วย คนจนเมืองที่อยู่อาศัยในชุมชนแออัด และคนเร่ร่อนไร้บ้าน จำนวน 76 ชุมชน กระจายอยู่ทั้ง 4 ภูมิภาค ร่วมกันต่อสู้เพื่อให้เกิดความมั่นคงในที่ดิน ที่อยู่อาศัย และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนจนเมืองมายาวนานตั้งแต่ปี 2541 นำเสนอแนวทางการแก้ปัญหา และเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรัฐบาลแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการจัดการที่ดิน เพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยเปลี่ยนวิธีคิดในการพัฒนาใหม่ ที่ต้องเคารพคนในพื้นที่ และต้องมองเห็นคุณค่าของความเป็นมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งและการเผชิญหน้าระหว่างรัฐกับประชาชน เพราะที่ผ่านมาการต่อสู้ของคนจนไม่ได้ถูกรับฟัง ผู้กำหนดนโยบายยังคงดำเนินการในลักษณะเดิม โดยมุ่งหวังมูลค่าทางเศรษฐกิจ ไม่รับผิดชอบต่อประชาชนในพื้นที่และวิถีวัฒนธรรม
“วันที่อยู่อาศัยโลกปีนี้ เครือข่ายสลัม 4 ภาค ร่วมกับสหพันธ์พัฒนาองค์กรชุมชนคนจนเมืองแห่งชาติ (สอช.) เครือข่ายชุมชนคนเมืองผู้ได้รับผลกระทบจากรถไฟ (ชมฟ.) และขบวนคนจนเมืองที่ประสบปัญหาด้านที่อยู่อาศัย จัดให้มีการรณรงค์เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลก เพื่อสื่อสารต่อสาธารณะถึงสถานการณ์ปัญหา และมีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล ให้ดำเนินการเพื่อสร้างหลักประกันให้กับคนทุกคนในสังคมไทย เพื่อให้เข้าถึงที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัย การมีคุณภาพชีวิตที่ดี และเห็นคุณค่าของคนจนว่ามีส่วนสำคัญในการพัฒนาเมือง ซึ่งจะลดความเหลื่อมล้ำในสังคมลงได้” ประธานเครือข่ายสลัม 4 ภาคกล่าว
ผู้แทนสลัม 4 ภาคยื่นหนังสือถึงผู้แทนองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย
นอกจากที่กระทรวงคมนาคมแล้ว ขบวนยังเคลื่อนไปยื่นหนังสือที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บริเวณหน้าที่ทำการองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย กระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งบริเวณด้านหลังทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นหนังสือถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีด้วย โดยมีนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้แทนรับข้อเสนอของเครือข่ายสลัม 4 ภาค และนายสมชาติ ภาระสุวรรณ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ ผู้แทนของกระทรวงการพัฒนาสังคม โดยมีข้อเสนอต่างๆ ดังนี้
ข้อเสนอด้านการพัฒนาที่ส่งผลกระทบต่อชุมชน
1.ต้องมีกระบวนการในการรับฟัง และให้อำนาจคนในพื้นที่มีส่วนร่วมสำคัญในการกำหนดแผนพัฒนาในพื้นที่ตัวเอง 2.ต้องมีนโยบายให้หน่วยงานที่ดูแลที่ดินของรัฐประเภทต่าง ๆ แบ่งปันที่ดิน เพื่อจัดเป็นที่อยู่อาศัยให้กับคนจนที่ไร้ที่อยู่อาศัย
3.กรณีชุมชนที่อยู่ในที่ดินของการรถไฟที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาของกระทรวงคมนาคม ด้านการขนส่งระบบราง และการพัฒนาด้านเศรษฐกิจในที่ดินการรถไฟ นายกรัฐมนตรีต้องประสานงานไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อให้จัดที่ดินของการรถไฟเพื่อรองรับชุมชนที่ได้รับผลกระทบ โดยให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการกำหนดพื้นที่ และการพัฒนาที่อยู่อาศัย
4.ต้องนำนโยบายโฉนดชุมชน และธนาคารที่ดิน ที่ภาคประชาชนผลักดันขับเคลื่อน มาใช้ในการรับรองสิทธิในที่ดิน และสิทธิของชุมชนในการบริหารจัดการที่ดิน เพื่อสร้างหลักประกัน และความมั่นคงในชีวิต
ผู้แทนสลัม 4 ภาคอ่านข้อเรียกร้องถึงนายกรัฐมนตรี
ข้อด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยและคุณภาพชีวิต
1.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้องดำเนินการพัฒนาระบบสหกรณ์ โดยเพิ่มประเภทสหกรณ์ที่สอดคล้องกับการดำเนินการที่อยู่อาศัยในโครงการบ้านมั่นคง 2.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ต้องสนับสนุนให้ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง สำนักงานพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์แต่ละจังหวัด ร่วมมือกับภาคประชาสังคมทำงานในเชิงรุก เพื่อแก้ปัญหาสิทธิขั้นพื้นฐาน และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของกลุ่มคนไร้บ้าน โดยจัดให้มีสถานที่รองรับ และมีมาตรการในการช่วยเหลือคนไร้บ้านที่สูงอายุและเป็นผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ให้มีชีวิตที่ดีขึ้น
3.รัฐบาลต้องสนับสนุนให้เกิดระบบบำนาญแห่งชาติ เพื่อให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยให้นายกรัฐมนตรีลงนามในร่างพระราชบัญญัติบำนาญแห่งชาติ พ.ศ. ....... ของภาคประชาชน ที่ได้ยื่นต่อรัฐสภา และอยู่ในขั้นตอนที่นายกรัฐมนตรีต้องลงนาม เพื่อนำร่าง พ.ร.บ.เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร 4.ต้องดำเนินการให้เด็กทุกคน อายุ 0-6 ปี ได้รับเงินอุดหนุนเลี้ยงดูเด็กเล็กอย่างถ้วนหน้า 5.ต้องดำเนินการให้ทุกคนเข้าถึงระบบการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพและเป็นมาตรฐานเดียว
ข้อด้านสิทธิ และเสรีภาพในการแสดงความเห็น และใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย
1.รัฐบาลต้องหยุดละเมิดสิทธิ และหยุดคุกคาม นักเรียน นักศึกษา ที่เคลื่อนไหว เรียกร้อง และแสดงความเห็นทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย และต้องสนับสนุนข้อเรียกร้องของนักเรียนที่ต้องการปฏิรูปการศึกษา เพื่อสร้างบรรยากาศที่ปลอดภัย และมีเสรีภาพ 2.ต้องสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยการจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อสร้างระบบที่เป็นธรรม
เครือข่ายขบวนองค์กรชุมชนจัดงานวันที่อยู่อาศัยโลกทั่วทุกภูมิภาค
นอกจากการจัดงานรณรงค์เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลกในวันนี้แล้ว เครือข่ายขบวนองค์กรชุมชนยังร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) จัดงาน ‘มหกรรมบ้านมั่นคง : ที่อยู่อาศัยสำหรับทุกคน เพื่ออนาคตเมืองที่ดีขึ้นกว่าเดิม’(Housing for all A better urban future) ทั่วทุกภูมิภาคตลอดช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนนี้ เพื่อนำเสนอรูปธรรมการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยของชุมชนร่วมกับท้องถิ่น การผลักดันนโยบายการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินในรูปแบบการแก้ไขปัญหาระดับเมือง/ตำบล ฯลฯ
โดยมีเป้าหมาย 1.เพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลก ให้สังคมได้ตระหนักถึงสถานการณ์ปัญหาที่ดิน ที่อยู่อาศัย และยื่นข้อเสนอต่อหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง 2.เพื่อเปิดพื้นที่เรียนรู้ระหว่างขบวนองค์กรชุมชน เครือข่ายชุมชนเมือง ท้องที่ ท้องถิ่น หน่วยงานต่างๆ ทั้งระดับพื้นที่และระดับนโยบาย ให้รับรู้และเข้าใจแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดินที่อยู่อาศัยที่ต้องสร้างความมั่นคง ตั้งแต่ที่ดิน ที่อยู่อาศัย และการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีในชุมชน ในเมืองของตนเอง
นายสมชาติ ภาระสุวรรณ ผอ.สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ (กลาง) ร่วมพูดคุยกับเครือข่ายสลัม 4 ภาค
3.เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงขบวนองค์กรชุมชน เครือข่ายชุมชนเมือง ให้ลุกขึ้นมาเป็นแกนหลักร่วมกับขบวนองคาพยพจากทุกภาคส่วนให้ขับเคลื่อนการพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างมีส่วนร่วม 4.เพื่อสรุปผลการดำเนินงาน สรุปบทเรียน จัดการความรู้การแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยทั้งเมืองและชนบท 5.เพื่อทบทวนขบวนการ ทิศทาง แนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาที่อยู่อาศัย และการมองทิศทางการขับเคลื่อนการพัฒนาที่อยู่อาศัยในระยะต่อไป ของขบวนองค์กรชุมชน และสถาบันฯ และ 6.เพื่อนำเสนอรูปธรรมทั้งเมืองและชนบท และนวัตกรรมการพัฒนาที่อยู่อาศัย
ส่วนการจัดงานมหกรรมบ้านมั่นคงฯ จะจัดขึ้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา สุพรรณบุรี กรุงเทพฯ ปราจีนบุรี ขอนแก่น น่าน และชุมพร โดยในวันที่ 27 ตุลาคมจะจัดงานที่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ ถนนนวมินทร์ กรุงเทพฯ มีการอ่านสาสน์จากองค์กรสหประชาชาติเนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลก การมอบโล่รางวัลให้กับบ้านมั่นคงดีเด่น 8 ประเภท และ 50 หน่วยงานความร่วมมือ โดย นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในงาน นอกจากนี้ยังมีการแสดงนิทรรศการนำเสนอผลการจัดการความรู้ 20 ปี พอช. 12 ประเด็นเรียนรู้ เวทีอภิปราย ‘Housing for all A better urban future’ ที่อยู่อาศัยสำหรับทุกคน เพื่ออนาคตเมืองที่ดีขึ้นกว่าเดิม ฯลฯ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |