5 ต.ค. 63 - คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภาคม 2535 ได้ออกแถลงการณ์ หัวข้อ “ปลดล็อกประเทศไทย...จัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจช่วยชาติ" โดยระบุว่า สืบเนื่องจากวิกฤตการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้นอย่างรอบด้านในขณะนี้ทั้งวิกฤติการเมือง วิกฤติเศรษฐกิจและกำลังลุกลามกลายเป็นวิกฤตการณ์ทางสังคม ขณะที่ผู้นำประเทศไม่สามารถสร้างความรักสามัคคีของคนในชาติให้เป็นหนึ่งเดียวได้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันปลดล็อคประเทศไทยเพื่อไม่ให้สถานการณ์จมดิ่งจนยากจะเยียวยาแก้ไข ด้วยเหตุดังกล่าวคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภาคม 2535 จึงมีข้อเรียกร้องต่อทุกภาคส่วนดังนี้
1.ข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้สร้างความปรองดองสมานฉันท์ตามสัญญา และไม่สามารถปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ให้ถูกจาบจ้วงได้ เพื่อไม่ให้วิกฤติการเมืองกลายเป็นระเบิดทางการเมืองจนไร้ระเบียบและเกิดการเผชิญหน้ากันขึ้นในชาติ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถอดสลักตัวแรก เพื่อเปิดทางให้มีการสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ตามกลไกรัฐธรรมนูญและจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่สามารถฟื้นฟูความแตกแยกสร้างความปรองดองสมานฉันท์และสามารถระดมความร่วมมือความเชื่อมั่นจากทุกฝ่ายได้มากกว่าที่เป็นอยู่
2.ข้อเรียกร้องต่อพรรคร่วมรัฐบาล
ขอเรียกร้องต่อพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลเนื่องจากพรรคพลังประชารัฐ หักหลังซื้อเวลาแก้ไขรัฐธรรมนูญ การประคองตัวของทั้งสองพรรคที่ผ่านมาแม้จะเอาตัวรอดทางการเมืองได้บ้างในบางสถานการณ์แต่ในภาพรวมต้องยอมรับว่าทั้งสองพรรคได้มีส่วนร่วมอย่างสำคัญในการทำให้บ้านเมืองเข้าสู่ทางตัน ซึ่งจะปฏิเสธความรับผิดชอบใดๆ ไม่ได้ การถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลจะเป็นเงื่อนไขนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายสามารถขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจให้คนรุ่นใหม่ได้มองเห็นความหวังของอนาคต
3.ข้อเรียกร้องต่อวุฒิสภา
บทบาทของสมาชิกวุฒิสภาแม้ในภาพรวมดูเหมือนจะกลายเป็นแนวร่วมของพรรครัฐบาลแต่ด้วยวุฒิภาวะของสมาชิกวุฒิสภาทั้ง 250 ท่าน คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภาคม 2535 เชื่อมั่นว่ามีสมาชิกวุฒิสภาจำนวนไม่น้อย ที่ตระหนักในวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้จึงควรแสดงความกล้าหาญรวบรวมรายชื่อ “ส.ว.ช่วยชาติ” ร่วมมือกับพรรคการเมืองในสภาผู้แทนราษฎรเพื่อกอบกู้กิจการบ้านเมืองด้วยการผลักดันการตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจช่วยชาติให้เป็นจริงได้
4.ข้อเรียกร้องต่อกลุ่มผู้ชุมนุม
สนับสนุนข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ นายกรัฐมนตรี ลาออก ตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ และยุบสภา ส่วนเรื่องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ต้องเป็นเรื่องยินยอมพร้อมใจของทุกภาคส่วนในสังคมไทย หากเป็นการเรียกร้องจากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งแล้วมีการต่อต้านจากอีกกลุ่มจะกลายเป็นการเผชิญหน้ากัน เพราะสังคมไทยเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้เหนือหัวโดยเฉพาะการวิพากษ์วิจารณ์ด้วยถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมจะนำมาซึ่งความเกลียดชังกันและสร้างความแตกแยกไปสู่การเผชิญหน้าอย่างรุนแรงได้ จึงควรมุ่งไปที่การกดดันให้พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกสถานเดียว
5.ข้อเรียกร้องต่อทุกฝ่ายเพื่อปลดล็อกวิกฤติ
วิกฤติของบ้านเมืองที่สำคัญที่สุดในขณะนี้คือปัญหาเศรษฐกิจจากการบริหารที่ล้มเหลวของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ หากไม่เร่งทางออกประเทศจะหายนะมากกว่านี้ จำเป็นต้องถอดสลัดตัวแรกคือพล.อ.ประยุทธ์ ลาออก แล้วจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจช่วยชาติตามรัฐธรรมนูญ ด้วยการเชิญผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาอาชีพจากทุกภาคส่วนเข้ามาช่วยประเทศชาติ ภารกิจแรกต้องสร้างความปรองดองสมานฉันท์ด้วยการนิรโทษกรรมคดีการเมืองตั้งแต่ปี2548จนถึงเหตุการณ์ปัจจุบัน แล้วเร่งแก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจ จัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากฉันทานุมัติของรัฐสภาโดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางในกระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ
สุดท้ายนี้คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 2535 เชื่อมั่นในพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่รัชกาลที่ 10 ที่ทรงให้แนวทางรู้รักสามัคคีจะทำให้ทุกฝ่ายน้อมนำพระราชดำรัสดังกล่าวเพื่อร่วมกันฟันฝ่าวิกฤตการณ์ของชาติครั้งนี้ไปด้วยกัน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |