ผลการลงประชามติของชาวนิวแคลิโดเนีย ดินแดนของฝรั่งเศสในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ เมื่อวันอาทิตย์ ปรากฏว่าเสียงคัดค้านการแยกตัวเป็นเอกราชจากฝรั่งเศสเฉือนเอาชนะไปได้ โดยประชาชนออกมาใช้สิทธิเกิน 85%

แฟ้มภาพ ชาวนิวแคลิโดเนียชุมนุมก่อนหน้าการลงประชามติครั้งก่อน เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2561

    นิวแคลิโดเนียซึ่งมีประชากร 270,000 คน จัดลงประชามติเมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม สอบถามความเห็นประชาชนเรื่องการแยกตัวเป็นเอกราชจากฝรั่งเศส เจ้าอาณานิคมที่เข้าครอบครองดินแดนที่อยู่ห่างจากฝรั่งเศสเกิน 16,000 กิโลเมตรแห่งนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2396 ปรากฏว่ามีประชาชน 53.26% ไม่เห็นด้วยกับการแยกเอกราช ซึ่งเป็นจำนวนที่ลดลงจาก 56.7% ในการลงประชามติเมื่อ 2 ปีก่อน

    ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสซึ่งเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าฝรั่งเศสจะงดงามน้อยลงเมื่อปราศจากนิวแคลิโดเนีย กล่าวภายหลังทราบผลคะแนนว่า เขาขอบคุณผู้ลงคะแนน และน้อมรับสัญญาณแห่งความเชื่อมั่นต่อสาธารณรัฐฝรั่งเศสด้วยความรู้สึกขอบคุณอย่างสุดซึ้ง

    การลงประชามติเมื่อวันอาทิตย์เป็นส่วนหนึ่งของแผนปลดปล่อยอาณานิคมที่เจรจาต่อรองกันอย่างระมัดระวังเมื่อปี 2541 ซึ่งจบลงด้วยความขัดแย้งนองเลือดระหว่างประชากรพื้นเมืองชาวคานักที่หนุนเอกราช กับลูกหลานผู้ตั้งถิ่นฐานที่มาจากยุโรป

    จำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิเมื่อวันอาทิตย์สูงถึง 85.64% มากกว่าครั้งก่อน 4 จุด นักสังเกตการณ์ทางการเมืองส่วนใหญ่คาดเดาไว้แล้วว่าฝ่ายคัดค้านการแยกตัวจะชนะด้วยช่องว่างที่แคบลง การจัดประชามติครั้งต่อไปจะต้องรอจนถึงปี 2565 หากสมาชิกสภาท้องถิ่นอย่างน้อย 1 ใน 3 ร้องขอ

    ดินแดนอาณานิคมที่แยกตัวเป็นเอกราชจากฝรั่งเศสก่อนหน้านี้คือ จิบูตี เมื่อปี 2520 และวานูอาตู ปี 2523.