เป็นเอกฉันท์! แห่หนุน "อาคม" นั่งตำแหน่งขุนคลังคนใหม่ ชี้เหมาะสมทุกด้าน เข้าใจการเมือง พ่วงประสบการณ์เลขาฯ สศช. เชื่อเห็นภาพใหญ่เศรษฐกิจประเทศ มั่นใจกู้วิกฤติติดหล่มไทยได้
เมื่อวันอาทิตย์ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสข่าวมีชื่อของนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ว่า โดยส่วนตัวมองว่ามีความเหมาะสมในทุกด้าน เพราะนายอาคมเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากที่ผ่านมานายอาคมเคยเป็นเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และยังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในสมัยรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์มาแล้ว 5 ปี และมีผลงานหลายอย่างเป็นที่ประจักษ์
นายอนุชากล่าวด้วยว่า นอกจากนี้นายอาคมยังเข้าใจงานทางการเมืองอีกด้วย ดังนั้นจึงมั่นใจว่านายอาคมจะทำงานได้เป็นอย่างดีในสถานการณ์ปัจจุบันที่ประเทศอยู่ระหว่างการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และจะสานงานต่อจากรัฐมนตรีคนเดิม รวมถึงการทำงานให้สอดคล้องกับท่านนายกรัฐมนตรีได้
"น่าจะเป็นนิมิตหมายที่ดีที่รัฐบาลจะได้คนที่มีความเหมาะสมเข้ามาทำงาน ซึ่งจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นให้กับประเทศได้มากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้การคัดเลือกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ก็ขึ้นอยู่กับท่านนายกรัฐมนตรีพิจารณา" นายอนุชากล่าว
ที่นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคชาติพัฒนา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า ชื่อชั้นนายอาคมเป็นอย่างไรนั้น ตนดูท่านก็เป็นคนดี และอดีตเป็น รมว.คมนาคม สมมุติถ้าเป็นนายอาคมจริงๆ โดยส่วนตัวก็ถือว่ามีคุณสมบัติที่สามารถที่จะได้รับการยอมรับได้ และการเป็นเลขาฯ สภาพัฒน์ เห็นภาพใหญ่ของประเทศ และจะเห็นจุดเชื่อมโยงระหว่างภารกิจทางด้านเศรษฐกิจ ด้านการลงทุน ด้านการลดความเหลื่อมล้ำ ตัว รมว.การคลังถ้าเกิดเข้าใจภาพรวมของเศรษฐกิจด้วย และมีความรู้เฉพาะตัวด้วยก็มีความเหมาะสม และยิ่งถ้าเป็นทีมเวิร์กกันอยู่แล้วก็ยิ่งดี ฉะนั้นถ้าเป็นนายอาคมก็คิดว่า น่าจะเป็นภาพลักษณ์ที่ดีกับประเทศ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. กล่าวว่า ในวันนี้รัฐบาลไม่ว่าจะนำใครมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ยังไม่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของประเทศ เพราะนายกรัฐมนตรียังเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เมื่อคนไม่เป็นงานเศรษฐกิจมาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ และการปล่อยระยะเวลาให้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังว่างเว้นถึง 2 ครั้ง เป็นเรื่องที่สร้างความเสียหาย วันนี้นายกรัฐมนตรีควรใช้กลไกรัฐทุกอย่าง การอยู่ต่อยิ่งจะทำให้เกิดความเดือดร้อนให้กับประชาชน
วันเดียวกัน มีสถานการณ์ความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กรณีไม่จ่ายค่าซ่อมบำรุงรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ 2 คัน สมัยเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา วงเงิน 52 ล้านบาท โดยนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ขณะนี้นายนิพนธ์เตรียมข้อมูลที่เป็นพยานหลักฐานที่ยังไม่ปรากฏในสำนวนของ ป.ป.ช. เพื่อชี้ให้เห็นถึงความไม่ชอบด้วยกฎหมายของการจัดซื้อดังกล่าว ซึ่งเป็นหลักฐานที่ปรากฏชัดจากต่างประเทศที่มีการยื่นเป็นบริษัทคู่เทียบที่เข้าประมูลการจัดซื้อดังกล่าว และเป็นข้อมูลที่ไม่ตรงตามความเป็นจริง มีบุคคลที่เกี่ยวข้องกันอีกหลายคน ดังนั้นเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จะขอให้ ป.ป.ช.พิจารณาพยานหลักฐานโดยละเอียด ซึ่งนายนิพนธ์จะยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ ป.ป.ช.ด้วย เพื่อให้มีการพิจารณาหลักฐานต่างๆ อย่างครบถ้วนในต้นสัปดาห์นี้ต่อไป.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |