ฮื่ออ์อ์อ์...มีเลือกตั้งท้องถิ่น เลือกผู้ว่าฯ กทม. มาช่วยคั่น ช่วยสอดๆ แทรกๆ อะไรต่อมิอะไรมันน่าจะเบาๆ เซาๆ ลงไปได้มั่ง อย่างน้อย...ใครที่กำลังคิดจะขยับปาก ขยับลิ้น คิดจะด่าว่า ด่าทอ ท่านผู้ว่าฯ อัศวิน ขวัญเมือง ณ คสช. ก็อาจไม่อยากจะเหนื่อย ไม่อยากเสียแรงอก มากมายเกินไปนัก สู้เก็บเรี่ยว เก็บแรง ไปเดินลุยน้ำจ๋อมๆ แจ๋มๆ น่าจะเข้าท่ากว่า...
-------------------------------------------------
คือขึ้นชื่อว่า กอ.ทอ.มอ. เมืองที่คนตกท่อ ของคุณพี่ แอ๊ด คาราบาว เขา...ยังไงๆ มันคงหนีไม่พ้นน้ำท่วม น้ำรอระบาย น้ำผุดออกจากท่อชนิดพลั่กๆๆ นั่นแหละทั่น เพราะไม่ว่าในแง่ภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ สังคมจิตวิทยา สรีรวิทยาทางกายภาพ ฯลฯ หรืออะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่ ยังไงๆ...มันคงต้องท่วมไป-ท่วมมาอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ เรียกว่า...ตั้งแต่ยุค ปู่เทียม เพื่อนซี้ ระดับซี้แหงย่ำปึ้ก ของท่านอดีตประธานองคมนตรี ป๋าเปรม ยุคคุณทวด ธรรมนูญ เทียนเงิน ที่ล้วนแล้วแต่วายชนม์ขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ชั้นฟ้ากันมานานแล้ว มาจนยุค พี่ลอง ณ กระบี่มื้อเดียว ยุคท่านผู้ว่าฯ พิจิตต ฯลฯ ก็มีแต่ ท่วม...กับ...ท่วม กันมาโดยตลอด...
---------------------------------------------
ทำไงได้!!!...ในเมื่อว่ายุคไหนต่อยุคไหน ผู้ซึ่งมีอำนาจ หน้าที่ ในแต่ละราย ท่านก็ยังคงมุ่งมั่น ปักหลัก อยู่ในพื้นที่แคบๆ อย่างกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร บวรรัตนโกสินทร์ มหินทรามหาดิลก ฯลฯ อย่างไม่คิดขยับขยายไป ณ ที่ไหน ต่อที่ไหน มุ่งสร้างความเจริญ เติบโต และพัฒนา ชนิดรถลอยฟ้าพันไป-พันมากับบรรดารถบนดิน-ใต้ดิน ไม่ต่างไปจากแมงมุมขยุ้มหลังคา ส่งผลให้ใครต่อใครก็เถอะ...ที่อยากเจริญ อยากเติบโต และอยากพัฒนา ย่อมต้องแห่เข้ามายั้วๆ เยี้ยๆ ไม่ต่างจากแมวที่พยายามแย่งกันกินปลา หรือสุนัขหมาที่ต้องแย่งกันกัดกระพุ้งก้นจนได้ หรือย่อมหนีไม่พ้นที่จะต้องส่งผลไม่ว่าโดยทางตรง ทางอ้อม ให้ต้องเกิดอาการที่นำมาซึ่งความน่าหงุดๆ หงิดๆ น่ารำคาญ น่าเบื่อ น่าเอียน หรือกระทั่งน่าทุเรศ ฯลฯ เช่นอาการ ฝนตก-รถติด ที่ไม่ใช่แค่ติดกันระดับ 10 นาที 15 นาที แต่ปาเข้าไปเป็นชั่วโมงๆ หรืออาจเป็นวันๆ-คืนๆ เอาเลยก็ไม่แน่...
----------------------------------------------
ด้วยเหตุนี้...ก็จึงไม่ถือเป็นเรื่องแปลก ที่ท่านผู้ว่าฯ อัศวิน ขวัญเมือง ณ คสช. หนีไม่พ้นที่จะต้อง รับเละ ในระดับเละตุ้มเป๊ะ เละเทอะ เลอะเทะ ไปตามสภาพ อันเนื่องมาจากการสรรหา เหตุผล มาอธิบาย ถึงความน่าเกลียด น่าชัง หรือน่าอะไรก็แล้วแต่ของท่านผู้ว่าฯ รายนี้ โดยเฉพาะในกรณีน้ำท่วม น้ำขัง น้ำรอระบาย ย่อมเป็นอะไรที่หาง่าย หาสบาย ยิ่งกว่าการกดปุ่มคลิกกูเกิล ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า ไม่ว่า...ทำไมไม่คิดลอกท่อ ล้างท่อ เหมือนอย่างยุคท่านผู้ว่าฯ พิจิตต ที่ได้ยินเสียงฟ้าร้องขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็พร้อม ถลกแขนเสื้อ เมื่อนั้น หรือยุคคุณทวด ธรรมนูญ เทียนเงิน ที่ลงทุนใส่รองเท้าบูตออกไปไสรถ เข็นรถ พอให้ประชาชีได้รู้สึกหนักไปทาง สงสาร มากกว่าคิดจะ หมั่นไส้ ฯลฯ อะไรประมาณนั้น...
-----------------------------------------------
หรือยุคกระบี่มื้อเดียว อย่าง พี่ลอง-พลตรีจำลอง ศรีเมือง ด้วยเหตุเพราะความขยัน ขันแข็ง เอาการ-เอางาน อย่างแทบไม่มีใครเทียบได้ของผู้ว่าฯ รายนี้ ก็พอช่วยให้เกิดความเห็นอก-เห็นใจ ถือซะว่าเป็นเพราะ ฝนพันปี ไม่ถึงกับเกิดอาการเปรี้ยวเท้า เปรี้ยวตีน มากมายจนเกินไป อันเป็นอะไรที่ออกจะต่างไปจากท่านผู้ว่าฯ อัศวิน ขวัญเมือง ณ คสช. อยู่แล้วแน่ๆ ที่จู่ๆ ก็เกิดบุญหล่นใส่หัวแม่เท้า ชนิดชักหัวแม่ตีนข้างซ้าย ข้างขวา หลบแทบไม่ทัน เพราะด้วยการรัฐประหาร หรือการฟื้นอำนาจเผด็จการของ คสช. เขานั่นแหละ ที่ทำให้อดีตตำรวจมือปราบอย่างผู้ว่าฯ อัศวิน เลยต้องกลายมาเป็น มือปราบน้ำท่วม อย่างชนิดหัวแม่ตีนบวมไปแล้วทั้งสองข้าง...
------------------------------------------------
ดังนั้น...การด่าว่า ด่าทอ การส่งเสียงสาปแช่งผู้ว่าฯ อัศวิน ย่อมหนีไม่พ้นต้องกระเทือนไปถึงท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของหมู่เฮาอยู่แล้วแน่ๆ ไม่ว่าจะฟุตเวิร์ก เด้งเชือก สลับฉากตัดเวทีออกมาเต้นย็อกๆ แย็กๆ ซักกี่ครั้ง ต่อกี่ครั้งก็ตาม การส่งเสียงด่าเผด็จการและส่งเสียงสาปแช่งผู้ว่าฯ กทม.ฯลฯ มันจึงต้องกลายเป็น คนละเรื่องเดียวกัน ไปโดยประการฉะนี้ ด้วยเหตุนี้...การลดแรงกระแทก ลดจำนวน สากกะเบือบิน ให้ลดน้อยถอยลงๆ ไปได้มั่ง ก็ต้องถือว่าชอบแล้ว และเหมาะแล้ว ที่จะต้องเริ่มต้นเปิดผ้าม่านกั้ง เริ่มคิดจัดให้มีการ เลือกตั้งท้องถิ่น อย่างเป็นเรื่อง เป็นราว เป็นการ เป็นงาน ไปซะที...
---------------------------------------------------
คืออย่างน้อย... ผู้ว่าฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง นั้น มันอาจไม่ถึงกับ ด่าถนัดปาก ได้มากมายซักเท่าไหร่ ยิ่งถ้าเป็นคนที่ตัวเองเลือกเข้ามาด้วยแล้ว อาจต้องง้างๆ หรืออาจฝาดปาก ฝากลิ้น มากบ้าง-น้อยบ้างแล้วแต่จะว่ากันไป แต่ถ้ายังดันเป็น ผู้ว่าฯ ที่มาจากการแต่งตั้ง แบบผู้ว่าฯ อัศวิน แล้วล่ะก็ ยิ่งได้ด่า ได้ว่า ยิ่งน่าจะออกรส ออกชาติ ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ชนิดเผลอๆ...อาจลุกลาม บานปลาย ไปถึงสิ่งที่ไม่ควรด่า ไม่ควรว่า ไม่บังควร บังอาจ ที่จะไปแตะต้องใดๆ เลย แต่ด้วยเหตุเพราะการ อยู่ยาวว์ว์ว์ การยืดไป ยืดมา ปาเข้าไป 5 ปี เกือบ 6 ปีเข้าไปแล้ว ก็ยังไม่คิดจะไปไหน อันนี้นี่แหละ...ที่คงต้องหาทางทำให้อะไรต่อมิอะไรมันเบาๆ เซาๆ ลงไปมั่ง ถึงจะถือเป็น วิสัยทัศน์ หรือ ปรีชาญาณ ที่แท้จริง...
---------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก “Joseph Campbell”... “We must be willing to get rid of the life we’ve planned, so as to have the life that is waiting for us. – เราต้องเต็มใจที่จะละทิ้งชีวิตแบบที่เราวางแผนไว้ เพื่อที่จะได้มีโอกาสใช้ชีวิตแบบที่คอยท่าเราอยู่...”.
-----------------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |