ภาพลัคนาสถิตราศีพิจิกและเรื่องราวต่างๆ ของชีวิต

                มฤตยูจร (0) เดินอยู่ในราศีเมษ-8 กรกฎาคม 2565 (มีเดินผิดปกติ)

                พระราหูจร (8) ย้ายจากราศีมิถุนเข้าไปเดินในราศีพฤษภตั้งแต่ 10 กันยายน 2563-29 มีนาคม 2565

                พระพฤหัสบดีจร (5) ย้ายจากราศีธนูเข้าไปเดินในราศีมังกร ระหว่าง 13 พฤศจิกายน 2563-9 พฤศจิกายน 2564 (มีเดินผิดปกติ-ข้ามราศี)

                พระเสาร์จร (7) ที่เดินผิดปกติข้ามกลับเข้าราศีธนู-จะเข้าไปเดินในราศีมังกร (อีกรอบ) ตั้งแต่ 5 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป-1 มีนาคม 2566 (มีเดินผิดปกติ)

                ท่านที่ลัคนา (ลัคนาคือเวลาเกิด-หาจากการผูกดวงชะตา) สถิต ราศีพิจิก ส่วนใหญ่มี ทุกข์ถึงตัวเอง (พระเสาร์จรทับลัคน์) ต่อ ด้วยทุกข์-แบกภาระ-เหนื่อยหนัก เรื่องหาเงินมานานแล้วจนแทบอยากโยนผ้าขาวถอดใจเอาดื้อๆ (พระเสาร์จรเข้าไปเดินในราศีธนู-ดินแดนการทำมาหาได้)

            เน้นไปที่ช่วงใดช่วงหนึ่งตั้งแต่ตุลาคม 2562-13 พฤศจิกายน 2563 เกิดปรากฏการณ์ สั่นสะเทือนใหญ่ในเรื่องการเงิน-การทำมาหาได้ ของพวกท่าน ในแนวดีมากกว่าร้าย หรือ ร้ายก็มีดี ดีก็มีร้ายปน เช่น บางท่านเจรจาลดหนี้-ดอกเบี้ยกับสถาบันการเงินสำเร็จ บางท่านค้ำประกันหนี้ให้ลูกเพื่อเรียนต่อก้อนมหึมา บางท่านรู้ตัวว่าผ่อนอสังหาริมทรัพย์โดยไม่รู้ว่าทรัพย์สินถูกขายทอดตลาดไปแล้ว ต้องรีบหยุดผ่อน ฯลฯ

            เมื่อได้ผ่านพ้นความเหนื่อยยากขนาดหนักมาแล้ว ต่อไปนี้คือลีลาชีวิตช่วงที่จะรับบุญเก่าและผลดี (มากกว่าร้าย) จากความทนยอมทุกข์ของพวกท่านถึงสองเกณฑ์โหร

            1.ระยะกินบุญเก่าแบบนิ่มๆ เรื่องเงิน ลูกหรือเด็กในความดูแล ระหว่าง 13 พฤศจิกายน 2563-9 พฤศจิกายน 2564 (พฤหัสบดีจร 5 เข้าไปเดินในราศีมังกร-ภพที่สาม-สหัชชะ..ถึงบุญเพรง คนยำเกรงให้ลาภา..ได้มาตรฐานนิจอ่อนไม่เด่น) เช่น บางท่านติดหุ้นแต่ได้เงินปันผลแทน เด็กในความดูแลได้เรียนต่อในสถาบันกลางๆ ลูกหลานได้งานแบบไม่โดดเด่นหรือเป็นงานชั่วคราว เด็กความในดูแลได้คู่ครองไม่ถูกใจมากนัก หรือลูกที่เคยอยู่บ้านเฉยๆ ลุกขึ้นออกไปหางานทำ เป็นต้น

            2.เริ่มเข้าสู่สภาวะ โดดเด่นทั้งยศ-เงิน-ทอง ตั้งแต่ประมาณ 5 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป ยาวไปถึง 1 มีนาคม 2566 (พระเสาร์จร 7 ย้ายจากราศีธนูที่เคยทำให้ดวงชะตาแตกเรื่องเงิน ไปเดินในภพที่สามสหัชชะให้คุณตามโฉลก...ท่านทายหมายได้เพริศพรายยศเงินทอง)

            จุดนี้ผู้เขียนขอย้อนเวลาพาท่านที่ลัคนาสถิตราศีพิจิกกลับไปตั้งแต่ประมาณพฤศจิกายน 2557 ที่พวกท่านส่วนใหญ่เกิดทุกข์ถึงตัวเอง (พระเสาร์จรทับลัคนา) หลังจากนั้นประมาณธันวาคม 2560 เป็นต้นมา ทุกข์ย้ายจากตัวพวกท่านมาเป็นทุกข์เรื่องเงินแทน (พระเสาร์จรเดินในภพที่สอง)

            โดยขอให้ดูลีลาชีวิตกว้างๆ ของ อดีตนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่ง ที่เชื่อว่า ลัคนาสถิตพิจิก ที่ใช้เวลาที่เกิดทุกข์ช่วงแรก (พระเสาร์จรทับลัคนา-แถมทับพระจันทร์ดวงเดิม ๒..ผลคือ..พลันร้าย เกิดวิบัติฉิบหายลูกผัวหนี) ท่านขึ้นศาลเรื่องจำนำข้าวทุกนัดแบบสู้สุดใจขาดดิ้น แต่สุดท้ายท่านก็หนีไปต่างประเทศ พร้อมโทษจำคุก 5 ปี พอช่วงที่สอง (พระเสาร์จรเข้าภพการเงิน) ท่านถูก ยึดบ้านที่ดินรถเก่ง และมีหนี้ มหึมาหมื่นห้าพันล้านบาท

            เมื่อทุกข์หนักผ่านพ้นไป ตั้งแต่ 5 ธันวาคม 2563 พวกท่านที่ลัคนาสถิตราศีพิจิก (ส่วนใหญ่) จะได้เข้าสู่ช่วงหัวหน้าดาวร้ายให้คุณ (พระเสาร์จรภพที่สาม) ไปยาว (ถึง 1 มีนาคม 2566) แบบหนักแน่นและมั่นคง (พระเสาร์จรราศีมังกรได้มาตรฐานเกษตราธิบดี) แต่อาจจะมีบางท่านที่เกณฑ์ร้ายอื่นรองรับหรือแทรกเข้ามาก็จะกลายเป็นทุกขลาภ-ลาภทุกข์ไป เช่น

            บางท่านจบภาระที่ญาติมารบกวนเรื่องเงิน บางท่านพี่น้องกลับมาคืนดีกัน บางท่านพี่น้องพลัดพรากกันไปนานกลับมาอยู่ด้วยกัน บางท่านได้โชคจากการขนส่งทั้งทางใกล้ไกลหรือบางท่านได้โชคจากการเป็นนายหน้าคนกลางติดต่อสื่อสาร ฯลฯ

            โชคนี้ยังแผ่รัศมีไปยังลูกๆ-เรื่องในบ้าน-การเดินทางทั้งใกล้-ไกล (พระเสาร์จรทำมุมพิเศษถึงราศีมีน-เล็งราศีกรกฎ และถึงราศีตุล) เช่น ลูกหรือเด็กความในดูแลได้เลื่อนชั้นเลื่อนตำแหน่งตามระดับวาสนา หรือได้เรียนต่อในหรือต่างประเทศโดยได้ทุน เป็นต้น

            3.ระหว่าง 5 ธันวาคม 2563-9 พฤศจิกายน 2564 ระยะเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่ระดับแผ่นดินไหวขนาดใหญ่เรื่อง ญาติ-หรือเอกสารสัญญา-หรือการเดินทางทั้งใกล้-ไกล-เพื่อนบ้าน (พฤหัสบดีจร 5 หัวหน้าดาวดีกุมกับพระเสาร์จร 7 หัวหน้าดาวร้ายในภพที่สามสหัชชะ) เช่น บางท่านได้เซนสัญญาโครงการใหญ่ แต่บางท่านคราวเคราะห์เอกสารที่เซนมีปัญหาทางกฎหมาย บางท่านได้เดินทางไปทั้งใกล้และไกลในที่ที่ไม่คุ้นเคยหรือเคยไป บางท่านลูกได้ไปต่างประเทศภายใต้อุปการะของญาติ หรือบางท่านจบคดีมรดกกับพี่น้องหรือบางท่านได้เพื่อนบ้านใหม่ เป็นต้น

            4.ตั้งแต่กันยายน 2563-29 มีนาคม 2565 พวกท่านมีแนวโน้มชวนหุ้นส่วนชีวิต เปลี่ยนบ้าน-ดิน-รถเก๋ง หรือโยงกับการเรียน (พระราหูจรเล็งลัคนา) เช่น บางท่านร่วมกับพี่น้องกู้เงินซื้อบ้าน บางท่านกับคู่ชีวิตเปลี่ยนบ้านใหม่ เป็นต้น แต่ไม่ว่าจะทำอะไรควรต้องระวังเอกสารสัญญาอย่าให้มีปัญหา

            5.ตั้งแต่กันยายน 2563-29 มีนาคม 2565 ควรประคองชีวิตคู่ อาจเกิดเรื่องวุ่นวายในครอบครัว คู่ครองสร้างความหนักใจให้ แต่บางท่านที่โสดอาจจะได้คู่แบบต่างชาติ ต่างภาษา หรือคนที่ออกนักเลงด้านใดด้านหนึ่ง หรือไม่ก็ได้ตำรวจไปเลย (พระราหูจร 8 เล็งลัคนา)

            6.ตั้งแต่กันยายน 2563-29 มีนาคม 2565 เป็นระยะที่พวกท่านจะโดดเด่น ทำงานฉลาด อาจมีโอกาสได้เลื่อนชั้น ตำแหน่ง เป็นใหญ่เป็นโต โด่งดังตามระดับวาสนา (พระราหูจรเล็งลัคนา-ได้กีฎะเกณฑ์) แต่ต้องระวังท่าทีไม่ใช้อารมณ์ใจร้อนวู่วาม หรือใส่ร้ายป้ายสีใครเพราะจะเกิดคดีความหรือเรื่องราวได้ง่าย ตามโฉลก...จะมัวเมา ว่าความเขา ภัยถึงตัว

            7.ยังมีเกณฑ์สุขภาพทรุดโทรมต่อไป หรือไม่ก็คนใช้หรือผู้ใต้บังคับบัญชาก่อกวนสร้างปัญหาให้ หรือไม่ก็มีหนี้แบบแปลกๆ ทั้งการเป็นเจ้าหนี้และลูกหนี้ (เกณฑ์มฤตยูจรเดินอยู่ในภพที่หก)

            กล่าวโดยสรุป ท่านที่ลัคนาสถิตราศีพิจิกทั้งหลายที่โดยพื้นฐานชีวิตมักจะได้ดีโดดเด่นกว่าญาติๆ ในตระกูล..(ลัคนาอยู่พิจิกดียิ่งพ้นคิดยิ่งกว่าเผ่าพันธุ์) พวกท่านได้เข้าทุกข์ทั้งกับตัวเองและต่อด้วยเงินมานานแล้ว ต่อไปนี้เป็นโอกาสทองของชีวิตจากบุญเก่า และความพยายามสู้มาหนักของพวกท่าน

            โดยเกณฑ์ดีกว่าร้ายนี้จะเกิดอย่างแรงในช่วงก่อนพฤศจิกายน 2564 โดยเกี่ยวพัน ทั้งเรื่อง เงิน ลูกๆ หรือเด็กในความดูแลหรือ ญาติหรือเอกสารสัญญา หรือการติดต่อสื่อสาร นายหน้าหรือ การเดินทางทั้งใกล้-ไกล

            ข่าวดีคือหลังจากนั้นแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องราวของชีวิต แต่เกณฑ์ดีกว่าร้ายจะยังอยู่ เมื่อใกล้แล้วจะแจ้งให้ทราบต่อไป.