โซเชียลมีเดียลุกเป็นไฟหลัง'ทรัมป์'ติดโควิด


เพิ่มเพื่อน    

การเปิดเผยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าตัวเขาและเมลาเนีย ภริยา ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อปฏิกิริยาร้อนแรงในสังคมออนไลน์ ที่มีทั้งแสดงความเห็นใจ ไปจนถึงเยาะเย้ยและโกรธเคืองที่ทรัมป์พยายามทอนความเสี่ยงของโรคนี้ให้เหลือน้อยที่สุด

    รายงานเอเอฟพีกล่าวว่า คำประกาศของทรัมป์ทางทวิตเตอร์เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม ว่าเขาและภริยาติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เรียกยอดกดไลค์ได้มากกว่า 1.2 ล้านครั้งภายใน 8 ชั่วโมง และมีจำนวนการส่งต่อหรือทวีตซ้ำในระดับใกล้เคียงกัน

    เว็บไซต์ข่าวแอ็กซิออสกล่าวว่า ทวีตดังกล่าวเป็นข้อความทวีตที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของทรัมป์ ลบสถิติเก่าของทวีตเรื่องแรปเปอร์ "เอแซป ร็อกกี" ได้รับการปล่อยตัวออกจากคุกสวีเดน

    ส่วนในเฟซบุ๊กที่ทรัมป์มีผู้ติดตามราว 29 ล้านราย คอมเมนต์เกี่ยวกับคำประกาศนี้มีทั้งที่ให้กำลังใจขอให้พระเจ้าอวยพรเขา และเยาะเย้ยแดกดัน เช่น ทำไมทรัมป์ต้องกักตัว ในเมื่อเขาเคยบอกเองว่าโควิด-19 เป็นเรื่องหลอกลวง

    ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียหลายคนแสดงความโกรธที่ทรัมป์พยายามลดทอนความเสี่ยงของโควิด ซึ่งคร่าชีวิตผู้ป่วยในสหรัฐแล้วมากกว่า 200,000 ราย จากผู้ติดเชื้อมากกว่า 7 ล้านคน

    "คุณยังจะล้อเลียนคนที่สวมแมสก์อีกมั้ย" โซเฟีย บุช นักแสดงสาวและนักเคลื่อนไหว ถามทรัมป์ผ่านทวิตเตอร์ "คุณเสียใจหรือเปล่าที่โกหกคนอเมริกันมานานหลายเดือน ฉันถามแบบนี้เพราะฉันสันนิษฐานว่า คุณจะได้รับประโยชน์จากบริการด้านสุขภาพที่ดีที่สุดของรัฐบาลที่ได้จากเงินภาษีประชาชน และหวังด้วยใจจริงว่าคุณจะหายดี แต่คุณติดค้างคำตอบพวกเรา"

    มีบางรายแสดงความหวาดกลัวว่าข่าวนี้จะก่อความไม่สงบในสังคม เช่นว่า หากทรัมป์ตาย พวกสาวกที่คลั่งไคล้ทรัมป์จะเปลี่ยนจากการบอกว่าโควิดเป็นเรื่องหลอกลวง มาเป็นการเรียกโรคนี้ว่า "ไวรัสจีน" แล้วระบายความโกรธใส่คนอเมริกันเชื้อสายเอเชีย

    ในโลกทวิตเตอร์ซึ่งทรัมป์มีผู้ติดตามถึง 86 ล้านราย แฮชแท็ก #ทรัมป์ติดโควิด ขึ้นเทรนด์ยอดนิยม ข่าวทรัมป์ติดโควิดยังกระตุ้นให้เกิดการทำมีมหรือภาพล้อเลียนอย่างมากมายในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ด้วย รวมถึงในแอพวิดีโอสั้น "ติ๊กต็อก" ที่ทรัมป์พยายามแบนและบังคับให้ขายธุรกิจในสหรัฐ

    หัวหน้าคณะทำงานของทรัมป์ยืนยันว่าทรัมป์มีอาการป่วยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนสตรีหมายเลขหนึ่งยังสบายดี ทำเนียบขาวยังได้ติดตามตรวจผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงจากการติดเชื้อ โดยผลการตรวจบารอน ลูกชายวัย 14 ปีของทรัมป์ออกมาเป็นลบ

    ผลตรวจของรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ก็ไม่พบการติดเชื้อ เช่นเดียวกับผลตรวจสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลัง และไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ ไปจนถึงผู้พิพากษาเอมี โคนีย์ แบร์เรต ที่ทรัมป์เสนอชื่อเป็นตุลาการศาลฎีกาคนใหม่ด้วย แต่รอนนา แม็กแดเนียล ประธานพรรครีพับลิกันที่อยู่ใกล้ชิดกับทรัมป์ครั้งสุดท้ายในวันที่ 25 กันยายน ตรวจพบว่าติดเชื้อ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"