"บิ๊กปั๊ด" มอบนโยบาย "นายพลสีกากี" ทั่วประเทศ วาง 20 กฎเหล็กพัฒนาตำรวจ สั่งยกเลิกการตั้งด่านทั้งหมดจนกว่าจะทำให้โปร่งใสได้ เพิ่มกล้องวงจรปิดใน กทม. 5 พันตัว ขึงขังตู้ม้า บ่อนพนันขนาดใหญ่-ออนไลน์ต้องไม่มี ย้ำต้องไร้ซื้อขายเก้าอี้ "บิ๊กตู่" ลั่นติดตามคดีน้องชมพู่ตลอด "ผบ.ตร." ตั้งโต๊ะแจงมีคนทำให้เสียชีวิต เผยมีตัวผู้ต้องสงสัยแต่ยังไม่มีหลักฐานออกหมายจับ "ลุงพล" ควงทนายนั่งฟังแถลงใกล้ชิด
ที่สโมสรตำรวจ วันที่ 2 ต.ค. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานการสัมมนามอบนโยบายการบริหารราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 เพื่อกำหนดแนวทางและแผนการปฏิบัติราชการ โดยมีตำรวจระดับผู้บังคับการขึ้นไปเข้าร่วมทั้งสิ้น 496 นาย
พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าวว่า อยากเห็นภาพสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) อีก 5 ปีข้างหน้า ต้องคัดเลือกคนแต่ละสายงานขึ้นมาทำ ยกตัวอย่างงานป้องกันและปราบปราม พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร.ดูแล แต่ท่านทำคนเดียวไม่ได้ เราจะคัดเลือกคนที่มีความคิดดีๆ ต้องการนายพลหนุ่มเป็นอนาคต ต้องการ ผกก.ที่ขยันขันแข็ง ต้องการรอง ผกก., สว.ทุกระดับชั้น มาช่วยกันทำเรื่องนี้ และเราจะทำให้สำเร็จได้อย่างไร
พล.ต.อ.สุวัฒน์ได้มอบนโยบายให้กับผู้บังคับบัญชาระดับ ผบก.-รอง ผบ.ตร. จำนวน 20 ข้อ ประกอบด้วย 1.จากนี้ไปการทำงานทุกสายต้องมีคณะทำงานในการงานขับเคลื่อนงานทุกสาย อย่างเป็นระบบ 2.ต้องการให้ตำรวจทุกระดับชั้นมาร่วมกันวาดภาพว่าตำรวจใน 5 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร 3.ต้องสอนให้ตำรวจทุกระดับมีความรู้ ทั้งด้านกฎหมายและยุทธวิธี มีแผนเผชิญเหตุ ผู้บังคับบัญชาต้องจัดฝึกให้ชำนาญ 4.อยากเห็นตำรวจนำเทคโนโลยีมาใช้ในการปฏิบัติงานภาคสนาม เช่น สายตรวจใช้มือถือหรือแท็บเล็ต เก็บและตรวจสอบข้อมูลในการระงับเหตุไว้ทุกครั้งได้ 5.จะต้องฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุ เหตุตีกันในโรงพยาบาล ตำรวจจะปฏิบัติร่วมกันอย่างไร 6.จะฝึกตำรวจอย่างไร อย่างแรกต้องปรับ Mind set ก่อน โดยเฉพาะการสื่อสารกับประชาชน 7.ทีมเวิร์กเป็นเรื่องสำคัญ ต้องทำงานเป็นทีม 8.การบริหารงาน เรามีทรัพยากรจำกัด จะต้องบริหารให้ดี เช่น ตำรวจอังกฤษลดจำนวนผู้บริหารสถานีลงเพื่อเพิ่มจำนวนผู้ปฏิบัติงาน 9.ต้องช่วยกันเพื่อเป็นมรดกของคนรุ่นหลัง การตรวจตัวชี้วัด ต้องปรับให้เป็นแนวทางเดียวกัน 10.เรื่องแผนต้องบอกได้ว่าแต่ละปีจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เช่น งานจราจร เรื่องตัดแต้มจะเริ่มใช้ 1 มิถุนายน 2564 นี้
สั่งเลิกตั้งด่านทั่ว ปท.
นอกจากนี้ 11.เซตซีโรจุดตรวจ จุดสกัด ด่านตรวจเมา จนกว่าจะสามารถทำให้โปร่งใสได้ ทำอย่างไรไม่ให้มีการตรวจปัสสาวะข้างถนน ถ้าต้องตรวจให้เอาไปตรวจโรงพยาบาล ทำให้เขามั่นใจว่าไม่ถูกโกง ถ้าเรายังทำแบบนี้ไม่ได้ก็เซตซีโร 12.ติดกล้องวงจรปิด 5,000 ตัว ราคาตัวละ 3,000 บาท ในกรุงเทพมหานคร ให้เสร็จภายใน 4 เดือน ต่อไปนี้ฝ่ายสืบสวนจะมาอ้างไม่มีกล้องไม่ได้แล้ว 13.การพัฒนาการสอบสวน สำนวนไม่คั่งค้าง การพัฒนาฝึกอบรม ปรับทัศนคติ สร้างภาวะผู้นำให้ตำรวจชั้นผู้น้อย 14.การสร้างภาพลักษณ์เราต้องมีความรู้ มีประสิทธิภาพ โปร่งใส 3 อย่างนี้จะทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีได้ 15.ตู้ม้า บ่อนการพนันขนาดใหญ่ การพนันออนไลน์ต้องไม่มี ที่ผ่านมาให้ผ่านไป นับแต่วันนี้มีกติกา ใครทำต้องรับผิดชอบ 16.ต้องไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง ถ้ามีต้องถูกจัดการ การสร้างตัวแบบของการเปลี่ยน mind set เรื่องการแต่งตั้ง แม้ทำไม่ได้ 100% แต่ต้องช่วยให้คนดีได้รับการตอบแทน คนไม่ดีต้องถูกลงโทษ 17.การฝึกงานของตำรวจใหม่ ต้องมีพี่เลี้ยงที่ดี ต้องให้ฝึกงานในสถานที่ฝึกงานที่มีตัวแบบที่ดี
18.ต้องสร้างโอกาสให้ลูกน้อง อยากให้เด็กรุ่นหลังมีโอกาสได้มีไอดอลที่อยากเป็น เช่น อยากเก่งฝ่ายอำนวยการเหมือน พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รอง ผบ.ตร. ตำรวจต้องมียี่ห้อ ต้องมีแบรนด์ ต้องสอนให้เด็กรู้จักสร้างแบรนด์ 19.ผู้บริหาร ตร. จะหาคนที่ดีที่สุดมาแนะนำ จะสร้างตัวแบบที่ดี ถ่ายทอดดีเอ็นเอที่ถูกต้องให้ตำรวจรุ่นหลัง ให้เห็นความสำเร็จของงานเป็นหลัก มากกว่าการได้ตำแหน่ง และ 20.สุดท้ายฝากดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน แม้จะอยู่คนละสายงาน ไม่สำคัญว่าจะนำคนได้อย่างไร แต่สำคัญว่ามีผู้นำเท่าไหร่ที่เราสามารถสร้างได้ ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการทำงานและช่วยกันทำงานต่อไป
วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี ผบ.ตร.เตรียมความคืบหน้าคดีน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่หายออกจากบ้านพักที่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ก่อนจะพบเสียชีวิตบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านพักประมาณ 5 กิโลเมตรว่า ก็ดีแล้ว ไม่ดีหรือ
"ผมติดตามทุกวัน ติดตามทุกเรื่อง พอไม่พูดถึงก็บอกว่านายกฯไม่ได้ตาม นายกฯ ทำงานทุกวัน เรื่องไหนค้าง เรื่องไหนตาม ก็ว่ากันไป" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ถามว่าได้ตัวคนร้ายแน่นอนใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ฟังที่ ผบ.ตร.แถลง ก่อนหน้านี้เขาก็มีการรายงานมาว่ามีความก้าวหน้าอย่างไร สงสัยอย่างไร สถานการณ์สอบสวนเป็นอย่างไร ก็ให้ไปฟังตำรวจแถลง แม้ตนรู้ทุกเรื่อง แต่รายละเอียดต้องให้เขาชี้แจง ไม่อย่างนั้นนายกฯ ก็ทำงานแทนอธิบดี 200 กรม เพียงแต่นายกฯ รู้เรื่องก็เก่งแล้ว
จากนั้น พล.ต.อ.สุวัฒน์พร้อมคณะตำรวจที่เกี่ยวข้องคดีน้องชมพู่ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวความคืบหน้า ซึ่งในการแถลงข่าวครั้งนี้นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ซึ่งเป็นลุงเขยน้องชมพู่ เดินทางมาพร้อมด้วยนายกฤษฎา โลหิตดี หรือทนายโนบิตะ ทนายความของลุงพล เพื่อที่จะมารอฟังคำแถลงของ ผบ.ตร.
นายกฤษฎากล่าวว่า วันนี้มีคำถามอยากฝากไปถึง ผบ.ตร.ว่าตอนนี้ลุงพลพ้นผิดหรือยัง เพราะที่ผ่านมามีแต่สังคมเป็นคนพิพากษาว่าเป็นผู้ต้องสงสัยไปแล้ว วันนี้จึงอยากได้ยินจากทาง ผบ.ตร. ว่าวันนี้ลุงพลเป็นผู้บริสุทธิ์
น้องชมพู่มีคนทำให้ตาย
ต่อมา พล.ต.อ.สุวัฒน์แถลงข่าวโดยมีการแสดงคลิปสรุปผลการปฏิบัติงานตลอดกว่า 4 เดือนของตำรวจ รวม 3 คลิป ซึ่งในคลิปเเรกระบุถึง 8 ประการที่สนับสนุนให้เห็นว่าน้องชมพู่ไม่สามารถขึ้นไปบนเขาภูเหล็กไฟได้ด้วยตัวเอง อาทิประเด็นสำคัญเช่น เส้นทางลาดชันเเละลำบาก มีเนินหินสูงชันกว่า 60 องศา เกินกว่าที่เด็กวัย 3 ขวบจะขึ้นได้ โดยเทียบกับบันไดบ้านที่มีความลาดชัน 45 องศา อาหารเช้าที่กินเป็นมื้อสุดท้าย เป็นไข่เจียว 3 คำ กับน้ำส้ม 1ขวด ไม่เพียงพอที่จะใช้พลังงานขึ้นไปข้างบน ศพน้องชมพู่อยู่ในสภาพเปลือย พ่อเเม่ยืนยันว่าน้องไม่สามารถถอดเสื้อผ้าด้วยตัวเองได้ พบเส้นผม 36 เส้นในที่เกิดเหตุ ซึ่งบางส่วนตรงกับน้องชมพู่ ถูกตัดหรือเฉือนด้วยมีดจากการกระทำของบุคลอื่น จึงยืนยันได้ว่ามีบุคคลอื่นอยู่กับน้องในที่เกิดเหตุ
ส่วนคลิปที่ 2 เป็นการยืนยันเวลาการเสียชีวิตของน้อง จากผลการชันสูตรสภาพศพที่เน่าเปื่อย ความเห็นของนักกีฏวิทยา เเละจำลองการเน่าของเนื้อหมูเพื่อดูการเจริญเติบโตของหนอน สรุปผลยืนยันได้ว่า ช่วงเวลาที่น้องเสียชีวิตอยู่ระหว่างเวลา 14.30 น. ของวันที่ 12 พฤษภาคม 2563 ถึงเวลา 14.30 น. ของวันที่ 13 พฤษภาคม 2563 ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต เเพทย์พบบาดเเผลหลายจุดเ เต่ไม่มีบาดเเผลใดทำให้เสียชีวิตได้ เเละไม่พบการล่วงละเมิดทางเพศ ดังนั้นเเม้ว่าจะไม่สามารถสรุปสาเหตุการเสียชีวิตได้ เเต่เป็นไปได้ว่าน้องชมพู่เสียชีวิตจากการขาดน้ำเเละอาหาร เพราะไม่พบเศษอาหารในกระเพาะอาหารเเละลำไส้เล็กส่วนบน รวมถึงอวัยวะภายในมีการเน่ามากกว่าผิวหนังภายนอก ซึ่งเป็นอาการของผิวหนังขาดสารอาหาร
คลิปที่ 3 เป็นเรื่องผลตรวจเส้นผมที่พบในที่เกิดเหตุไม่มีรากผม ทำให้ไม่สามารถตรวจดีเอ็นเอแบบระบุคนได้ ทราบเพียงว่าเป็นดีเอ็นเอของบุคคลที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับน้องชมพู่ทางฝ่ายหญิงเท่านั้น เช่น ยาย เเม่ ป้า น้า น้อง รวมถึงไม่ได้หมายความว่าเส้นผมที่พบจะเป็นของคนร้ายเสมอไป
"จากข้อมูลทั้งหมดสรุปได้ว่าต้องมีคนใกล้ชิดหรือบุคคลพยายามบังคับพาน้องชมพู่ขึ้นไปบนจุดเกิดเหตุจนน้องถึงเเก่ความตาย จะด้วยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ซึ่งจะมีความผิด 3 ข้อหา คือ พรากเด็ก กักขังหน่วงเหนี่ยวจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต เเละซ่อนเร้นทำลายศพ" พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าว
ถามว่าตอนนี้มีบุคคลต้องสงสัยที่สุดเเล้วใช่หรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า เชื่อว่าจะต้องเป็นคนในพื้นที่ที่รู้จักเส้นทางของเขาภูเหล็กไฟเป็นอย่างดี เพราะจุดที่พบศพไม่ใช่ตำแหน่งที่คนทั่วไปจะสามารถขึ้นไปได้ แต่พยานหลักฐานยังไม่สามารถเอาผิดได้ จึงจำเป็นต้องสืบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากเป้าหมายของเราไม่ใช่การออกหมายจับและจับกุมตัวมาดำเนินคดี แต่ต้องการให้มีการลงโทษในชั้นศาล
"ยืนยันว่ายังทำงานต่อ ไม่พักคดีตามที่มีหลายคนตั้งข้อสังเกต แต่ก็จะสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานต่อเนื่อง เพื่อส่งสำนวนให้อัยการภายในกรอบระยะเวลา 1 ปีนับตั้งเเต่เกิดเหตุ แต่คดีดังกล่าวมีอายุความ 20 ปี ซึ่งหากมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมภายหลัง ก็สามารถสืบสวนต่อได้" ผบ.ตร.กล่าว
ซักว่าอะไรเป็นอุปสรรคในการทำคดี พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า หนึ่งในอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ตำรวจทำงานยาก นั่นคือนิติวิทยาศาสตร์ พยานหลักฐานไม่ได้ผลตามที่คาดหวังไว้ และน้ำหนักพยานบุคคลถูกทำลาย จากการที่มีสื่อมวลชนไปสัมภาษณ์ แต่ตำรวจก็จะไม่ล้มเลิกความตั้งใจ พร้อมฝากถึงคนร้ายที่รอฟังอยู่ให้นอนเครียดต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์แถลงข่าวคดีน้องชมพู่ ทั้งลุงพล ป้าแต๋น ทนายโนบิตะ และหมอปลา ซึ่งมาฟังการแถลงข่าวต่างนั่งจดประเด็นที่เจ้าหน้าที่แถลง โดยเฉพาะเรื่องช่วงเวลาที่น้องชมพู่หายตัวไปเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 ช่วงเวลาประมาณ 09.49-10.11 น. ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวตัวเองไม่ได้อยู่ในบ้านกกกอก และประเด็นดีเอ็นเอจากเส้นผมที่พบในตัวน้องชมพู่ ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นของบุคคลใด ระบุได้เพียงเป็นญาติทางฝั่งแม่ 2 ประเด็นนี้ทำให้ลุงพลมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง
ป้าแต๋นกล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกกังวล หลังจากตำรวจแถลงเรื่องผลดีเอ็นเอเส้นผมที่พบใกล้ศพน้องชมพู่ว่าเป็นญาติทางฝั่งแม่ พร้อมระบุว่าในบรรดาพี่น้อง 5 คน ตัวเองมั่นใจว่าสัมผัสและยุ่งเกี่ยวกับน้องชมพู่ 2 วันก่อนที่น้องจะหายตัว ตัวเองอาบน้ำให้น้องชมพู่แล้ววันที่ขึ้นเขาภูเหล็กไฟไปค้นหา ไม่มีญาติพี่น้องทางฝั่งแม่ขึ้นไปด้วย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |