หญิงอ้อส่ง‘คุณแจ๋ว’คุมเพื่อไทย


เพิ่มเพื่อน    

 

"ประยุทธ์" อารมณ์ดี อยากให้บ้านเมืองสงบสุข ผ่านอันตรายช่วงโควิด เศรษฐกิจดีขึ้น "บิ๊กบัง” เปิดใจวันเกิดครบ 74 ปี ขอนิรโทษกรรมคดีการเมืองเป็นของขวัญสร้างปรองดอง ดักคออย่าทำปฏิวัติ จะหนักกว่าปี 49 ลั่นบ้านเมืองต้องมีสถาบัน ฝากคนรุ่นผู้ใหญ่-คนรุ่นใหม่ต้องเข้าใจกัน "เพื่อไทย" จ่อตั้ง "คณะโปลิตบูโร" กำหนดทิศทางพรรค "หญิงอ้อ" ยังไม่เป็นสมาชิกแต่ส่งเพื่อนสนิทช่วยคุมพรรค "อุดม” ชี้แก้ ม.256-ตั้ง ส.ส.ร.เท่ากับล้ม รธน.ต้องทำประชามติก่อน "นร.เลว" แห่ขบวนบุกเตรียมอุดมฯ จี้หยุดละเมิดสิทธินักเรียน
    ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 2 ตุลาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งว่า อยากให้บ้านเมืองสงบสุขเรียบร้อย ให้มันผ่านอันตรายของช่วงโควิด-19 ไปได้ และเศรษฐกิจดีขึ้น ฉะนั้นอะไรที่รัฐบาลทำ คิดแล้วคิดอีก พยายามทำอย่างเต็มที่ ทีนี้เราต้องเห็นใจว่าคนของเรามีจำนวนกว่า 60 ล้านคน ฐานะความเป็นอยู่ก็แตกต่างกัน ทั้งภาคธุรกิจ ประชาชนทั่วไป เกษตรกร ผู้มีรายได้น้อย ทั้งหมดคือปัญหาในเชิงโครงสร้าง รัฐบาลคิดมาตลอดว่าจะทำอย่างไรในเรื่องนี้ ก็คือต้องการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศใหม่ ไม่ได้ฝากเฉพาะการส่งออก การท่องเที่ยว รัฐบาลคิดอย่างนี้มาตลอด
    "จะเห็นว่าหลายอย่างเดินหน้าไปแล้ว แต่มันไม่ง่ายนักหรอก เพราะเป็นอย่างนี้มาตั้งหลายสิบปีมาแล้ว เราพยายามแก้มา จะเห็นตัวอย่างว่าเราแก้อะไรมาบ้าง ที่แก้มาท่านอาจจะมองไม่เห็นก็ได้ คือเรื่องกฎหมาย ทุกอย่างต้องแก้ด้วยกฎหมายทั้งหมด ถ้ากฎหมายไม่แก้มันก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะมันปฏิรูปไม่ได้ ปฏิรูปทุกอย่างมันต้องพึ่งการแก้ไขกฎหมาย เราทำนอกกติกาเดิมไม่ได้ วันนี้เราก็มีรัฐธรรมนูญใช้อยู่ ถ้ายังไม่ได้แก้ไขก็ต้องทำตามรัฐธรรมนูญเดิมอยู่ เท่านั้นเอง" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว   
    ในช่วงท้ายการให้สัมภาษณ์ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ตนอารมณ์ดี เพราะเป็นวันศุกร์ของพวกผู้สื่อข่าว "แต่เสาร์-อาทิตย์ ฉันก็มีงานตลอด วันนี้ตั้งแต่เช้ายังไม่หยุดเลย ขอร้องให้ช่วยกัน อะไรที่เป็นเรื่องของนโยบาย การบริหารก็ว่าไป ผมก็อยากบริหารให้ถูกต้องตามกฎหมาย”  
     เมื่อถามว่าทำไมวันนี้นายกฯ ดูอารมณ์ดี พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ทำไมล่ะ ต้องการให้อารมณ์เสียหรืออย่างไร  
    พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 14 ต.ค.ว่า การชุมนุมก็อยู่ในกรอบกฎหมาย ในส่วนเจ้าหน้าที่ต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยของผู้ชุมนุม และที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากผู้ร่วมชุมนุมเป็นอย่างดี และเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
    วันเดียวกัน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตผู้บัญชาการทหารบก  (ผบ.ทบ.) และอดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวเปิดใจในวันคล้ายวันเกิด 74 ปีว่า อยากเห็นประเทศชาติมีความเรียบร้อยและมีความเจริญรุ่งเรือง ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี และปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน แต่ปัญหาที่เป็นไปไม่ได้คือระบบการปกครองของเราที่ไม่เดินตามช่องทางที่ควรจะเป็น และสังคมไทยยังมีอะไรหลายอย่างที่เป็นเรื่องที่น่าศึกษา ดังนั้นต้องจัดระเบียบสังคมให้เข้าร่องเข้ารอย ส่วนการทำงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์นั้น อยากให้นำบทเรียนทางทหารมาประยุกต์ใช้กับบทเรียนทางการเมือง ต้องเห็นใจว่ากระบวนการยุติธรรมพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด แต่ผู้ที่โดนตัดสินก็จะมองความยุติธรรมในเชิงลบ ดังนั้นกระบวนการยุติธรรมต้องจัดรูปแบบใหม่ เพื่อแสดงออกให้เห็นถึงกระบวนยุติธรรมที่ประชาชนสัมผัสได้  
    อดีต ผบ.ทบ.กล่าวถึงปรากฏการณ์ที่เยาวชนออกมาชุมนุมว่า ถือเป็นธรรมชาติของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่มีความคิดไม่เหมือนกัน เป็นเรื่องปกติ แต่อย่าไปโทษว่าคนที่คิดต่างจากเราแล้วเขาผิด หากมองเช่นนั้นก็ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย นอกจากนี้ต้องกลับมาดูว่าความคิดของเด็กกับผู้ใหญ่แตกต่างกันตรงไหน เพียงแต่ผู้ใหญ่ต้องหันกลับมามองว่าแนวคิดว่าเด็กกำลังคิดอะไร อย่าไปคิดว่าสิ่งที่ตัวเองคิดถูก ต้องมองว่าเราสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ทันกับสิ่งที่เด็กคิดได้หรือไม่ ดังนั้นผู้ใหญ่ควรมองเด็กให้ถูก และเด็กต้องเข้าใจปัญหาของผู้ใหญ่เช่นกัน อย่ามองข้ามพื้นฐานของความเป็นจริง สิ่งเหล่านี้ต้องจัดเชื่อมโยงกัน
หนุนนิรโทษ-ปรองดอง
      เมื่อถามถึงข้อเรียกร้องกลุ่มชุมนุมเรื่องสถาบัน อดีต ผบ.ทบ. กล่าวว่า โลกนี้มีการปกครอง 3 แบบคือ ประชาธิปไตย, เผด็จการ และสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ประเทศเราอยู่มาเป็นพันปี เป็นประเทศไทยได้เพราะสถาบันที่เป็นหลัก ทำให้ประเทศคงอยู่จนเป็นสยามและไทยในวันนี้ สถาบันมีบุญคุณกับแผ่นดิน ถือเป็นปูชนีย์ทางความคิด เป็นสิ่งที่ต้องยึดเอาไว้ ในระบบประชาธิปไตยและสังคมนิยมต่างก็มีข้อดีและข้อเสีย จึงเสนอการปกครองประชาธิปไตยแบบไทยๆ มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เด็กรุ่นใหม่อาจจะมองสถาบันมีประโยชน์ไม่มาก แต่จริงๆ แล้วให้ย้อนไปในอดีตว่าสถาบันได้สร้างอะไรให้กับประเทศไทยบ้าง เป็นบุญคุณและกตัญญู  
    ถามว่าสถานการณ์การเมืองปี 2549 ต่างจากปัจจุบันอย่างไร อดีตประธาน คมช.กล่าวว่า สถานการณ์ในแต่ละช่วงไม่เหมือนกันจะเอาเหตุการณ์ในเวลาหนึ่งมาเปรียบเทียบในอีกเวลาหนึ่งไม่ได้ ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้มีองค์ประกอบไม่เหมือนกัน แต่ปัญหาที่บ่นกันมากคือเรื่องคอร์รัปชัน เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องมอง และทำให้ประชาชนเห็นว่าที่กำลังเดินไปข้างหน้าจะต้องเป็นองค์ประกอบอย่างไร ทำให้เห็นถึงความโปร่งใส
    "สำหรับเรื่องความปรองดอง หากทำกันจริงจังสามารถเกิดขึ้นได้ โดยให้คนที่มีความคิดต่างในแต่ละกลุ่มหันหน้ามาร่วมกัน แต่หากเป็นความผิดพลาดทางการเมืองที่เกิดจากความเห็นต่างแล้วฝ่ายปกครองบอกว่าผิดกฎหมายและติดคุก อันนี้คือต้องนิรโทษกรรม หรือการให้อภัยกับคนที่มีความคิดและความแตกต่างทางการเมือง แต่ก็ต้องแยกกัน ถ้าเป็นคดีอาญา ถือเป็นของขวัญที่ผมอยากเห็น"
    เมื่อถามถึงกระแสข่าวรัฐประหารในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา พล.อ.สนธิกล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าจะมีรัฐประหาร เพราะปัญหาของความขัดแย้งในประเทศก็รุนแรงพอแล้ว ดังนั้นวิธีแก้ก็มีวิธีการอยู่ ไม่จำเป็นต้องมีรัฐประหาร เพราะไม่เชื่อว่าการปฏิวัติจะใช้แก้ไขปัญหาได้ในเวลานี้ ซึ่งมันหนักกว่าเมื่อปี 2549 เนื่องจากวันนี้ความขัดแย้งสองฝ่ายแย่กว่าเก่า และปฏิบัติจะไม่มีทางสำเร็จ ดังนั้นต้องแก้ไขปัญหาตามที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ ซึ่งถูกต้องแล้ว แต่ต้องอดทนและทำความเข้าใจให้ทุกกลุ่มหันกลับมาคิดและช่วยกัน
    มีรายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า สำหรับคณะกรรมการที่จะมากำหนดทิศทางพรรคที่เหนือคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) นั้น จะอยู่ในรูปแบบคณะผู้บริหารพรรค ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับพรรคที่สามารถแต่งตั้งได้ 5-11 คน โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะทำหน้าที่คอยกำกับกำหนดทิศทางพรรค แล้วส่งต่อไปให้กก.บห.พรรคแจกจ่ายงานไปยังส่วนต่างๆ อีกทีหนึ่ง ซึ่งเป็นการทำงานแบบคู่ขนาน ต่างจากการทำงานของคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค คอยกำหนดทิศทางของพรรคเป็นหลัก เพียงคณะกรรมการชุดเดียว และเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าโครงสร้างใหม่ของพรรคเพื่อไทยจะไม่มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคอีกต่อไป
จ่อตั้งคณะโปลิตบูโร
    นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค กล่าวว่า คณะผู้บริหารพรรคจะเป็นคณะกรรมการที่ได้รับมอบหมายจาก กก.บห.พรรค โดยตำแหน่งแล้ว หัวหน้าพรรคจะไปเป็นกรรมการชุดนี้ เลขาธิการพรรคจะรับตำแหน่งเลขานุการในคณะกรรมการขณะนี้ยังไม่รู้ว่าจะมีการแต่งตั้งหรือไม่ ถ้าจะมียังไม่ได้คิดว่าจะมีใครอยู่ในกรรมการชุดนี้บ้าง ที่สำคัญกรรมการชุดนี้จะต้องเป็นสมาชิกพรรคเท่านั้น และไม่ใช่โปลิตบูโรตามที่มีการวิเคราะห์กัน
    นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรค กล่าวว่า โครงสร้างใหม่ของพรรคเพื่อไทยนั้น จะให้ทาง กก.บห.พรรคขับเคลื่อนเป็นหลัก จะมีการมอบหมายงานให้รองหัวหน้าพรรคแต่ละคนเข้าไปดูแลงานด้านต่างๆ เช่น งานด้านนโยบาย งานด้านบริหารพื้นที่ เป็นต้น ส่วนกระแสข่าวที่มองว่าคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ เข้ามาเป็นแกนนำในการขับเคลื่อนพรรคนั้น เท่าที่ถามคนในพรรคเพื่อไทยต่างก็งงกับข่าวดังกล่าว คุณหญิงพจมานไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับพรรคตั้งแต่ต้น กก.บห.ก็ไม่ได้เป็น ที่มีข่าวต่างๆ ออกมาเป็นการคาดการณ์กันไปเอง เพราะงานขับเคลื่อนพรรคจะมาจาก กก.บห.พรรคเป็นหลัก และคุณหญิงพจมานไม่น่าจะเป็นสมาชิกพรรค     
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบฐานข้อมูลพรรคการเมืองของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อนำเลขบัตรประจำตัวประชาชนคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ค้นหาได้จากกูเกิล นำไปตรวจสอบในระบบ ปรากฏว่าไม่พบข้อมูล อย่างไรก็ตาม ระบบฐานข้อมูลพรรคการเมืองของ กกต. เป็นฐานข้อมูลที่รายงานผลการตรวจสอบสถานภาพสมาชิกพรรคการเมืองถึงครั้งล่าสุด คือเมื่อ 30 มิ.ย.2563 ซึ่งในระหว่างนี้อาจจะมีความเป็นไปได้ที่คุณหญิงพจมานได้ยื่นสมัครสมาชิกพรรคไปแล้ว แต่ยังรอการรับรองจาก กกต. จึงยังไม่ได้อัพเดตลงฐานข้อมูลในวงรอบใหม่  
    มีรายงานอีกว่า ภายหลังจากมีการเลือก กก.บห.พรรคชุดใหม่และปรับโครงสร้างใหม่ ซึ่งคณะทำงานส่วนใหญ่ล้วนเป็นสายที่ใกล้ชิดนายทักษิณ คุณหญิงพจมานแทบทั้งสิ้น โดยเฉพาะคุณหญิงพจมาน ถือเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญ และจะเข้าร่วมประชุมกับ คณะกรรมการโปลิตบูโรอย่างน้อยเดือนละครั้ง นอกจากนี้ยังมอบหมายให้เพื่อนสนิท คุณแจ๋ว (นางจุฑารัตน์ เมนะเศวต) เป็นตัวแทนในการมาดำเนินการเรื่องต่างๆ แทน โดยบุคคลดังกล่าวเป็นที่รับรู้กันในแวดวงบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย ส.ส. และสมาชิกพรรค ว่าเป็นคนที่คุณหญิงส่งมา ต่างให้ความยำเกรงและให้ความเคารพอย่างสูง
    นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้ตัดสินใจกลับเข้าพรรคเพื่อไทยตามคำเชิญชวนของผู้ใหญ่ที่เคารพในพรรคหลายท่าน ดีใจที่ได้กลับมา เพราะพรรคเพื่อไทยเปรียบเสมือนเป็นบ้านที่คุ้นเคยมาตลอด ขนาดอยู่ข้างนอก คนก็คิดว่าตนเป็นคนของพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะสามารถเป็นทางเลือกอันดับหนึ่งให้กับประชาชนได้ ในขณะที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์มีความนิยมทรุดหนัก ตนได้รับมอบหมายให้เป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อมาดูเรื่องเศรษฐกิจ เชื่อว่าแนวทางเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย ต่อจากนี้จะเป็นทางออกให้กับประเทศได้ และจะสามารถโน้มน้าวให้ประชาชนมาเลือกพรรคเพื่อไทยให้มากขึ้น จนสามารถจัดตั้งรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้ เพราะเรามีแนวคิดและมีบุคลากรที่มีความพร้อม หากปล่อยให้ พล.อ.ประยุทธ์บริหารประเทศต่อไป เศรษฐกิจไทยจะไม่มีทางฟื้นได้เลย
     พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวถึงคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนรับหลักการมีมติให้ตั้งคณะอนุ กมธ.เพื่อพิจารณาทำความเห็นประเด็นข้อกฎหมาย และทำประชามติก่อนรับหลักการร่างรัฐธรรมนูญว่า เป็นการประวิงเวลา และทำให้สังคมขัดแย้ง ส่วนตัวควรให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณารับหลักการของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก่อนการชุมนุมวันที่ 14 ตุลาคมนี้จะเกิดขึ้น ทั้งนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยตั้งแต่ต้นที่จะตั้ง กมธ.พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนรับหลักการ การศึกษาว่าด้วยปัญหาของรัฐธรรมนูญปัจจุบัน พบว่ามีปัญหาเกือบทั้งฉบับ กรณีที่ดึงเรื่องศึกษาก่อนรับหลักการ ไม่เฉพาะแค่ต้องการประวิงเวลาแต่เป็นจุดที่สร้างความขัดแย้งให้สังคม มีนายกฯ และ ส.ว.เป็นศูนย์กลาง เพราะประเด็นข้อเสนอให้ทำประชามติก่อนรับหลักการนั้น กลไกของรัฐธรรมนูญมาตรา 256 กำหนดชัดเจนว่าต้องทำประชามติก่อนหากแก้ไขในเรื่องที่กำหนดไว้ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องซื้อเวลา
ต้องทำประชามติก่อนแก้รธน.
    นายอุดม รัฐอมฤต อดีตโฆษกคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และอนุกรรมการพิจารณาเสนอความเห็นในประเด็นข้อกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ใน กมธ.พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 6 ฉบับก่อนลงมติ กล่าวถึงข้อกังวลของ ส.ว. ว่าการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 และให้ตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมายกร่างใหม่ต้องทำประชามติก่อนหรือไม่ ว่าการตั้ง ส.ส.ร.เท่ากับเป็นการล้มรัฐธรรมนูญเดิม ไม่ได้เป็นเพียงการแก้ไขรัฐธรรมนูญเท่านั้น จึงกลายเป็นประเด็นว่าเมื่อรัฐธรรมนูญมีที่มาจากการลงประชามติควรต้องกลับไปถามประชามติจากประชาชนก่อนหรือไม่ เพราะกรณีนี้ไม่ใช่เฉพาะการแก้ไขในหมวด 15 ที่สามารถพิจารณาผ่านความเห็นชอบจากสภาแล้วค่อยไปทำประชามติ ดังนั้นส่วนตัวเห็นว่าควรต้องนำไปลงประชามติสอบถามประชาชนก่อนที่จะนำมาพิจารณาในสภา และเรื่องนี้ควรจะต้องมีการถกเถียงกันในคณะอนุกรรมการฯ พอสมควร
    “ถ้าตามหลักการมีทั้ง 2 มุม ที่มองว่าการเสนอดังกล่าวไม่ใช่เป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เป็นการฉีกรัฐธรรมนูญ ถ้ามองในมุมนั้นจะต้องไปลงประชามติก่อน เพราะมันไม่ใช่เรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ แต่ถ้ามีคนบอกว่าเราเคยทำแล้วตอนรัฐธรรมนูญปี 34 ตอนนั้นที่ทำได้เพราะรัฐธรรมนูญปี 34 ไม่มีการลงประชามติ ตรงนั้นไม่ได้พูดถึงว่ามันมาจากมติของประชาชน มันมีการยกร่างกันขึ้นมาธรรมดา” นายอุดมกล่าว           
     ที่รัฐสภา นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงกรณีที่มีผู้โพสต์ข้อความกล่าวหานายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ระบุว่านายชวนพูดว่า "รัฐธรรมนูญไม่กระทบต่อพี่น้องประชาชน" อีกทั้งบุคคลดังกล่าวยังมีการด่าทอใส่ร้ายนายชวน ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่คนปกติไม่พึงกระทำ ยืนยันว่าประธานสภาฯ ไม่เคยพูดในลักษณะดังกล่าว ข้อความดังกล่าวเป็นข้อมูลที่บิดเบือน ซึ่งไม่ทราบว่านำมาจากที่ใด และไม่ทราบว่ามีเจตนาอย่างไรจึงได้ทำการใส่ร้ายประธานสภาฯ อยากเตือนเด็กไทยว่าต้องเป็นคนดีของสังคม เราอาจไม่เคารพผู้ใหญ่ที่โกงและทุจริตต่อบ้านเมือง แต่เราต้องพึงเคารพต่อผู้ใหญ่ที่ดีๆ
     "ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าประธานสภาฯ ไม่เคยออกมาตอบโต้ แม้จะเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของสังคม เพราะท่านเป็นคนที่มีเมตตาธรรมต่อทุกท่าน ซึ่งวันนี้อยากนำบทกวีของนางจิระนันท์ พิตรปรีชา นักเขียนรางวัลซีไรต์ ที่มีใจความว่า "ตั้งแต่กู รู้ความ ถามกูได้ ว่าคนใต้ แต่รุ่นปู่ สู้คนไหม เมื่อเขาถูก ข่มเหง เคยเกรงใคร ไฟก็ไฟ เถอะจะจับ ดับด้วยมือ" ซึ่งเป็นบทกวีที่อยากฝากถึงแกนนำม็อบว่า สังคมต้องการคนดี สังคมไม่ต้องการการกระทำที่อยากหยาบคาย" นายสมบูรณ์กล่าว
นักเรียนเลวบุกเตรียมอุดมฯ
    ขณะที่กลุ่มที่ใช้ชื่อว่า “นักเรียนเลว” จัดกิจกรรมขับรถแห่ไล่รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ โดยแห่รถไปยังโรงเรียนทั้ง 5 โรงเรียน และ 1 กระทรวง ปราศรัยและยื่นหนังสือเพื่อยุติการลงโทษนักเรียนด้วยวิธีที่รุนแรงและเป็นการทำร้ายร่างกาย ทั้ง 5 โรงเรียนตามลำดับ ได้แก่ โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย, โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์, โรงเรียนเทพศิรินทร์ และโรงเรียนวัดราชบพิธ ก่อนจะเคลื่อนไปยังกระทรวงศึกษาธิการ เป็นลำดับสุดท้าย
    เมื่อเวลาประมาณ 14.40 น. กลุ่มนักเรียนเลวเดินทางมาถึง หน้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โดยกล่าวว่า เรามาโรงเรียนอันดับ 1 ของประเทศไทย มาเรียกร้องให้โรงเรียนเลิกละเมิดสิทธิของนักเรียน โปรดรับฟังพวกเราด้วย เป็นโรงเรียนที่มีอุโมงค์มหัศจรรย์ ไม่รู้เอาไว้ทำอะไร ผู้ปกครองร่วมกันบริจาคสร้างพระ แต่พระไม่มี เป็น รร.วิถีพุทธ สร้างพระบังหน้า ใครตอบคำถามได้บ้างว่าพระอยู่ไหน เก็บเงินมาครึ่งปี มีแต่ป้ายไวนิลไม่มีพระเลย
    เวลา 14.57 น. ตัวแทนนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาขึ้นกล่าวปราศรัยถึงปัญหาที่พบในโรงเรียน โดยเน้นเรื่องคุณครูดีดสายเสื้อในนักเรียน และตรวจเสื้อซับในเพราะใส่เสื้อชั้นในมีสีสัน ทั้งที่โรงเรียนเคลมว่าเป็นเบอร์หนึ่ง จึงไม่แปลกใจที่ไม่พัฒนา
    จากนั้นมีการอ่านรายละเอียดหนังสือเรื่องขอให้มีการพิจารณาปรับเปลี่ยนกฎโรงเรียน เนื่องจากมีการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของนักเรียน มีการลูบหลังตรวจเสื้อซับ ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิ และขอให้โรงเรียนให้ทำตามประกาศกฎกระทรวงเรื่องทรงผมปี 2563 โดยตัวแทนนักเรียนได้ยื่นหนังสือให้ตัวแทนครู แต่ไม่มีครูออกมารับหนังสือ โดยนายลภนพัฒน์ หวังไพสิฐ หรือมิน แกนนำกลุ่มนักเรียนเลว กล่าวว่า ถ้าหากไม่มีครูออกมารับเอกสารจากนักเรียน เรามีอีกอยากที่จะมอบให้ รร.เตรียมอุดมศึกษาเช่นกัน
    ต่อมาเวลา 15.05 น. ตัวแทนนักเรียนได้นำป้ายไวนิลระบุข้อความ “พบครูดีดสายเสื้อในนักเรียนหญิงในโรงเรียน” นำไปแปะไว้ที่รั้วภายในโรงเรียน โดยนักเรียนต่างผูกโบสีชมพู ทั้งนี้ ระหว่างที่ติดป้ายไวนิล บนรถแห่ของกลุ่มนักเรียนเลวได้เปิดเพลงผู้ใหญ่เอ๋ยผู้ใหญ่ดีไปพร้อมกัน ก่อนจะจบกิจกรรมที่ รร.เตรียมอุดมศึกษาในเวลา 15.13 น. โดยทางโรงเรียนได้ตอบรับการแก้ไขข้อเรียกร้องดังกล่าว.
   


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"