“ทรัมป์-เมลาเนีย” ไม่รอดติดโควิด-19 จากที่ปรึกษาคนสนิท เชื่อสะเทือนถึงการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีแน่ ผงะ! ทักษิณก็ไม่ตกเทรนด์ ผลตรวจเชื้อเป็นบวก แต่รักษาหายดีแล้ว ยัน “เจ๊แดง-ปู” ปกติดี สธ.ชี้นักวิชาการประเมินตัวเลขผู้ป่วยไทยจริงน่าจะอยู่ที่กว่า 6 พันราย! ป.ป.ช.ประเดิมฟัน อบจ.ลำพูนงาบงบโควิดแล้ว
เมื่อวันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศผ่านทวิตเตอร์ว่า ตัวเขาและนางเมลาเนีย ภริยา ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายหลังรับทราบผลตรวจเมื่อคืนที่ผ่านมา เขาและภริยาจะเริ่มกักตัวที่ทำเนียบขาวและเริ่มกระบวนการพักฟื้นทันที "เราจะผ่านพ้นเรื่องนี้ไปด้วยกัน" ทรัมป์โพสต์ในทวิตเตอร์
ข่าวการติดเชื้อโควิด-19 ของผู้นำประเทศมหาอำนาจสร้างความตื่นตกใจแก่ตลาดหุ้นทั่วโลกทันที และยังส่งผลสะเทือนอย่างหนักต่อการหาเสียงของทรัมป์ก่อนหน้าจะถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐวันที่ 3 พ.ย.นี้ โดยโพลชี้ว่าเขายังมีคะแนนนิยมตามหลังโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ภายหลังทรัมป์ประกาศข่าวนี้ ทำเนียบขาวได้ยกเลิกกำหนดการเดินทางไปหาเสียงที่รัฐฟลอริดาของทรัมป์ช่วงค่ำวันศุกร์ และน่าจะรวมถึงแผนการหาเสียงที่รัฐวิสคอนซินสุดสัปดาห์นี้ ทั้งสองรัฐเป็นรัฐสมรภูมิที่อาจชี้ขาดผลการเลือกตั้งได้ ขณะที่ นพ.ฌอน คอนลีย์ แพทย์ประจำตัวประธานาธิบดีแถลงว่า ทรัมป์ยังสบายดีและจะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปโดยไม่มีปัญหา
เอเอฟพีกล่าวว่า ทรัมป์และภริยาตรวจเชื้อไวรัสครั้งล่าสุดนี้ภายหลังมีรายงานว่า โฮป ฮิกส์ หนึ่งในที่ปรึกษาคนสนิท ติดเชื้อไวรัสโคโรนาเมื่อวันพฤหัสบดี ฮิกส์ร่วมคณะเดินทางไปเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ พร้อมกับทรัมป์ เพื่ออภิปรายโต้วาทีกับโจ ไบเดน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และยังอยู่ร่วมในการปราศรัยหาเสียงที่รัฐมินนิโซตาเมื่อวันพุธด้วย การดีเบตนัดที่ 2 ระหว่างเขากับไบเดนกำหนดไว้วันที่ 15 ต.ค.
คนสนิทของทรัมป์รายนี้เดินทางไปพร้อมกับทรัมป์บนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันของทรัมป์ และยังโดยสารไปพร้อมกับทรัมป์บนเฮลิคอปเตอร์มารีนวัน ซึ่งพื้นที่คับแคบยิ่งกว่าแอร์ฟอร์ซวัน ทำให้มีข้อสงสัยทันทีว่า ประธานาธิบดีทรัมป์และสมาชิกในคณะเดินทางของเขาอีกหลายคนอาจติดไวรัสโควิด-19 ด้วย
ภายหลังฮิกส์ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อในวันพฤหัสบดี ทรัมป์ยังคงขึ้นแอร์ฟอร์ซวันไปพบปะกับผู้บริจาคเงินสนับสนุนการหาเสียงของเขาที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ ทรัมป์เพิ่งมายืนยันระหว่างการให้สัมภาษณ์ฟ็อกซ์นิวส์หลังจากนั้นว่าที่ปรึกษาคนนี้ติดไวรัส และเขากับภริยาต้องตรวจเชื้อ เพราะพวกเขาใช้เวลาอยู่กับฮิกส์นานมาก
ทรัมป์ในวัย 74 ปี และทางทฤษฎีถือว่าเป็นคนที่มีน้ำหนักเกิน อยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อไวรัสนี้ ซึ่งได้คร่าชีวิตผู้ป่วยในสหรัฐแล้วมากกว่า 207,000 คน จากผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 7.27 ล้านคน ก่อนหน้านี้ทรัมป์โดนวิจารณ์อย่างหนักว่าจัดการปราศรัยหาเสียงงานใหญ่โดยที่ผู้สนับสนุนเขาน้อยคนสวมหน้ากากอนามัย ตัวเขาเองก็แทบไม่สวมแมสก์ และยังส่งสัญญาณสับสนว่าประชาชนควรสวมแมสก์เพื่อป้องกันไวรัสหรือไม่ ขณะที่ไบเดน คู่แข่งของเขาสวมแมสก์ในที่สาธารณะตลอด และงดการปราศรัยหาเสียงที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก ในการดีเบตนัดแรก ทรัมป์และไบเดนต้องผ่านการตรวจไวรัส แต่ในสถานที่จัดงานนั้น ครอบครัวและผู้สนับสนุนของทรัมป์ไม่ได้สวมแมสก์เลย สุนทรพจน์ของทรัมป์ในงานระดมทุนที่นิวยอร์กเมื่อวันพฤหัสบดี เขาเพิ่งคุยว่า การระบาดใกล้ยุติแล้ว และปีหน้าจะเป็นหนึ่งในปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ
ไบเดนยังไม่แสดงทัศนะใดๆ ต่อข่าวทรัมป์ติดเชื้อโควิด-19 แต่ผู้นำหลายประเทศแสดงความห่วงใยและอวยพรให้ทรัมป์และภริยาหายโดยเร็ว อาทิ นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี, ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย และนายรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษซึ่งเคยติดไวรัสนี้ด้วย
มีบุคคลระดับผู้นำประเทศหลายรายที่ติดไวรัสโควิด-19 นอกจากจอห์นสันที่ป่วยต้องเข้าไอซียูเมื่อเดือนเมษายน ผู้นำคนอื่นที่ติดเชื้อด้วยยังรวมถึงชาอีร์ โบลโซนาโร ประธานาธิบดีบราซิล, ฮวน ออร์ลันโด เอร์นันเดซ ประธานาธิบดีฮอนดูรัส, อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ประธานาธิบดีเบลารุส, เจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 องค์อธิปัตย์แห่งโมนาโก, อาเลฮันโดร เจียมมัตเต ประธานาธิบดีกัวเตมาลา, จีไนน์ อาเยซ รักษาการประธานาธิบดีโบลิเวีย และลูอิส อาบีนาเดร์ ประธานาธิบดีคนใหม่ของโดมินิกัน
เพื่อนตู่ขอให้ทรัมป์หายป่วย
ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และภริยาติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่าทราบแล้วจากสื่อ ซึ่งในฐานะเพื่อนกันก็ห่วงกันเป็นธรรมดา เพราะวันนี้ผู้นำอยู่ในช่วงการบริหารสถานการณ์โควิด-19 ถ้าเป็นก็ขออวยพรให้หายเร็วๆ ก็เพื่อนกัน ไม่ว่าอย่างไรก็เพื่อนกัน คำว่าเพื่อนก็คือเพื่อน ในฐานะผู้บริหารประเทศระดับสูงของแต่ละประเทศ ซึ่งเราต้องให้กำลังใจกัน ส่วนจะมีผลต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐหรือไม่ก็ต้องรอดูกันต่อไป ตรงนี้ไม่รู้เหมือนกัน
เมื่อถามว่า เราจะเตือนคนไทยอย่างไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คนไทยเตือนไม่รู้จะเตือนอย่างไรแล้ว สถานทูตก็ดำเนินการ รัฐบาลก็ดำเนินการ
ขณะเดียวกัน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โควิด-19 ในไทย ว่าพบผู้ป่วยรายใหม่ 6 รายในสถานที่กักตัวของรัฐ ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,575 ราย หายป่วยเพิ่มอีก 5 ราย รวมยอดสะสมของผู้ที่รักษาหายแล้ว 3,384 ราย จำนวนผู้เสียชีวิตสะสม 59 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาล 132 ราย โดยผู้ป่วยรายใหม่รายที่ 1 มาจากซูดานใต้ อาชีพทหารช่างเฉพาะกิจ ไปปฏิบัติภารกิจทางทหาร รายที่ 2-3 เดินทางมาจากอินเดีย รายที่ 4-5 เดินทางมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และรายที่ 6 เดินทางมาจากญี่ปุ่น
พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม กล่าวถึงกำลังของกองทัพที่กลับจากปฏิบัติภารกิจติดเชื้อโควิด-19 ว่ากองทัพไทยมีมาตรการการป้องกันตัวเองของกำลังพลที่เดินทางไปอย่างรัดกุม ตามข้อกำหนดของ ศบค. ทั้งก่อนและหลังเดินทางไป
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ภาพรวมของไทยเมื่อเปรียบเทียบกับทั้งโลกขณะนี้มีผู้ป่วย 34 ล้านคนแล้ว ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้นเท่าไหร่ ยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งตัวเลขที่เปิดเผยในปัจจุบันนักวิชาการคาดว่าต่ำกว่าตัวเลขจริง ในส่วนของไทยก็เช่นกัน ซึ่งปัจจุบันผู้ป่วยในระบบรายงานอยู่ที่ 3,575 คน แต่จากการคาดประมาณของทีมวิชาการที่ประมาณสถานการณ์ ก็คาดว่าไทยน่าจะมีผู้ป่วยมากกว่านี้ โดยน่าจะอยู่ที่ประมาณกว่า 6,000 คน
นพ.ธนรักษ์กล่าวอีกว่า วันนี้สถานการณ์จากเมียนมาเป็นตัวกดดันสำคัญของไทยว่าจะมีการระบาดเข้ามา หากเรามีระบบควบคุมป้องกันโรค มีการจัดการที่ดีในระยะเวลาที่เหมาะสม ก็จะควบคุมการระบาดในไทยได้ แต่หากยังปล่อยให้ลักลอบเข้ามา ความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดในไทยก็จะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งขณะนี้พบว่าการระบาดของโรคในเมียนมาใกล้ชายแดนไทยเข้ามาทุกที เพราะฉะนั้นเรื่องการกวดขันคนที่เดินทางเข้าเมืองผิดกฎหมายให้น้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันสอดส่อง
นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวถึงการประกอบศาสนพิธีในช่วงเทศกาลออกพรรษาในชีวิตวิถีใหม่ว่า ในช่วงออกพรรษาซึ่งจะมีการตักบาตรเทโว ที่อาจมีประชาชนร่วมในพิธีจำนวนมาก ขอให้ผู้จัดงานในพิธีสำคัญเหล่านี้จัดสถานที่ให้เหมาะสม มีการจัดลำดับ จัดระยะห่าง และที่กรมการศาสนาเป็นห่วงคือเทศกาลทอดกฐินทั่วประเทศ ซึ่งจะมีการเคลื่อนย้ายคนจำนวนมากในช่วงเวลา 1 เดือนนี้
ด้าน นพ.อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่าได้ทำคู่มือการจัดพิธีทางศาสนาและการจัดกิจกรรมประเพณี และขอเน้นย้ำเรื่องการตรวจวัดอุณหภูมิมากกว่า 37.5 องศา ขอให้งดร่วมกิจกรรม และขอความร่วมมือในการลงทะเบียนแอปพลิเคชันไทยชนะ หรือจดในสมุดลงทะเบียน พร้อมแนะนำ 3 ล. คือ “ลด” ลดความเสี่ยงจากการสัมผัส, “เลี่ยง” คือเลี่ยงพยายามไม่ไปในพื้นที่เสี่ยง และ “ดูแล” คือดูแลรักษาสุขภาพของตัวเอง และดูแลสังคม
ผงะ!แม้วติดโควิด
มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ย. พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ลงนามคำสั่งนายกฯ ที่ 33/2563 เรื่องการจัดโครงสร้างของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติมฉบับที่ 4 มีเนื้อสำสำคัญคือ ให้มีศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 เรียกโดยย่อว่า (ศปก.ศบค.) มีเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ และให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.
วันเดียวกัน ในช่วงเย็นมีกระแสข่าวแพร่สะพัดว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ติดเชื้อโควิด-19 โดยระหว่างพำนักที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งได้รักษาตัวโดยใช้แพทย์จากหลายโรงพยาบาล โดยมีการย้ายสถานที่รักษามาแล้ว 5 โรงพยาบาลจนรักษาหาย ขณะที่นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หรือเจ๊แดง น้องสาวนายทักษิณ รวมทั้งผู้ที่พักอาศัยอยู่ด้วยกันในดูไบ ได้แก่ เลขานุการ และคนขับรถก็ติดเชื้อด้วยเช่นกัน แต่ทั้งหมดก็รักษาจนหายแล้ว ส่วนคนเดียวที่ไม่ติดเชื้อคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ
ต่อมาแหล่งข่าวจากคนใกล้ชิดนายทักษิณระบุว่า ได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายทักษิณในเรื่องดังกล่าวแล้ว ยอมรับว่าติดโควิด-19 จริง โดยตรวจพบตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ส.ค. ซึ่งหลังตรวจพบก็ได้ให้คนรอบตัวที่ใกล้ชิดทุกคนไปตรวจคัดกรอง ซึ่งไม่พบว่ามีใครติดเชื้อ จากนั้นจึงเข้าสู่ระบบ Quarantine ตามคำแนะนำของแพทย์จนครบ 14 วัน และหลังจากครบ 14 วันได้ตรวจเช็กอีกครั้ง ปรากฏว่าคนใกล้ชิดไม่มีใครติดเชื้อ ซึ่งนายทักษิณได้รักษาตัวจนหายดีแล้ว และกลับมาใช้ชีวิตตามปกติแล้ว ส่วนกระแสข่าวว่านางเยาวภารวมถึงคนขับรถติดเชื้อโควิด-19 ด้วยนั้นไม่เป็นความจริง
มีรายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งว่าเมื่อไม่นานมานี้ ป.ป.ช.ได้พิจารณากรณีแจ้งข้อกล่าวหานายนิรันดร์ ด่านไพบูลย์ นายกองค์กรบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ลำพูน กับพวกรวม 18 ราย ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในการดำเนินโครงการป้องกันผู้สูงอายุกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยจัดซื้อชุดของใช้ประจำวันในราคาสูง ซึ่งที่ประชุม ป.ป.ช.ได้มีมติชี้มูลความผิดนายนิรันดร์กับพวก รวม 15 ราย ส่วนอีก 3 คนได้ถูกกันไว้เป็นพยาน โดยภายหลัง ป.ป.ช.ชี้มูลแล้ว ในส่วนของคดีอาญาจะส่งเรื่องไปยังสำนักงานอัยการเพื่อพิจารณาส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ส่วนความผิดทางวินัยนั้น ป.ป.ช.จะส่งเรื่องไปให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาลงโทษทางวินัยต่อไป.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |