เดลฟีน โบเอล พระธิดานอกสมรสของอดีตสมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบร์ที่ 2 แห่งเบลเยียม ชนะคดีฟ้องร้องเรียกสิทธิในการดำรงพระยศแบบเดียวกับพระราชโอรสและพระราชธิดาของอดีตกษัตริย์ โดยศาลตัดสินให้เธอมีพระยศเจ้าหญิงแห่งเบลเยียม รวมถึงมีสิทธิในพระราชมรดกด้วย

แฟ้มภาพ เดลฟีน โบเอล ศิลปินชาวเบลเยียม (ซ้าย) และอดีตสมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบร์ที่ 2 แห่งเบลเยียม

    รายงานของสำนักข่าวเอเอฟพีเมื่อวันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม 2563 อ้างคำกล่าวของมาร์ก ออยเทนแดเล ทนายความของเดลฟีน โบเอล ประติมากรวัย 52 ปีว่า ศาลสูงในกรุงบรัสเซลส์สนับสนุนผลการตรวจดีเอ็นเอที่สรุปว่าโบเอลเป็นธิดาของอดีตกษัตริย์อัลแบร์ที่ 2 แห่งเบลเยียม เธอจึงมีสิทธิในการดำรงพระยศเป็นเจ้าหญิงเช่นเดียวกับพระราชโอรสและพระราชธิดาองค์อื่นๆ ของอดีตกษัตริย์อัลแบร์ที่ 2

    "ศาลยืนยันว่าสมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบร์ที่ 2 เป็นบิดาของเธอ" ทนายความผู้นี้กล่าว และว่า นับแต่นี้เป็นต้นไป เธอจะสามารถใช้ราชสกุลซักซ์-โคบวร์กได้ และศาลยังเห็นชอบคำขอของเธอที่ต้องการได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับพระราชโอรสและพระราชธิดาอีก 3 พระองค์ ซึ่งได้แก่ เจ้าชายโลรองต์, เจ้าหญิงอัสตริด และสมเด็จพระราชาธิบดีฟีลิป

    โบเอล ซึ่งนับจากนี้จะมีพระอิสริยยศเจ้าหญิงแห่งเบลเยียม เป็นธิดาของบารอนเนสซีบีล เดอ เซลี ลงช็องป์ ซึ่งมีความสัมพันธ์นอกสมรสกับอดีตกษัตริย์อัลแบร์ที่ 2 ระหว่างปี 2509-2527 โดยขณะนั้นพระองค์ยังดำรงพระยศเจ้าชายแห่งลีแอจ

    พระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบร์ที่ 2 ในปี 2536 ภายหลังสมเด็จพระราชาธิบดีโบดวง พระเชษฐา เสด็จสวรรคต ขณะนั้นพระองค์มีพระชนมพรรษา 62 พรรษา กระทั่งเดือนกรกฎาคม 2556 กษัตริย์อัลแบร์ที่ 2 ก็ทรงสละราชสมบัติให้เจ้าชายฟีลิป พระราชโอรส เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระราชาธิบดีองค์ปัจจุบันของเบลเยียม

    แม้บารอนเนสซีบิลจะอ้างว่าเจ้าชายลีแอจทรงไปมาหาสู่เมื่อครั้งพระธิดาองค์นี้ยังทรงพระเยาว์ แต่ภายหลังปรากฏข่าวเรื่องลูกนอกสมรสในปี 2542 อดีตกษัตริย์อัลแบร์ที่ 2 กลับทรงยืนกรานปฏิเสธ พระองค์ทรงยินยอมให้ตรวจดีเอ็นเอก็เพราะศาลมีคำสั่งปรับวันละ 5,000 ยูโร (ประมาณ 185,000 บาท) หากพระองค์ปฏิเสธทำตาม

    กระทั่งเดือนมกราคมปีนี้ อดีตกษัตริย์ซึ่งปัจจุบันมีพระชนมพรรษา 86 พรรษา ทรงประกาศว่าพระองค์ทรงยอมรับว่า เดลฟีน โบเอล เป็นพระธิดา หลังจากผลตรวจดีเอ็นเอยืนยันเช่นนั้น เป็นการยุติการต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความจริงที่ยืดเยื้อยาวนาน 7 ปี

    อย่างไรก็ดี คดียังคงดำเนินต่อไปเมื่อโบเอลต้องการทวงพระยศและสิทธิในฐานะพระราชธิดา ทนายความของเธอกล่าวว่า เธอดีใจกับคำตัดสินของศาล ซึ่งยุติการสู้คดีอันยาวนานที่สร้างความเจ็บปวดแก่เธอและครอบครัว

    "ชัยชนะในการต่อสู้คดีจะไม่มีวันแทนที่ความรักของพ่อได้ แต่มันก็ทำให้ได้รับรู้ถึงความยุติธรรม ที่ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นด้วยข้อเท็จจริงที่ว่า เด็กอีกจำนวนมากที่ต้องผจญกับประสบการณ์เลวร้ายคล้ายกันนี้จะสามารถค้นพบความเข้มแข็งที่จะเผชิญหน้ากับมัน" ออยเทนแดเลกล่าว

    ไม่เพียงโบเอลจะมีพระอิสริยยศเป็นเจ้าหญิงแห่งเบลเยียม บุตรและธิดาทั้งสองคนของเธอยังสามารถดำรงพระยศเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงในราชสกุลซักซ์-โควบวร์กด้วย นอกจากนี้ เธอยังมีสิทธิได้รับพระราชมรดกเช่นเดียวกับพระโอรสและพระธิดาอีก 3 พระองค์ของอดีตกษัตริย์อัลแบร์ที่ 2.