2 ต.ค. 2563  พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีรับรถไฟฟ้ารางเดี่ยว(โมโนเรล)ขบวนแรกโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ว่า  ที่ผ่านมามีการพัฒนาโครงการรถไฟฟ้ามาอย่าต่อเนื่อง ซึ่งในอนาคตจะนำมาใช้ในการขนส่ง การจราจร ไม่ใช่เฉพาะในกรุงเทพมหานคร แต่เป็นหัวเมืองใหญ่ ที่มีประชากรหนาแน่น มีนักท่องเที่ยว การจราจรติดขัด เพราะต้องใช้รถไฟฟ้าหมด ซึ่งรัฐบาลกำลังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง  

ส่วนกรณีที่คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย- มีนบุรี  ได้ปรับเงื่อนไขการพิจารณาคัดเลือกใหม่ ​(TOR) จนทำให้เอกชนที่ซื้อซองมีการร้องเรียนนั้น  ขอให้เป็นเรื่องของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และคณะกรรมการฯ ที่มีอยู่หลายขั้นตอนต้องไปชี้แจง เอาหลักฐานและความถูกต้องไปพิจารณา ต้องทำให้ถูกต้องซึ่งมีคณะทำงานดำเนินการอยู่แล้ว 

“ยอมรับว่าเป็นห่วงว่าโครงการจะล่าช้า แต่ทุกอย่างต้องดำเนินการอย่างถูกต้อง ส่วนจะยึดมติ คณะรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ไม่ทราบ แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน หากพบข้อร้องเรียน ก็ต้องมีการชี้แจงให้ได้รับทราบ โดยยึดหลักประชาชนที่จะได้รับผลประโยชน์มากที่สุด”พลเอกประยุทธ์ กล่าว 

ด้านนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) เปิดเผยถึงกรณีการปรับปรุงหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกเอกชน (Request for Proposal Document : RFP) เป็นผู้ร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี(สุวิทนวงศ์) ซึ่งมีการนำคะแนนด้านเทคนิคมาตัดสินควบคู่กับราคาว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งจากศาลปกครองให้ชะลอ หรือยุติการประมูลโครงการการรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยขณะนี้ศาลยังไม่ได้นัดไต่สวน และรอคุ้มครองฉุกเฉินอยู่ ส่วนคำฟ้องจากศาลนั้นตอนนี้มาถึงแล้ว อย่างไรก็ตามยืนยันว่าสามารถชี้แจงได้หมดทุกกรณี เพราะ รฟม.จะยึดข้อกฎหมายเป็นหลัก

อย่างไรก็ตามยืนยันว่าการออกเอกสารเพิ่เติม รฟม. สามารถดำเนินการเพอ่มเติมได้เนื่องจาก ใน  RFP ข้อ 17.1ได้ระบุว่าสามารถออกเอกสารเพิ่มเติมที่จะปรับเปลี่ยนได้ และที่ผ่านมาได้มีการขยายเวลา 45วัน ซึ่งเมื่อรวมแล้วก็มีเวลาที่ขยายออกไปรวมไม่น้อยกว่า 70วัน ส่วนข้อกังวลที่ว่าจะเป็นการเอื้อเอกชนรายเดิมที่จะเข้ามาดำเนินการหรือไม่นั้น ในเรื่องนี้ยืนยันว่า บริษัทที่มาซื้อซองเอกสารทุกราย เช่น บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน), บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)และ ซิโนไฮโดร คอร์ปอเรชั่น ลิมิเต็ด เป็นต้น ทุกบริษัทล้วนมีประสบการณ์ในการก่อสร้างอุโมงค์ 

ขณะเดียวกันทาง รฟม. ยังเปิดกว้างที่จะให้ผู้รับช่วงแทนในการก่อสร้าง ที่ไม่ได้ซื้อซองแต่มีประสบการณ์ในการขุดอุโมงค์ สามารถเข้ามาก่อสร้างหรือดำเนินงานได้  ซึ่งประเทศไทยก็มีหลายบริษัทที่มีประสบการณ์งานอุโมงค์ขนาดใหญ่ เช่น บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จํากัด (มหาชน)เป็นต้น

นายภคพงศ์ กล่าวยืนยันว่า ในเอกสารประกวดราคาไม่ได้ระบุว่าหากเป็นผู้รับเหมาไทยมายื่นซองจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ หรือได้คะแนนเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด และไม่เคยระบุว่าจะต้องมีประสบการณ์ทางด้านการขุดอุโมงค์ลอดแม่น้ำเจ้าพระยา เพียงแต่การขุดอุโมงค์ลอดเจ้าพระยาใช้เทคนิคมากกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในเงื่อนไขได้ให้ผู้รับจ้างระบุเทคนิคการขุดอุโมงค์ว่าจะใช้เทคนิคอย่างไร และมีวิธีในการป้องกันความปลอดภัยอย่างไร หากเกิดวิกฤติเท่านั้น เนื่องจากพื้นที่ส่วนมากอีกเป็นพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ และอาคารอนุรักษ์เก่า และในปัจจุบัน เทคนิคการขุดเจาะก็มีการพัฒนาไปอย่างมาก สาเหตุที่ต้องให้ใช้ในรายละเอียดเทคนิคการขุดเนื่องจาก โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม งานขุดเจาะอุโมงค์มีมากถึง2ใน3ของการก่อสร้าง