“มู่หลาน” หนังดังที่ส่งพลังด้านบวก สู่ 3 นักมวยสาวดาวรุ่งแห่ง วัน แชมเปียนชิพ


เพิ่มเพื่อน    


ในนาทีนี้สำหรับแฟนหนัง คงไม่มีใครไม่รู้จักภาพยนตร์ที่ชื่อ “มู่หลาน” ซึ่งเล่าถึงความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว ของวีรสตรีจากแดนมังกร ที่กล้าเสียสละชีวิตส่วนตัวเพื่อออกรบแทนพ่อ แถมยังดำรงไว้ซึ่งเกียรติและศักดิ์ศรีชาติ จนกลายเป็นเรื่องราวที่ถูกยกย่อง และกล่าวขานมาจนชั่วลูกชั่วหลาน
    เช่นกันกับเส้นทางการเป็นนักสู้ ของบรรดานักมวยหญิงตัวท็อปของไทยทั้ง 3 รายในชั่วโมงนี้ ไม่ว่าจะเป็น แสตมป์ แฟร์เท็กซ์, วันเดอร์เกิร์ล แฟร์เท็กซ์ และอีกหนึ่งน้องใหม่ของวัน แชมเปียนชิพ สุนิษา ศรีแสน นักมวยสาวลูกครึ่งไทย-ลาว ที่เพิ่งประกาศศักดาความยิ่งใหญ่ ด้วยการไล่คว่ำรุ่นพี่อย่าง ริกะ อิชิเกะ บนสังเวียน และคว้าชัยชนะไฟต์แรกให้กับตัวเองได้แล้ว
    ซึ่งวันนี้ นักชกที่สามคนจะมาบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองว่า ได้นำเอาแรงบันดาลใจของ “มู่หลาน” มาใช้ต่อยอดในชีวิตอย่างไรบ้าง
    เริ่มกันที่ “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” อดีตแชมป์โลก 2 ประเภทกีฬา ทั้งมวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง ที่บอกเล่าเรื่องราวของ “มู่หลาน” ในความทรงจำ “สำหรับหนู คิดถึงการเสียสละของมู่หลาน ความรักพ่อ และความกล้าหาญ โดยส่วนตัวหนูคิดว่ามีส่วนคล้ายมู่หลานอยู่หลายอย่างนะ แต่เป็นคนละแบบมากกว่า”
    “อย่างแรกเลยคือ เราปฏิญาณกับตัวเองว่า จะทำอะไรแล้วก็ต้องทำให้ได้ และซื่อสัตย์กับคนที่มีพระคุณกับเรา อีกอย่างคือมีความกล้าที่จะแสดงออกในสิ่งที่ถูกที่ควร และด้วยความที่เป็นลูกคนโต ก็มีความกล้าที่จะทำงานตั้งแต่ยังเด็ก สามารถเลี้ยงครอบครัวได้”


    ด้าน “นัท” วันเดอร์เกิร์ล แฟร์เท็กซ์ เพื่อนร่วมค่ายของ แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ ที่เพิ่งเปิดตัวบนสังเวียนวัน แชมเปียนชิพในศึก ONE : No Surrender 3 ได้อย่างสวยงาม ด้วยการเอาชนะ บรูค ฟาร์เรลล์ จากออสเตรเลียไปในยกแรกเท่านั้น
    ดาวดวงใหม่แห่งศึกสังเวียนเดือด กล่าวถึงหนังที่ชื่นชอบในวัยเด็กว่า มีส่วนคล้ายกับชีวิตของตัวเองไม่น้อย เพราะด้วยหนึ่งสมอง สองมือของผู้หญิง หากมีความกล้าเป็นตัวจุดประกาย ก็สามารถก้าวออกจากเซฟโซนได้แบบไม่ยากเย็น
    “หนูคิดว่าก็คงเหมือนตอนที่เป็นเด็ก พ่อพาไปดูมวยแล้วเห็นผู้ชายชกกัน ก็อยากทำบ้าง มันดูเท่ เหมือนกับมู่หลานที่คิดว่าฉันเป็นผู้หญิงก็จริง แต่ฉันมีหนึ่งสมอง สองมือ สองเท้า ก็ทำได้เหมือนกัน ถ้าเกิดว่ามีวินัยก็เก่งเหมือนผู้ชายได้ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องความซื่อสัตย์ในอาชีพ หนูไม่เคยเป็นมวยล้มต้มคนดู เต็มที่ในทุก ๆ ไฟต์ที่ขึ้นชก”
    “ส่วนเรื่องความกล้าหาญก็เหมือนกับตัวหนูเอง กล้าที่จะชกกับคนที่อายุมากกว่าในตอนเด็ก ๆ กล้าที่จะแปลกแยก กล้าที่จะทนคำดูถูกของคนรอบข้าง ทุกวันนี้หนูยังขอบคุณตัวเองอยู่เลย ที่เป็นคนที่มีความกล้า ไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ อย่างน้อยก็ยังกล้าที่จะลงมือ เพราะถ้าเรายังแคร์คำคนอื่น ยังอยู่ในเซฟโซนของตัวเอง ก็คงไม่มีวันนี้แน่นอน”


    ขณะที่ “อิ๋ว” สุนิษา ศรีแสน ลูกครึ่งไทย-สาว นักสู้สาวสายแข็งที่เพิ่งเป็น “เฟรชชี่” น้องใหม่แห่งม.บูรพา ที่มาแชร์เรื่องราวของตัวเอง สะท้อนผ่านแนวคิดด้านตัวละคร “มู่หลาน”
    “ด้วยความที่หนูเป็นพี่คนโต ครอบครัวฝากความหวังเอาไว้ อีกทั้งแม่เป็นคนลาว มีสิทธิ์แค่มาเยี่ยมแต่ไม่สามารถอยู่กับเราได้ตลอด ทำให้แม่สอนไว้เสมอว่า ต้องเป็นเสาหลักให้กับครอบครัว ต้องดูแลพ่อ ดูแลน้องให้ได้ ต้องเข็มแข็งเข้าไว้”
    “ส่วนเรื่องความกล้าหาญ หนูก็กล้าที่จะผลักดันตัวเองขึ้นมา จากครอบครัวที่ไม่มีอะไร ก็ต้องทำเพื่อตัวเองและครอบครัวให้ได้ ทำในสิ่งที่ชอบและถนัด และการที่เราเล่นกีฬาต่อสู้ ก็เหมือนกับการเสียสละ เพราะร่างกายของเราไม่มีอะไหล่มาทดแทนได้ ดังนั้นถ้าจะทำอะไรก็ต้องทำให้สุด เพื่อในสักวันหนึ่งข้างหน้า เราจะไม่ต้องมานั่งเสียใจ และเสียดายกับสิ่งที่ยังไม่ได้ทำ”
    สุดท้าย “อิ๋ว” สุนิษา เผยว่า ถึงความลำบากในวัยเด็ก อาจจะเป็นเรื่องที่น่าเสียใจสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับตัวเธอแล้ว มันคือพลังบวกในการก้าวต่อไปข้างหน้า โดยมี “ความกตัญญู” เป็นแรงส่งสำคัญ เพื่อที่คนรอบข้างจะได้สบายในวันข้างหน้า
    “เวลาที่เราไปแข่งต่างประเทศ หรือเจอกับประสบการณ์ใหม่ ๆ พอเราได้กินอาหารที่อร่อย ๆ ก็นึกถึงพ่อกับแม่เสมอ เพราะอยากให้ท่านได้กินด้วยกัน ทำให้คิดว่าที่เราเล่นกีฬาแบบนี้ มันก็เป็นสิ่งที่ดีเหมือนกัน เพราะถ้ามีเงินมากขึ้น ในวันข้างหน้าพ่อกับแม่ก็จะได้กินบ้างเหมือนกัน หนูเลยเลือกที่จะเดินต่อไปในสายนี้”


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"