ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net เรียบร้อยโรงเรียนพจมาน ตามคอนเซ็ปต์ "หญิงอ้อคิด เพื่อไทยทำ" ที่ประชุมใหญ่วิสามัญพรรคเพื่อไทยเคาะรายชื่อกรรมการบริการชุดใหม่ 24 คน "สมพงษ์ อมรวิวัฒน์" นั่งหัวหน้าพรรครอบสอง ส่วนเลขาธิการพรรค "ประเสริฐ จันทรรวงทอง" ส.ส.นครราชสีมา อดีต รมช.คมนาคมในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ถือว่าเป็นเด็กในคาถานายใหญ่ อยู่กันมาตั้งแต่ยุคไทยรักไทย มีรองหัวหน้าพรรค 10 คน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ, กิตติรัตน์ ณ ระนอง, ชูศักดิ์ ศิรินิล, เกรียง กัลป์ตินันท์, ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร, พิชัย นริพทะพันธุ์, สุทิน คลังแสง, ไชยา พรหมา, พล.ต.อ.สมศักดิ์ จันทะพิงค์, อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด มีรองเลขาธิการพรรค 5 คน จักรพล ตั้งสุทธิธรรม, จิรวัฒน์ ศิริพานิชย์, เผ่าภูมิ โรจนสกุล, คุณากร ปรีชาชนะชัย, นพ ชีวานันท์ โดยมีธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ เป็นเหรัญญิกพรรค จักรพงษ์ แสงมณี เป็นนายทะเบียนสมาชิกพรรค อรุณี กาสยานนท์ เป็นโฆษกพรรค และมีกรรมการบริหารพรรคอีก 4 คน ชวลิต วิชยสุทธิ์, สรวงศ์ เทียนทอง, องอาจ วงษ์ประยูร, พรเทพ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ เรียกว่าสายตรงบ้านใหญ่ผงาดคุมพรรค มีแค่ น.อ.อนุดิษฐ์ หนึ่งเดียวที่เป็นสายหญิงหน่อย ปลอบใจที่หลุดจากแม่บ้านพรรค

            ๐ "คุณหญิงพจมานไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับพรรค แต่อาจมีสมาชิกไปหารือกับท่าน ตรงนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ผมคงไม่ไปก้าวล่วง ส่วนกระแสข่าวคุณหญิงพจมานจะเข้ามาคุมพรรคนั้น เป็นเพียงการลือกันไปต่างๆ นานา เพราะงานท่านก็มีอยู่เยอะ พรรคเรางานก็ยุ่ง" เฮียพงษ์พยายามปัดพัลวัน โถสถานการณ์ของพรรคที่ออกมาโจ่งครึ่มแบบนี้ ใครเขาจะเชื่อเฮียล่ะ ก็นายหญิงขึ้นกุมบังเหียนโต้งๆ จัดทัพใหม่หมด รื้อโครงสร้างเก่าเกลี้ยง ล้างบางอำนาจ "เจ๊หน่อย" ซะเหี้ยน และที่คอการเมืองจับตาไม่ใช่กรรมการบริหารพรรค แต่รอดู "โปลิตบูโร" ที่ "หญิงอ้อ" นั่งหัวโต๊ะซะมากกว่า โดยมี 4 ขุนพลของทักษิณที่ผันไปเป็นหัวขบวนกลุ่มแคร์ จะหวนกลับมาเป็นคีย์แมนหลักเคียงข้างหญิงอ้อ ไม่ว่าจะเป็น “หมอมิ้ง” นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช “หมอเลี้ยบ”นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี “เสี่ยอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย และ "เฮียเพ้ง” พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินของพรรคหรือเลขาฯ ตัวจริงก็ว่าได้ ส่วนทิศทางในการบริหารจะย้อนยุคขุดโมเดลไทยรักไทยที่พีกสุดๆ จนทำให้ทักษิณกวาดเสียงทั้งประเทศชนะถล่มทลายมาใช้อีกครั้ง พร้อมกับสลายพรรคสาขา กลุ่มการเมืองต่างๆ ให้กลับมาอยู่กับเพื่อไทยทั้งหมด ทั้งหลายทั้งปวงที่ "หญิงอ้อ" ออกโรงเต็มตัวขนาดนี้ จะเพื่อลูก เพื่ออดีตสามี เพื่อน้องสาว 2  คนของอดีตสามี หรือเพื่อใคร เรื่องราวยังไม่จบเท่านี้ ต้องรอดูตอนต่อไป

            ๐ ขนาดนักกฎหมายมือหนึ่งของรัฐบาลอย่างรองนายกฯ "วิษณุ เครืองาม" เอ่ยปากเองว่าตอบไม่ถูก น่าจะเป็นเรื่องยากสุดๆ ที่ผ่านมาไม่ว่าเรื่องอะไรที่ว่าเล่นเอาทุกฝ่ายงงงวย อ.วิษณุก็ไขปริศนาออก แถมอธิบายเป็นฉากๆ เคลียร์ได้ทุกประเด็น วันศุกร์นี้ "สุรพล เกียรติไชยากร" ประกาศแล้วว่าจะบุกสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทวงคืนสิทธิ ส.ส.เขต 8 เชียงใหม่ หลังศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งยกคำร้อง กกต. ปมตัดสิทธิและให้ใบส้มกรณีถวายปัจจัยพระสงฆ์ที่ จ.เชียงใหม่ จำนวน 2 พันบาท ถ้าจำกันได้ที่ประชุม กกต.มีมติเมื่อวันที่ 23 เม.ย.62 ระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของนายสุรพลไว้เป็นการชั่วคราว 1 ปี หรือใบส้ม และสั่งจัดเลือกตั้งใหม่ 26 พ.ค.62 จนทำให้ศรีนวล บุญลือ ที่ลงสมัครในนามของพรรคอนาคตใหม่ได้รับเลือกเป็น ส.ส. ด้วยคะแนนเสียงมากที่สุดของประเทศถึง 75,891 คะแนน ผ่านมาปีกว่าเรื่องราวกลับโอละพ่อ ฝั่งเพื่อไทยคิดว่าจะได้เป็น ส.ส.แน่ ฟากศรีนวลที่เวลานี้ย้ายไปสังกัดภูมิใจไทยก็ใจตุ๊มๆ ต่อมๆ ไหนจะคะแนนเลือกตั้งที่โยงไปถึงปาร์ตี้ลิสต์อีกล่ะ สุดท้าย กกต.ฟันฉับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยึดมติ 23 เม.ย.62 เป็นที่สุด ยันทำตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 225 "ก่อนประกาศผลการเลือกตั้งหรือการเลือก ถ้ามีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าการเลือกตั้งหรือการเลือกนั้นมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำนาจสั่งให้มีการเลือกตั้งหรือการเลือกตั้งใหม่ในหน่วยเลือกตั้งหรือเขตเลือกตั้งนั้น ถ้าผู้กระทำการนั้นเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งหรือผู้สมัครรับเลือก แล้วแต่กรณี หรือรู้เห็นกับการกระทำของบุคคลอื่น ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งสั่งระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้นไว้เป็นการชั่วคราวตามมาตรา 224 (4) คำสั่งตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นที่สุด" แต่ปัญหาก็คือ ศาลฎีกาฯ ก็มีอำนาจไต่สวนคดีนี้ตามรัฐธรรมนูญเหมือนกัน เพียงแต่ในมาตรา 226 ไม่มีบทบัญญัติในกรณีที่ศาลยกคำร้อง มีแต่ขั้นตอนกรณีที่ศาลพิพากษาว่าผู้นั้นกระทำความผิด.

ลี้คิมฮวง