วันที่ 1 ต.ค. นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทำการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ก่อนเข้าห้องทำงาน ปลัด วธ. อย่างเป็นทางการ โดย นางยุพา กล่าวว่า ตนวางแผนการขับเคลื่อนงาน วธ. โดยมุ่งต่อยอดในสิ่งที่นายกฤษศญพงษ์ ศิริ อดีตปลัด วธ.ได้สร้างไว้ได้ดีแล้ว ทั้งโครงการชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ขับเคลื่อนด้วยพลังบวร การพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม หรือ CPOT ขณะเดียวกันตนจะขยายผลถึงการนำทุนทางวัฒนธรรมมาพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประชาชนเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในการสร้างรายได้ ควบคู่ไปกับสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจของประชาชน นอกจากนี้ จะให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างมากจากวิกฤติโควิด-19 โดยจะเร่งพลิกฟื้นวิกฤติให้เป็นโอกาสให้เกิดขึ้นในประเทศ
ปลัด วธ. กล่าวอีกว่า ตนได้มอบการบ้านให้สำนักงานวัฒนธรรมทั้ง 76 จังหวัด สำรวจเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยพิจาณาว่าของดีแต่ละพื้นที่มีอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางท่องเที่ยว สินค้า ผลิตภัณฑ์ ชุมชน ศิลปินพื้นบ้าน ซึ่งจะนำมาสร้างอัตลักษณ์ท้องถิ่นให้น่าสนใจ และนำไปสร้างจุดขายขายเพื่อการท่องเที่ยว ขณะเดียวกันจะให้การดูแลศิลปินพื้นบ้านทุกแขนงในการเปิดพื้นที่การแสดงทุกจังหวัด หรือ มีการแลกเปลี่ยนการแสดงระหว่างกัน โดยจะมีการวางแผนงานนำร่องเป็นรายปีๆ ละ 20 จังหวัด ก่อนขยายผลไปทั่วประเทศ เพื่อเป็นโอกาสในการรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เมื่อประเทศไทยได้เปิดประเทศในอนาคต 'านด้านต่างประเทศตนจะให้ความสำคัญกับการสร้างสัมพันธภาพระหว่างประเทศ แม้ว่าขณะนี้มีวิกฤติโควิด-19 เดินทางไปต่างประเทศไม่ได้ แต่จะต้องปรบตัวให้เท่าทันกับยุคสมัย โดยมีการประชุม หารือ ผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอร์เรนซ์ เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์และความร่วมมือร่วมกัน โดยในปี 2564 ตนได้มอบหมายให้กองการสัมพันธ์ต่างประเทศ วธ. นำโครงการต่างประเทศมาวางแผนสร้างความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศในภาครัฐบาลให้มากยิ่งขึ้น
“ หลักการทำงานยังคงให้ความสำคัญกับการดูแล อนุรักษ์ รักษามรดกของชาติและกำลังปรับโฉมภาพลักษณ์ของ วธ. ให้ก้าวหน้า ให้เป็นกระทรวงที่นำไปสู่การสร้างรายได้และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ นำเงินเข้าประเทศมากขึ้น และได้มีการใช้เทคโนโลยีต่างๆเข้ามาช่วยในการพัฒนางานวัฒนธรรมของประเทศ รวมทั้งจะสร้างองค์กรให้ วธ. เป็นแหล่งองค์ความรู้ทางด้านวัฒนธรรมที่มีคลังข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อให้บริการสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆ ให้เกิดการพัฒนาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ ที่สำคัญโจทย์ในการทำงานใหม่วันนี้ คือ เราจะไม่ทำลำพัง จะบูรณาการร่วมกัน ทั้งหน่วยงานภายในและภายนอกทุกภาคส่วน งานวัฒนธรรมทุกโครงการจะไม่หยุดอยู่ที่เดิม จะไม่ขับเคลื่อนเฉพาะส่วนกลาง แต่ต้องเกิดเป็นงานที่ใหญ่จากการบริหารงาน และเงินร่วมกันทุกกรม เพื่อให้เกิดผลกระทบไปทั่วประเทศ ทั้งนี้ ไม่มีความหนักใจกับการเข้ามารับตำแหน่งนี้ เชื่อว่าจะสามารถประสานงานกับผู้บริหารทุกกรมได้ และผู้บริหารทุกคนก็น่ารักที่จะมาทำงานกับเรา” นางยุพา กล่าว