1ต.ค.63- ครบ 4 ปี ร.9 สวรรคต ศิริราชจัดงาน”ศิระกรานพระภูบาลนวมินทร์”  ประดับดาวเรืองสัญลักษณ์เลข ๙ ลานพระบิดา จัดนิทรรศการ’ในหลวงในความทรงจำ’ แสดงภาพทรงคุณค่า ครั้งแรกโชว์พระบรมรูปขณะทรงงานให้ชม ชวนสวมเสื้อเหลืองร่วมงาน สืบสานพระราชปณิธานร่วมกัน  

     ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์   ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล เป็นประธานในการแถลงข่าวการจัดงานศิระกรานพระภูบาลนวมินทร์ ปีที่ 4  “ในหลวงในความทรงจำ” ร่วมด้วย รศ.นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช และ รศ.นพ.นริศ  กิจณรงค์ รองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม ณ หอประชุมราชแพทยาลัย โรงพยาบาลศิริราช

 

 

     ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์  วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล  กล่าวว่าสำหรับการจัดงานศิระกรานพระภูบาลนวมินทร์ ปีที่ 4  “ในหลวงในความทรงจำ”  ทางคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล  มหาวิทยาลัยมหิดล จัดขึ้นเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช    บรมนาถบพิตร  มีวัตถุประสงค์เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและถวายเป็นพระราชกุศล อีกทั้งเชิญชวนคนไทยร่วมในกิจกรรมครั้งนี้  ทั้งนี้ ผู้บริหารคณะฯ พร้อมด้วยบุคลากรศิริราชจะนำดอกดาวเรืองวางประดับผ่านสัญลักษณ์เลข ๙ ที่ออกแบบโดยอาจารย์ช่วง มูลพินิจ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ ณ บริเวณกลางลานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก  กิจกรรมภายในงานวันที่ 13 ต.ค. 2563 ณ รพ.ศิริราช เริ่มด้วยภาคเช้า เวลา 06.30 น. พิธีทำบุญตักบาตร (ข้าวสารอาหารแห้ง) แด่พระสงฆ์ 39 รูป ที่จะเดินบิณฑบาตจากสี่แยกศิริราช  ถนนวังหลัง เข้าประตู 8 ไปยังลานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบรมราชชนก  เวลา 07.30 น. พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 10 รูป สวดพระพุทธมนต์และสวดสดับปกรณ์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร      เวลา 08.00 น. ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล นําเคารพธงชาติและร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เวลา 09.30 - 12.00 น. ชมการบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ จากวงดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดลและจากบุคลากรศิริราช

      ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับภาคบ่าย เวลา 13.00 - 14.30 น. ปาฐกถาเทิดพระเกียรติ “ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ในความทรงจำ” โดย ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เวลา 14.30 - 15.30 น. พระสงฆ์สมณศักดิ์ 10 รูปจากวัดพระราม 9  สวดพระพุทธมนต์ถวาย เป็นพระราชกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ต่อมาเวลา 15.52 น. เป็นช่วงเวลาที่สำคัญ ขอเชิญชวนประชาชนชาวไทยร่วมเจริญจิตภาวนา 9 นาที เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และช่วงท้ายของกิจกรรม เวลา 16.15 น. จะเป็น “พิธีศิระกรานพระภูบาลนวมินทร์” ซึ่งเป็นพิธีถวายสักการะอันทรงเกียรติจากบุคลากรศิริราช และประชาชน ปิดท้ายด้วยการอัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์ “ความฝันอันสูงสุด” มาขับร้องแทนคำมั่นสัญญาว่าจะมุ่งมั่นสืบสานพระราชปณิธานร่วมกัน สร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นบนแผ่นดินไทย ในเวลา 16.30 น. ณ ลานพระราชานุสาวรีย์ฯ 

 

 

       ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ วันที่ 13 ต.ค. นี้ เวลา 10.00-16.30 น. ยังเปิดให้ประชาชนเข้าชมพิพิธภัณฑ์ศิริราช โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังมีนิทรรศการศิระกรานพระภูบาลนวมินทร์ “ในหลวงในความทรงจำ”  อันทรงคุณค่ายิ่ง อาทิ ภาพแห่งความทรงจำในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ความประทับใจครั้งพระองค์ประทับ ณ รพ.ศิริราช รวมถึงนิทรรศการสิ่งแสดงจำลอง รถจิ้ป วิทยุสื่อสาร และกล้องถ่ายรูปที่ทำให้ระลึกถึงพระองค์ท่าน  พิเศษสุดร่วมชมพระบรมรูปในพระอิริยาบถขณะทรงงาน ซึ่งนำมาจัดแสดงเป็นครั้งแรก  ระหว่างวันที่  13 - 16  ต.ค.นี้ ณ โถงอาคาร 100  ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์  รพ.ศิริราช  นอกจากนี้ ยังเชิญชวนร่วมทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่าน เช่น  ปลูกต้นไม้เพื่อพ่อ คนละ 1 ต้น พร้อมถ่ายภาพแชร์ในสื่อโซเชียล ติดแฮชแท็ก #ปลูกต้นไม้เพื่อพ่อ #ในหลวงในความทรงจำ และร่วมกิจกรรมน้อมรำลึกวันคล้ายวันสวรรคต 13 ต.ค.นี้  ณ รพ.ศิริราช ตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม และเชิญชวนสวมเสื้อสีเหลืองมาร่วมงานโดยพร้อมเพรียง  

      “ วันที่ 13 ต.ค.2559 เวลา 15.52 น. มีประกาศแจ้งข่าวสวรรคต ทุกคนจดจำความรู้สึกไม่ลืมเลือน  จากนั้นเราผลักดันให้คนไทยสืบสานพระราชปณิธาน ซึ่งสอดรับกับพระปฐมบรมราชโองการในหลวง ร.10 0tสืบสาน รักษา และต่อยอด  ผ่านมา 4 ปีงานศิระกรานพระภูบาลนวมินทร์ ซึ่งหมายถึง การน้อมศรีษะก้มลงกราบในหลวง ร.9 ตราบใดศิริราชคงอยู่ เราจะจัดกิจกรรมนี้ต่อไป  งานไม่ใช่แค่จัดกิจกรรมวันเดียว แต่เชิญชวนให้ทุกคนนึกถึงพระบรมราโชวาทของพระองค์ท่านที่มีมากมาย   ครบ 1 ปีก็ทบทวนว่า ได้ดำเนินชีวิตตามพระบรมราโชวาทหรือเปล่า ถ้ายังไม่ได้ทำ ให้เริ่ม ถ้าทำแล้ว ทำให้ดียิ่งขึ้น สิ่งที่พระองค์พระราชทานไว้ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเรา การน้อมนำมาปฏิบัติเกิดสิ่งที่ดีต่อตนเอง สังคม และประเทศชาติ" ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าว
     ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวอีกว่า  สำหรับปีนี้แตกต่างจากงานที่ผ่านมา มีสถานการณ์โควิด ทุกปีมีประชาชนจำนวนมากมาศิริราช วันที่ 13 ตุลาคม ยืนสงบนิ่งที่ลานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบรมราชชนก  ก่อนจะน้อมศรีษะลงกราบ ณ สถานที่พระองค์เสด็จสวรรคต ปีนี้เชิญชวนร่วมงาน ณ ที่อยู่อาศัยและภูมิลำเนา เชื่อว่า บ้านเรือนส่วนใหญ่มีพระบรมฉายาลักษณ์และพระบรมสาทิศลักษณ์ ไม่ต้องมาศิริราชก็สามารถน้อมศรีษะลงกราบในช่วงเวลาที่สำคัญช่วงเวลาเดียวกัน  เราชวนคนไทยน้อมรำลึกพระองค์ท่านและสืบสานพระราชดำริที่ทรงมอบไว้  ทำให้สังคมไทยกลับมามีความสุขและพัฒนาบ้านเมืองต่อไป 

 

 

    รศ.นพ.วิศิษฐ์ วามวานิชย์ ผู้อำนวยการ รพ.ศิริราช กล่าวว่า ในหลวง ร.9 ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อ รพ.ศิริราชอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา คือ โครงการสุดท้ายที่พระองค์ทรงมอบไว้สำหรับช่วยเหลือผู้ป่วยทุกคน โดยเฉพาะผู้ป่วยด้อยโอกาส  อาคารหลังนี้สูง 25 ชั้น หอผู้ป่วย 400 เตียง ไอซียู 60 เตียง  ภาพรวมอาคารคืบหน้า 96% มีแผนจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบวันที่ 26 เมษายน 2564  ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชทานกำเนิด รพ.ศิริราช ช่วงโควิด ชั้น 1 ของอาคารใช้เป็นสถานที่คัดกรองผู้ป่วยโควิด นอกจากนี้ ทรงพระราชทานคำแนะนำโครงการระบายน้ำเพื่อขจัดปัญหาน้ำท่วมบริเวณ รพ.ศิริราช ให้เป็นโครงการในพระราชดำรินำมาสู่การปรับระบบบำบัดน้ำเสียของ รพ. น้ำไม่ท่วมขัง แม้ตึกเพิ่มขึ้น ศิริราชก็ยังน้อมนำแนวพระราชดำริมาจัดทำระบบเพิ่มด้วย  อีกทั้งในหลวง ร.9 มีพระราชกระแสหาทางแก้ปัญหาจราจรรอบ รพ.ศิริราช สะพานพระราม 8 และทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี ก็ล้วนมาจากพระราชดำริของพระองค์ท่านนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลและประชาชน