ไอโอฝ่ายไหนก็ไม่รู้ ปล่อยข่าว "ทักษิณ" จะเป็นนายกฯ พระราชทาน

            นอกจากเป็นไปไม่ได้แล้ว...

            ยังอาจเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูงอีกต่างหาก

            ทุกครั้งที่มีปัญหาการเมือง และดูเหมือนจะหาทางออกกันไม่ได้ มักจะมีเสียงร้องหารัฐบาลแห่งชาติ หรือนายกฯ พระราชทานกันเสมอ

            เพราะในอดีตเคยเกิดเรื่องนี้

            วิกฤตการณ์ทางการเมือง หลังเหตุการณ์เดือนตุลา "สัญญา ธรรมศักดิ์" เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ ๑๒ ของไทย และถูกจารึกไว้ว่าเป็นนายกฯ พระราชทานคนแรก

            ที่จริงแล้ว "อานันท์ ปันยารชุน" ก็เป็นหนึ่งในนายกฯ พระราชทาน

            เรื่องนี้ "ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์" อดีตประธานรัฐสภา รู้ดีกว่าใคร เพราะชื่อนายกฯ ที่ ดร.อาทิตย์ นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย คือ พลอากาศเอกสมบุญ ระหงษ์

            แต่กลับออกมาเป็นชื่อ "อานันท์ ปันยารชุน" นายกรัฐมนตรีที่ดีมากที่สุดคนหนึ่งของไทย

            เมื่อปี ๒๕๔๙ ช่วงปลายรัฐบาลทักษิณ ที่ชิงยุบสภาแล้วพยายามใช้อภินิหารทางกฎหมายเพื่อให้ตัวเองได้เปรียบในการเลือกตั้ง กลุ่มนักวิชาการ วุฒิสมาชิก ราชนิกุล แพทย์อาวุโส นักบริหาร นักวิชาการ  ศิลปินแห่งชาติ นำโดย ศ.ดร.ชัยอนันต์ สมุทวณิช ร่วมกันลงนามถวายฎีกา ขอพระราชทานรัฐบาลชั่วคราว

            และนายกรัฐมนตรีคนใหม่

            เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ และบริหารประเทศเป็นการชั่วคราว จนกว่าการเลือกตั้งจะแล้วเสร็จ

            โดยอ้างอิงความตาม มาตรา ๗ ของ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๔๐

            เห็นรายชื่อผู้ร่วมถวายฎีกาแล้วจะตกใจ

            ศาสตราจารย์ ดร.ระพี สาคริก, ดร.เสนาะ อูนากูล, นพ.ไพโรจน์ นิงสานนท์, ดร.ปราโมทย์ นาครทรรพ, คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา, รองศาสตราจารย์ ดร.ต่อตระกูล ยมนาค, กล้านรงค์ จันทิก, อัษฎา  ชัยนาม, ดร.วุฒิพงษ์ เพรียบจริยวัฒน์, ดร.ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์, ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์, กษิต ภิรมย์  เป็นต้น

            แม้ครั้งนั้นไม่มีผลใดๆ แต่สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิด รัฐบาลแห่งชาติ นายกฯ พระราชทาน มักเกิดขึ้นเสมอเมื่อเห็นว่า แนวทางปกติไม่สามารถเดินต่อไปได้

            วันนี้ ยังเป็นแค่ข่าวลือ ยังไม่มีการแสดงตัวว่าใครกลุ่มไหน ออกมาเรียกร้องให้มี รัฐบาลแห่งชาติ  นายกฯ พระราชทาน 

            และวันนี้การเมืองยังเดินตามระบบได้ มีรัฐสภา มีฝ่ายบริหาร รัฐบาลประยุทธ์ ยังสามารถบริหารประเทศต่อไปได้

            ม็อบเดือนตุลาจะทำให้การเมืองเปลี่ยนอย่างนั้นหรือ 

            คำตอบคือยาก เพราะด้วยความห่ามและไม่รู้จักกาลเทศะ ทำให้มวลชนเริ่มถอยห่าง การชุมนุมเดือนตุลา จึงเป็นเพียงเวทีแสดงออกของกลุ่มเด็กหัวรุนแรงเท่านั้น

            และหากเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ การชุมนุมยังพุ่งเป้าไปที่การล้มล้างสถาบัน มวลชนก็จะยิ่งหายไปอีก

            สำหรับ "ทักษิณ" ไม่มีทางเป็นนายกฯ พระราชทานได้ เพราะคุณสมบัติไม่ครบ เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุก

            ที่บอกว่าจะมาลงเลือกตั้ง มารับใช้ประชาชนอีกครั้ง

            ฝันเปียกครับ.