‘พปชร.’ลบเหลี่ยม‘พท.’เติมหัว ปรับ‘โลโก้พรรค’กู้สถานการณ์


เพิ่มเพื่อน    

        นอกจาก “โลโก้พรรค” จะซ่อนความหมายจากสิ่งที่พรรคการเมืองนั้นๆ อยากจะแสดงถึงตัวตน การสื่อความหมาย และสร้างการจดจำผ่านโลโก้หรือตราสัญลักษณ์แล้ว ในการเมืองไทยยังมีเรื่องของ “ความเชื่อ” รวมอยู่ด้วย

            การออกแบบโลโก้พรรคการเมืองในไทยจะละเมียดไปถึงการเลือกตัวอักษร รูปทรง ที่จะต้องเป็นคุณแก่พรรคการเมืองนั้นๆ

            ในช่วงไม่กี่เดือนนี้ 2 พรรคการเมืองใหญ่อย่างพรรคพลังประชารัฐ แกนนำรัฐบาล และพรรคเพื่อไทย แกนนำพรรคฝ่ายค้าน ได้ปรับเปลี่ยนโลโก้อันเหตุมาจากสถานการณ์ภายในพรรคและนอกพรรคของตัวเอง

            เฉพาะพรรคพลังประชารัฐ นับจนถึงปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงมาแล้วถึง 3 ครั้ง โดยโลโก้แรกของพรรคเมื่อครั้ง พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เป็นผู้จดจองชื่อพรรคพลังประชารัฐต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เมื่อวันศุกร์ที่ 2 มีนาคม 2561 นั้นเป็นรูปรังผึ้งหกเหลี่ยมลายธงชาติ 

            แต่ภายหลังการเลือกตั้ง ในช่วงการจัดตั้งรัฐบาล ปรากฏว่าเกิดข่าวคราวความแตกแยกจากกลุ่มก๊กต่างๆ ภายในพรรคอย่างต่อเนื่อง อันเกิดจากการแย่งชิงตำแหน่งรัฐมนตรีที่มีอยู่อย่างจำกัด จนสร้างความปวดหัวให้กับผู้มีอำนาจ 

            โดยในการประชุมใหญ่พรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2562 จึงมีติเปลี่ยนแปลงโลโก้พรรค จากรูปเดิมมาเป็น “วงกลม” ซึ่งแสดงถึงความกลมเกลียว ไร้เหลี่ยมคมที่จะทิ่มแทงตัวเอง เพื่อหวังจะลดปัญหาความขัดแย้งของก๊กต่างๆ

            โลโก้ดังกล่าวถูกออกแบบโดย “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐในขณะนั้น ที่อ้างว่าไม่ได้เป็นการแก้เคล็ด แต่เพื่อความกลมเกลียว

            อย่างไรก็ดี แม้จะเปลี่ยนโลโก้พรรคแล้ว แต่ความขัดแย้งจากกลุ่มก๊กต่างๆ ภายในพรรคพลังประชารัฐกลับไม่ได้ลดลงเลย ตรงข้ามกลับเข้มข้นขึ้น ถึงขนาดล่ารายชื่อกรรมการบริหารพรรคให้ถึง 18 คน เพื่อโค่นนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคขณะนั้น จนหลุดตำแหน่ง

            โดยในการประชุมใหญ่สามัญของพรรคในวันที่ 27 มิถุนายน 2563 ที่มีมติเลือก “บิ๊กป้อม” ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค และนายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท เป็นเลขาธิการพรรค ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงโลโก้เป็นครั้งที่ 3 

            โลโก้อันใหม่ที่ใช้ในปัจจุบันเป็นวงกลมเหมือนเดิม แต่ได้มีการขยับตัวอักษรที่เขียนว่า พรรคพลังประชารัฐ ที่จากเดิมอยู่ข้างนอกวงกลมจะนำมาอยู่ในวงกลมทั้งหมด เพื่อแสดงให้เห็นถึงความกลมเกลียวและไม่ให้แตกออกมานอกวง

            ขณะที่พรรคเพื่อไทยนั้น ล่าสุดได้เปลี่ยนจากโลโก้เดิมที่หัวอักษรเป็นเหลี่ยม มาใช้ตัวอักษรชื่อ อู่ทอง ซึ่งเป็นตัวอักษรเดิมที่ใช้มาตั้งแต่เริ่มต้น และปรับหางที่ตัดให้ตรงเท่ากัน

            โดยมีการตั้งข้อสังเกตกันว่า เพราะโลโก้เก่าของพรรคเพื่อไทยนั้นไม่มีหัว ซึ่งทางความเชื่อถือว่าไม่ดี ช่วงที่ผ่านมามีการเรียกร้องให้เปลี่ยน แต่กลับไม่ได้มีใครสนใจ

            ทั้งนี้ นายชนม์ทรรศน์ ฤทัยผ่อง หรือ “ซินแสเข่ง” ผู้อำนวยการสถาบันโหราศาสตร์พยากรณ์แห่งประเทศไทย วิเคราะห์ว่า เป็นการปรับเปลี่ยนเพื่อให้มีความกลมกลืน เป็นธาตุน้ำ จากเดิมที่เป็นธาตุไฟ มีการใช้หัวอักษรเป็นลักษณะหัวแหลมทำให้มีความร้อนแรง 

            อย่างไรก็ตาม นอกจาก 2 พรรคการเมืองใหญ่แล้ว ก่อนหน้านี้เองพรรคอนาคตใหม่ก็เคยเปลี่ยนโลโก้พรรคเช่นเดียวกัน โดยของเดิมมีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมกลับหัว และมีเส้นสีขาวพาดทางด้านซ้ายของสามเหลี่ยมจากมุมหนึ่งมายังอีกมุมหนึ่ง มีตัวอักษรคําว่า “พรรคอนาคตใหม่” ซึ่งเป็นชื่อพรรคปรากฏอยู่ด้านล่างสามเหลี่ยมดังกล่าว โดยใช้สีส้มเป็นสีของสามเหลี่ยม และใช้สีส้มเป็นสีของตัวอักษร

            ส่วนของใหม่มีการปรับสามเหลี่ยมเพิ่มฐาน และมีการเปลี่ยนสีตัวอักษรคำว่า “พรรคอนาคตใหม่” จากสีส้มมาเป็นสีน้ำเงิน โดย “ซินแสเข่ง” เคยวิเคราะห์เอาไว้ตอนนั้นว่า “ลักษณะสามเหลี่ยมยังหัวทิ่มเหมือนเดิม คุณธนาธรเป็นคนจีนน่าเข้าใจ คนจีนทั่วไปมักเชื่อถือว่าการเอามุมแหลมแทงตัวเองมักจะเกิดความแตกแยก ไม่เจริญรุ่งเรือง หลักฮวงจุ้ยเรียกว่า ซวก คนไทยเรียกว่า แทงตัวตาย”

            ขณะที่เมื่อวันที่ 21 ก.พ.2563 พรรคอนาคตใหม่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุบพรรค กรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคให้พรรคกู้ยืมเงิน ขัดต่อ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งให้หลังเปลี่ยนการโลโก้พรรคใหม่ราว 9 เดือน

            ด้านพรรคพลังประชารัฐ ความขัดแย้งเริ่มเบาบางลงหลัง “บิ๊กป้อม” ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคเอง แต่สถานการณ์การเมืองกลับร้อนแรงจากการเคลื่อนไหวของม็อบต่างๆ

            ส่วนพรรคเพื่อไทยนั้นต้องรอดูว่าจะดีขึ้นหรือไม่ หลังการปรากฏตัวของ “หญิงอ้อ” คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร นายหญิงตัวจริง ที่มีข่าวว่าจะกลับมาดูแลพรรคอย่างเต็มตัว 

            เป็นการกลับมาหลังจากพรรคไร้หัวเรือใหญ่มานาน และเป็นการกลับมาในวันที่โลโก้มีหัวแล้วเช่นกัน แต่จะดีหรือทรุด ต้องติดตาม.

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"