คดีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือชื่อเดิม นปก. ชุมนุมปิดล้อมบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ “พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์” อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อปี 2550 เป็นหนึ่งในคดีสำคัญระดับประเทศที่ทำให้ 4 แกนนำ นปช.ต้องนอนเรือนจำ “วีระกานต์ มุสิกพงศ์-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ-วิภูแถลง พัฒนภูมิไท-นพ.เหวง โตจิราการ” พร้อม 1 แนวร่วม นปช. “นพรุจ วรชิตวุฒิกุล” ตามคำพิพากษาศาลฎีกาให้จำคุก 2 ปี 8 เดือน ซึ่งปัจจุบันบางรายเป็นผู้สูงวัย ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำแล้ว เนื่องจากได้รับการพักโทษ
การดำเนินคดีนี้ที่ผ่านมา มีการพิจารณาต่อสู้คดีกันที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เป็นคดีหมายเลขดำ อ.3531/2552 จำเลยที่ฟ้องทั้งหมด 7 ราย ถูกลงโทษ 5 ราย ตามที่ระบุไว้ข้างต้น ส่วนกรณีที่มีข้อสงสัยถึงหนึ่งในแกนนำ นปช.คนสำคัญอย่าง “จตุพร พรหมพันธุ์” ซึ่งปัจจุบันเป็นประธาน นปช.นั้น ไม่ถูกฟ้องในสำนวนนี้ ทั้งที่เป็นแกนนำร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ชุมนุมในเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ต่างกับเพื่อนฝูง ก็มีรายงานข่าวคลายข้อสงสัยไว้อย่างเด่นชัดว่า “จตุพร” ถูกฟ้องแยกมาอีกสำนวนร่วมกับ 1 ผู้ชุมนุม เป็นคดีหมายเลขดำ อ.2799/2557 ที่ยังไม่ได้เริ่มการพิจารณา เพราะศาลให้รอการพิจารณาสำนวนแรกถึงที่สุด และเหตุที่ “จตุพร” ถูกฟ้องทีหลัง เพราะขณะฟ้องสำนวนแรกเขาติดเอกสิทธิ์ ส.ส.
โดยการพิจารณาสำนวนที่สองนี้ เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2563 ศาลอาญาได้เริ่มนัดพิจารณาแล้ว ซึ่ง “จตุพร” ได้แถลงต่อศาลขอให้อัยการนำตัวผู้ต้องหามาฟ้องให้ครบ จึงยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาถึงประเด็นดังกล่าว ศาลจึงให้จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องแถลงถึงเหตุที่อ้างดังกล่าวโดยละเอียด เพื่อศาลจะได้พิจารณาสั่งต่อไป โดยให้ยื่นต่อศาลภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่ 21 ก.ย.2563 โดยศาลกำหนดนัดพร้อมเพื่อฟังคำสั่งดังกล่าว วันที่ 9 พ.ย.นี้ เวลา 09.30 น.
แต่ค่ำวันเดียวกัน “ธนาพล อิ๋วสกุล” บ.ก.วารสารฟ้าเดียวกัน กลับโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวโดยแนบลิงก์ข่าว “จตุพร" ไม่เห็นด้วย 10 ข้อเรียกร้อง ชี้ละเอียดอ่อน” ซึ่งเป็นที่เข้าใจได้ว่าหมายถึง 10 ข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม พร้อมข้อความประกอบว่า “นี่เป็นเหตุผลที่จตุพรไม่ติดคุก ทั้งๆ ที่ณัฐวุฒิยังติดคุกอยู่ ทั้งๆ ที่ไปบุกบ้านเปรมเหมือนกัน” ทำให้ในวันต่อมา 22 ก.ย.2563 “จตุพร” ต้องออกมาตอบโต้ชี้แจงรายละเอียดผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ Peace Talk ทิ้งท้ายตอนหนึ่งว่า “ผมจะบอกให้คุณอย่ามาโกหกอย่างนี้ ด้วยวิธีสามานย์ใส่ผม ใช้ไม่ได้”
ผ่านมากว่า 1 สัปดาห์แล้ว โพสต์ดังกล่าวของ “ธนาพล” ที่อาจกล่าวได้ว่าเป็น “เฟกนิวส์” หรือมโนขึ้นมาจากไหนไม่ทราบนั้น ซึ่งขัดกับข้อเท็จจริงทางคดีที่ปรากฏในศาลอาญา ยังคงปรากฏอยู่บนเฟซบุ๊กส่วนตัวของเขา ทั้งที่เมื่อวันที่ 23 ก.ย.2563 “จตุพร” ย้ำแล้วให้มีการแก้ไข แต่ปัจจุบันก็ยังเหมือนกับดื้อแพ่งเพิกเฉย เมื่อเราสอบถามล่าสุดไปยัง “จตุพร” ว่าได้พูดคุยอะไรกับ “ธนาพล” หรือไม่ เขาตอบว่าไม่ได้พูดคุยอะไร ภายในสิ้นเดือนนี้ (ก.ย.) ถ้าไม่แก้ไขจะไปแจ้งความที่ ปอท.ต่อไป เพราะโกหก 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้จะฟ้องตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ไม่ได้ฟ้องหมิ่นประมาท เพราะตามกฎหมายต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ในที่สุด ถ้าเรื่องนี้ยังไม่อาจยุติลงได้ด้วยดี ถือเป็นหนึ่งในรอยร้าวของฝ่ายประชาธิปไตย ในช่วงที่ประธาน นปช.เสียเปรียบในทางการเมือง จากการแสดงความเห็นต่างกับกลุ่มผู้ชุมนุมกรณี 10 ข้อเรียกร้อง จนนำไปสู่การที่มวลชนบางส่วนไม่พอใจและลดศรัทธาที่มีต่อตัวเขาลง และถูกซ้ำเติมด้วยเรื่องเท็จในสถานการณ์ที่ลำบากจากคนฝ่ายเดียวกัน บั่นทอนการแสวงจุดร่วมสงวนจุดต่างให้ยิ่งย่ำแย่ลงไปอีก ฝ่ายประชาธิปไตยจะหวังชัยชนะได้ยาก หากไม่ชนะเผด็จการในใจตน และไม่ใช้ความจริงอย่างหนักแน่น.
นายชาติสังคม
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |