จบที่รุ่นเรดการ์ด?


เพิ่มเพื่อน    

 

           วันนี้ (๓๐ กันยายน) ครบเส้นตาย

            ม็อบปลดแอกบอกว่า ๒๕๐ ส.ว.ต้องออกไป

            รัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๙-๒๗๒ คือหน้าที่ ส.ว.ในบทเฉพาะกาล ต้องถูกลบออกไป

            ถ้าไม่ออกเจอชุมนุมแบบเบิ้มๆ ในเดือนตุลาคม

            ครับ...ดูเหมือนม็อบปลดแอก ม็อบ ๑๙ กันยา ม็อบ มธ. ตามแต่จะเรียก พยายามจัดอีเวนต์เพื่อความต่อเนื่อง

            เพราะ ๒๕๐ ส.ว. คงไม่มีใครออก

            แล้วจะเอาไงต่อ?

            ม็อบก็ชุมนุมเบิ้มๆ ไปเรื่อยๆ แต่ปริมาณคนอาจน้อยลง เพราะพรรคเพื่อไทย ถอยออกมาตั้งหลัก

            เสื้อแดงอยู่ในสถานะ พัก-คอย

            ระหว่างรอดูชุมนุม ๗ วัน ๗ คืน มาดูพฤติกรรมของม็อบสารพัดชื่อกันหน่อย

            จดหมายเปิดผนึกของสภานักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประณามผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เกี่ยวกับการชุมนุมเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน มันสะท้อนถึงความสิ้นคิด หรือไม่ก็การอบรมเลี้ยงดู ที่ไม่ดีพอ

            ตรรกะง่ายๆ มหาวิทยาลัยปิดประตูห้ามใช้สถานที่ในการชุมนุม

            กลุ่มนักศึกษาและคนเสื้อแดงพังประตู

            ประตูหนีบการ์ดปลายนิ้วขาด ใครต้องรับผิดชอบ

            ผู้บริหารมหาวิทยาลัยอย่างนั้นหรือ

            ควรจะเป็นแกนนำม็อบหรือเปล่า

            เปรียบเหมือนไปงัดบ้านเขาแล้วประตูหนีบนิ้วขาด เจ้าของบ้านต้องรับผิดชอบอย่างนั้นหรือ

            ถ้าเด็กๆ ของเรา เอาแต่ใจตัวเอง แบบนี้ ประเทศก็คงจบที่รุ่นนี้จริงๆ

            ก่อนนี้มีคนพูดถึง "เรดการ์ด" มันก็ยังไม่ชัดว่า ใช่หรือ? จะมาเทียบกับเยาวชนของเราได้อย่างไร

            แต่...วันนี้อาจต้องคิดใหม่ เพราะตั้งแต่วันที่ "รุ้ง" แจกกล้วยให้ "นายหัวชวน" มันเริ่มชัด

            "กองทัพพิทักษ์แดง" (Red Guards) กลุ่มเยาวชนจากสถาบันการศึกษา ตั้งแต่ระดับมัธยมไปจนถึงมหาวิทยาลัย คือกองกำลังสำคัญของ "ประธานเหมา"

            "เหมา เจ๋อตง" เปรียบเรดการ์ดว่าเป็น "เห้งเจีย" พญาวานร เขาหน่อ เอ้ย...ไม่ใช่ เป็นเทพเจ้าวานร

ที่เคยอาละวาดทั้งเมืองบาดาลและสรวงสวรรค์มาแล้ว

            "เหมา" ต้องการเห้งเจียจำนวนมากเพื่อทำลายปีศาจร้าย

            ภายใต้การรณรงค์เพื่อกำจัด "สี่เก่า"

            ประกอบด้วย อุดมคติ, จารีต, วัฒนธรรม และสันดาน

            โดยรวมคือล้างระบอบเก่า ทำลายศัตรูทางชนชั้น

            แต่สุดท้าย เหล่าวานร ก็สิ้นฤทธิ์ด้วยฝีมือของ "เหมา" เอง

            "เหมา" ใช้เด็กๆ กำจัดเหล่าเสี้ยนหนามทางการเมืองคนสำคัญ อาทิ หลิว เซ่าฉี และ เติ้ง เสี่ยวผิง อย่างราบคาบ

            กองทัพปลดปล่อยประชาชนสลายกลุ่มเห้งเจียที่มีสมาชิกกว่า ๒๐ ล้านคน ด้วยการส่งตัวไปใช้ชีวิตในไร่นาในชนบท

            ปฏิบัติการแค่ ๖ เดือน เห้งเจีย กลายเป็นกรรมกรถูกใช้แรงงาน

            การปฏิวัติวัฒนธรรม ที่ใช้ระบบคอมมูนเลี้ยงดูเด็ก ปลูกฝังแนวคิดสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ให้แก่เยาวชนรุ่นใหม่ของจีน เป็นผลให้ระบบเครือญาติที่เคยเข้มแข็งอ่อนแอลง

            เกิดความไม่ไว้วางใจกันระหว่างพ่อแม่ และลูก

            เด็กมีความก้าวร้าวโจมตีกระทั้งคนในครอบครัว

            คุ้นมั้ยครับ...ประเทศไทยมาถึงขั้นนี้หรือยัง.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"