ครูจุ๋มมอบตัวรับทราบ 2 ข้อหา ทำร้ายร่างกาย และความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.ครู อยู่ระหว่างสอบสวน ด้านครูอิ้วโพสต์ขอโทษทำรุนแรงเด็ก อ้างไม่มีเจตนา ทนายรณณรงค์พาผู้ปกครองแจ้งความเพิ่มครูทุบ 2 ขวบ กช.สั่งสารสาสน์คืนเงินค่าเทอมที่เก็บเกินเพดาน พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบโรงเรียนในเครือทั้งหมด 34 แห่ง
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 กันยายนนี้ ที่ สภ.ชัยพฤกษ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชระมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี, พ.ต.อ.ดิเรก ยศนันท์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี, พ.ต.อ.สถิตพร บุณยรัตพันธุ์ ผกก.สภ.ชัยพฤกษ์ ประชุมติดตามความคืบหน้าในคดี น.ส.อรอุมา ปลอดโปร่ง หรือครูจุ๋ม ผู้ช่วยครูประจำชั้นอนุบาล โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ที่ถูกแจ้งความทำร้ายเด็กอนุบาลด้วยการจิกผม หยอดยาหม่องใส่ตา ขังในห้องน้ำ ตามที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด
ระหว่างนั้นเอง น.ส.อรอุมา หรือครูจุ๋ม ได้เดินทางเข้าพบ ผบช.ภ.1 โดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดห้องเพื่อสอบปากคำครูจุ๋มอย่างละเอียดโดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้ารับฟัง
พล.ต.ต.เอกภพเปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายมาจาก ผบช.ภ.1 ให้มาดูแลและสอบสวนคดีนี้ ซึ่งวันนี้ได้ประชุมเรียบร้อยแล้วและกำหนดการดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิด ประการที่ 1 คือ ให้ย้อนดูกล้อง CCTC ทุกกล้อง ดูให้ครบทุกห้องเรียนว่ามีการกระทำความผิดอะไรที่เกี่ยวข้องกับเด็กบ้าง หากมีการกระทำเกี่ยวกับเด็กไม่ว่าครูคนใด จะดำเนินคดีตามความผิด เบื้องต้นได้ตั้งไว้ 2 ข้อหา คือ การทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้เด็กได้รับอันตรายทั้งกายและจิตใจ และฐานกระทำหรือละเว้นการกระทำที่ส่งผลต่อเด็ก ส่วนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับภาพที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด
ส่วน พล.ต.ต.ไพศาลกล่าวว่า ได้แจ้ง 2 ข้อกล่าวหากับ น.ส.อรอุมา หรือครูจุ๋ม ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น และความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ ส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.ครูฯ ยังต้องรอสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งจึงจะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหานี้ได้ ซึ่งในวันนี้นอกจากจะแจ้งข้อกล่าวหา 2 ข้อกับครูจุ๋มแล้ว ยังต้องแยกดำเนินคดีกับครูจุ๋มอีก 8 คดี ตามที่มีหลักฐานชัดเจนจากผู้ปกครองที่ได้เดินทางมาเข้าความให้ดำเนินคดีกับครูจุ๋มทั้ง 8 ราย เป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระกัน
หลังสอบปากคำครูจุ๋ม ตำรวจได้นำตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดนนทบุรีฝากขังแล้ว
ด้านนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรม ได้โพสต์กลุ่มแช้ตไลน์ของผู้ปกครองและครูโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ที่มีข้อความแช้ตจากครูอิ้ว ครูประจำชั้นอนุบาล 1 ที่มีพฤติกรรมทำร้ายนักเรียนด้วยเช่นกัน ระบุว่า เธออยากขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายเด็กจริงๆ เสียใจและยอมรับผิดในสิ่งที่เกิดขึ้น
สำหรับครูอีกคนหนึ่งที่ปรากฏเป็นข่าวทำร้ายเด็ก คือครูมาวิน หรือนายมาร์วิน ลิวานัก โอเรโฮลา ชาวฟิลิปปินส์ นอกจากจะถูกแจ้งความดำเนินคดีฐานทำร้ายเด็กแล้ว ยังถูก ตม.นนทบุรีจับกุมดำเนินคดีในข้อหาเป็นต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน และนำตัวส่งฟ้องศาลแขวงจังหวัดนนทบุรี จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลจึงสั่งปรับ 1 หมื่นบาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับ 5 พันบาท
เวลา 14.30 น. นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ พร้อมพ่อแม่เด็กระดับเนิร์สเซอรี่ (เด็กเล็กก่อนวัยเรียนและอนุบาล) เข้าแจ้งความตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.อรอุมา หรือครูจุ๋ม รวมทั้งครูคนอื่นๆ ที่นอกเหนือจากครูทั้ง 4 คนที่ถูกไล่ออกไปก่อนหน้านี้ โดยปรากฏในคลิปต่อมาว่ามีเด็กนักเรียนอนุบาลและระดับเนิร์สเซอรี่ถูกครูทำร้าย
นายรณณรงค์กล่าวว่า นอกจากเด็กอนุบาลจะถูกครูทำร้ายแล้ว ยังพบว่ามีเด็กที่เรียนเนิร์สเซอรี่ อายุ 2 ขวบ ถูกครูทำร้ายทุบตีเช่นกัน อีกทั้งยังมีครูโทร.มาขอผู้ปกครองว่าไม่ให้แจ้งความ ทั้งนี้ทาง ผกก.ได้เก็บรวบรวมหลักฐานกล้องวงจรปิดเนิร์สเซอรี่ ชั้น A และจะแจ้งทางผู้ปกครอง เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติม
อีกด้านหนึ่ง ที่โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ กลุ่มผู้ปกครองนักเรียนกว่า 100 คน ได้เดินทางมารอฟังคำชี้แจงจากทางโรงเรียน แต่ปรากฏว่าผู้บริหารของโรงเรียนปิดห้องประชุมกับเจ้าหน้าที่กระทรวงศึกษาธิการ และตำรวจ ในห้องประชุมเล็ก มีการเคาะประตูให้เปิด จนเกิดการชุลมุนวุ่นวายกันพักใหญ่ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ของทางโรงเรียนจะยอมเปิดประตูและออกมาเจรจาให้กลุ่มผู้ปกครองไปฟังคำชี้แจงที่ห้องประชุมใหญ่
ต่อมา นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) แถลงว่า จากการตรวจสอบพบว่าโรงเรียนมีปัญหาต้องแก้ไขหลายอย่าง เช่น การเก็บค่าธรรมเนียมการเรียน ตามระเบียบที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) กำหนด โดยในระดับอนุบาลกำหนดอัตราการเก็บเงินต่อปีไม่เกิน 80,000 บาท ดังนั้นแต่ละภาคเรียน โรงเรียนสามารถเก็บได้ไม่เกิน 40,000 บาท รวมทั้งค่าใช้จ่าย ค่าอาหารกลางวัน ค่าตรวจสุขภาพนักเรียน ค่าตรวจสารเสพติด ค่าประกันอุบัติเหตุ ค่าเรียนว่ายน้ำ ค่าเรียนดนตรี ค่าห้องเรียนปรับอากาศ ค่าเรียนเสริมนอกตำราเรียน ค่าเรียนเสริมพิเศษ เป็นต้น ซึ่งปรากฏว่าโรงเรียนแห่งนี้เรียกเก็บเกิน แต่โรงเรียนรับปากว่าจะคืนเงินส่วนเกินให้ผู้ปกครอง นอกจากนี้ สช.กำหนดจำนวนนักเรียนต่อห้องไม่เกิน 25 คน แต่โรงเรียนกลับเปิดรับ 34 คนต่อห้อง จะต้องแก้ไขภายใน 15 วัน หากไม่แก้ไขก็จะดำเนินการตาม พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน พ.ศ.2550 กำหนดต่อไป
“ผมได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง จำนวน 12 คน ตรวจสอบโรงเรียนเครือสารสาสน์ทั้ง 34 แห่ง ที่ สช.ได้รับการร้องเรียนด้วย โดยเริ่มจากโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์เป็นแห่งแรก และต่อไปนี้ สช.จะปิดช่องว่างทั้งหมด โดยมีมาตรการบังคับให้โรงเรียนเอกชนทุกแห่งติดประกาศพร้อมกับภาพถ่าย ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู วันหมดอายุ หน้าห้องเรียนทุกห้อง เพื่อให้ผู้ปกครองมั่นใจในโรงเรียนเอกชนต่อไป และถ้าโรงเรียนจ้างคนที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพมาทำหน้าที่ครู มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 60,000 บาท” นายอรรถพลกล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงครูทำร้ายเด็กอนุบาลว่า ขณะนี้กำลังเป็นกระแส ก็ขอฝากให้ครูที่มีอยู่กว่า 4 แสนคนทั่วประเทศ อย่าให้กรณีการลงโทษเด็กกลายมาเป็นปัญหา เป็นเงื่อนไขกลับมาที่รัฐบาล ฝากไปยังองค์กรครู จะทำโทษ ตีแรงๆ ทำโทษหนักไม่ได้แล้วในปัจจุบันนี้ หวังความร่วมมือจากเหล่าคุณครูทั้งหมด เพราะเดี๋ยวนี้มีกล้อง มีคลิป มีโซเชียลมีเดีย ก็เห็นหมด
"ผมเป็นห่วงว่าจะไปเป็นการขยายความขัดแย้งให้มากขึ้น ขอกระทรวง สถานศึกษาทุกแห่ง ต้องระมัดระวังเรื่องนี้ การลงโทษ การบูลลี่ทั้งหมด ขอให้อยู่ในกฎในระเบียบที่เหมาะสม".
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |