นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศธ.เดินทางมาที่รร.สารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์
29ก.ย.63- เมื่อเวลา 11.30 น. ที่โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ - นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาฯ กช.) กล่าวว่า ตามที่ได้รับมอบหมายจากนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) ให้ตนและนายกมล รอดคล้าย ที่ปรึกษารมช.ศธ.มาช่วยแก้ไขปัญหาและชี้แจงการเยียวยาช่วยเหลือนักเรียนที่ได้ถูกทำร้ายแก่ผู้ปกครองว่า จากการหารือร่วมกับกรรมการของโรงเรียน ซึ่งได้มีการสอบถามถึงข้อเท็จจริงในหลายเรื่อง ทั้งในเรื่องของการเก็บค่าธรรมเนียมที่ผู้ปกครองเรียกร้องว่ามีการเรียกเก็บเพิ่มเติมและราคาค่อนข้างแพง ซึ่งทางโรงเรียนได้ยอมรับผิดว่ามีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมอื่นๆ นอกจากค่าธรรมเนียมปกติ โดยทางโรงเรียนให้เหตุผลว่า ทางโรงเรียนนั้นไม่ได้มีการเก็บค่าธรรมเนียมตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) คือ หลักสูตร EP สามารถเก็บค่าธรรมเนียมได้เทอมละ 40,000 บาท รวมเป็นไม่เกิน 80,000 บาท ต่อปี แต่ทางโรงเรียนเก็บค่าธรรมเนียมเพียงเทอมละ 17,000 บาท รวมต่อเทอม 34,000 บาท จึงต้องเก็บค่าธรรมเนียมอื่นๆ เพิ่มเติม ซึ่งหากผู้ปกครองท่านใด ถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเกิน 80,000 บาท โรงเรียนยินดีจะคืนเงินหากทั้งหมด
สำหรับ การตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพครูแต่ละชั้นเรียนนั้น ขณะนี้ทางโรงเรียนได้รวบรวมใบประกอบวิชาชีพครูทุกท่านและจะชี้แจงผู้ปกครองทุกคน ซึ่งทางคณะทำงานของ สช.อยู่ระหว่างการตรวจสอบ นอกจากนี้ สช. ได้มีการออกมาตรการให้โรงเรียนเอกชนทั่วประเทศ มีการติดใบอนุญาตประกอบอาชีพครู ทั้งหน้าห้องเรียน มีภาพถ่าย มีชื่อ นามสกุล เลขที่ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และวันหมดอายุ เพื่อเป็นการปิดช่องว่างไม่ให้มีการรับครูที่ไม่ได้มาตรการมาสอนในโรงเรียนเอกชนโดยโรงเรียนต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 5-7 วัน
"ผมได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง 12 ท่าน เพื่อเร่งดำเนินการตรวจสอบโรงเรียนแห่งนี้แห่งแรก ซึ่งเรื่องนี้ต้องคลีนและเคลียร์ หากมีความผิดตามอาญาจะดำเนินคดีถึงที่สุด และตอนนี้ได้มีการส่งกล้องวงจรปิดไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว เมื่อได้ข้อมูลชัดเจน สช.จะเร่งแจ้งความดำเนินคดีทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น ครู โรงเรียน ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำร้ายเด็ก" เลขาฯ กช. กล่าว
ต่อมาเวลา 12.00 น. นางกนกวรรณ ได้เดินทางมายังโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ เพื่อรับฟังการหารือ และแนวทางการเยียวยา ระหว่างผู้ปกครองและโรงเรียนดังกล่าว พร้อมกล่าวตอนหนึ่งว่า สิ่งที่ทาง ศธ.จะดำเนินการต่อไป คือ ให้นายดิศกุล เกษมสวัสดิ์ เลขาธิการคุรุสภา ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษผู้บริหารโรงเรียน รวมทั้งครูที่เกี่ยวข้องในการนำคนที่ไม่ถูกต้อมาดูแลบุตรหลาน รวมถึงไม่มีใบประกอบวิชาชีพครู ไม่มีมวยล้ม และจะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด ตนจะกำชับ ดูแลและติดตามให้ทุกเรื่องที่ผู้ปกครองได้ร้องทุกข์ ส่วนกรณีของผู้ถือใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนในเครือสารสาสน์ นายพิบูลย์ ยงกลม การที่โรงเรียนออกหนังสือแสดงให้เห็นถึงความไม่พร้อมที่จะมาแก้ปัญหาให้กับผู้ปกครอง ซึ่งถือว่ามีความผิด เพราะไม่ได้แสดงความจริงใจ ดังนั้นตนจึงได้ส่งหนังสือเพื่อขอหารือกับผู้บริหาร รวมถึงผู้ถือใบอนุญาตจัดตั้งในวันที่ 30 กันยายนนี้ แต่ถ้าไม่มีการตอบรับ ก็จะมีการฟ้องร้องดำเนินคดีอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ตนจะร่วมอยู่กับผู้ปกครองในกระบวนการตรวจสอบเรื่องต่างๆ ภายในโรงเรียน เพื่อให้ผู้ปกครองเกิดความสบายใจ
ด้าน กรรมการผู้บริหารโรงเรียน กล่าวว่า ทางโรงเรียนตระหนักว่าเรามีความผิดพลาดในเรื่องนี้ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการปรับโครงสร้างใหญ่ ปรับเปลี่ยนและแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ เอาทีมใหม่เข้ามา เอาครูใหม่เข้ามาและจะมีการประชุมผู้ปกครอง จะไม่นิ่งเฉยในเรื่องนี้อย่างแน่นอน ส่วนกรณีที่ทางผู้ปกครองขอดูใบประกอบวิชาชีพครูของครูทั้งโรงเรียนนั้น ขณะนี้ ทางสช.ได้มีการนำเอกสารไปตรวจสอบ ซึ่งจะรีบแจ้งไปยังโรงเรียน ส่วนเรื่องอื่นๆ จะเร่งเยียวแก้ไขทุกเรื่อง สำหรับผู้ปกครองที่ต้องการให้ลูกย้ายออก ทางโรงเรียนยินดีจะเยียวยาคืนชำระค่าเล่าเรียนให้ แต่ถ้าผู้ปกครองท่านใดยังไว้ใจให้อยู่กับโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ต่อ ทางโรงเรียนจะปรับปรุงอนุบาลให้ดีขึ้น
ด้านนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า การดำเนินการเปิดโรงเรียนเอกชนถือเป็นบริการสาธารณะอย่างหนึ่งอย่างหนึ่ง ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงศึกษาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ควรจะมีการเปิดพื้นที่ให้กับสาธารณะชน เพื่อให้รับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับโรงเรียนแห่งนี้ และหน่วยงานที่กำกับดูแลก็ควรที่จะชี้แจงว่าจะแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างไรไม่ใช่ขอทำแบบเงียบเงียบ เพราะเพราะในกรณีนี้ไม่ได้มีการเผยแพร่รูป หรือข้อมูลของเด็กออกไป แต่เป็นการหารือเพื่อการแก้ปัญหาของโรงเรียนดังกล่าว
และการที่ได้เดินทางมาที่โรงเรียนแห่งนี้ เนื่องจากต้องการที่สอบถามถึงกระบวนการการรับบุคลากรของทางโรงเรียน ว่ามีการคัดเลือกมาแบบไหนอย่างไร เหตุใดจึงได้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ และวัฒนธรรมการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนมีการอนุญาตให้ลงโทษเด็กได้หรือไม่ อีกทั้งจากนี้ยังจะมีกลุ่มผู้ปกครองจะเดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติมด้วย ดังนั้นตนจึงต่องการขอตรวจสอบภาพวงจรปิด เพื่อที่จะให้ความกระจ่างของเรื่องนี้ และประเทศเราได้ดำเนินการคุ้มครองเด็กมากน้อยเพียงใด และปฏิบัติตามอนุสัญญาสิทธิเด็กระหว่างประเทศหรือไม่ เพราะเด็กกลุ่มนี้ถือว่ายังไม่สามารถสื่อสารด้วยตนเองได้
“วันนี้ผมรู้สึกผิดหวังมากที่ไม่ได้มีการชี้แจงแบบที่ควรจะเป็นในทุกๆ เรื่อง ซึ่งทางผู้บริหารควรจะชี้แจงให้ทราบว่า เกิดอะไรขึ้นบ้าง ซึ่งหากเรื่องนี้ ศธ.ทำไม่ชัดเจน ก็คงต้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้ามาดูแลแทน”นายรณณรงค์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมหารือมีผู้ปกครองเข้าร่วม ประมาณ 50 คน โดยบรรยากาศในการหารือนั้น เป็นไปอย่างเคร่งเครียด มีการตอบโต้ระหว่างผู้ปกครองและผู้บริหารโรงเรียน รวมถึงมีผู้ปกครองที่บุตร หลาน ประสบเหตุการณ์ถูกทำร้าย และร้องทุกข์เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งทาง รมช.ศธ. ได้เปิดโอกาสให้กลุ่มผู้ปกครองเสนอข้อเรียกร้อง เพื่อที่จะให้โรงเรียนนำไปปฏิบัติตาม
นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาสช.ลุกขึ้นชี้แจงแนวทางการแก้ปัญหากับผู้ปกครอง
นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาสช.เดินทางไปที่รร.ฯ
ทนาย รณรงค์ แก้วเพชร์ ก็มาที่โรงเรียน ท่ามกลางผู้ปกครองและนักข่าว
ผู้ปกครองเขียนคำร้อง
เนื้อหาจากใจผู้ปกครอง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |