วันที่ 25 เมษายน เวลา 21.30 น. ตำรวจภูธรขลุงได้รับแจ้งว่า มีพ่อค้าทุเรียนชาวจีนพาลูกน้องเข้ามาขนของภายในล้งผลไม้ช่วงยามวิกาลโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังรับแจ้ง ร.ต.ท.สมชาย แสนเนียม รอง สวป.หัวหน้าตู้ยาม ต.ตะปอน พร้อมกำลังตำรวจเดินทางไปทำการตรวจสอบล้งผลไม้ ของนางพะยอม รัตนัย เลขที่ 54/1 หมู่ที่ 3 ต.ตะปอน อ.ขลุง จ.จันทบุรี
นางพะยอม เจ้าของล้ง เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ตนกับครอบครัวกำลังนอนพักผ่อนอยู่ภายในล้งรับซื้อคัดแยกผลไม้ ซึ่งส่วนหนึ่งถูกดัดแปลงเป็นห้องพัก ระหว่างนั้นได้ยินเสียงผิดปกติ จึงลุกขึ้นมาดูภาพกล้องวงจรปิดพบชายหญิงจำนวน 6 คน เป็น ชาย 5 คนหญิง 1 คน โดยหนึ่งในนั้นเป็นคู่ค้าชาวจีน ชื่อนายหนานเว่ย อายุ 31 ปี เป็นชาวเมืองหนานหนิง มนฑลกว่างซี ประเทศจีน เมื่อเดินทางมาถึงมีลูกน้องที่เป็นคนไทยจำนวน 4 คน ช่วยกันขนกล่องกระดาษบรรจุทุเรียนขึ้นรถยนต์กระบะ จึงตัดสินใจโทรแจ้งตำรวจ เกรงจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากตนกับพ่อค้าจีนรายนี้มีปัญหากันเรื่องการค้า ทั้งยังเข้ามาภายในล้งของตนโดยพละการ
หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าทำการตรวจสอบพบรถยนต์กระบะติดแซง หรือที่เรียกว่า กระบะคอก ยี่ห้อ อีซูสุ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ฒฉ 2317 กรุงเทพมหานคร ในรถพบกล่องกระดาษเปล่าที่ใช้บรรจุทุเรียน วางอยู่เต็มกระบะ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจปัสสาวะของคนงานทั้ง 4 คน พบ 2 ใน 4 คน คือ นายแดง จงเจริญ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 892 หมู่ที่ 2 ต.หนองรู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี กับนายกรวี พระภูมิ อายุ 20 ปี อยู่ บ้านเลขที่ 15/4 ต.โปรงน้ำร้อน อ.โปร่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ทั้ง 2 มีสารเสพติด ประเภทยาบ้าอยู่ในร่างกาย เจ้าหน้าที่จึงส่งทั้ง 2 คน ดำเนินคดี โดยมี ร.ต.อ.กฤษกร กมลภพ ทำหน้าที่ร้อยเวรเจ้าของคดี
จากการตรวจสอบพบกล่องกระดาษทั้งหมดเป็นของพ่อค้าชาวจีน ซึ่งเป็นคู่ค้าของนางพะยอม โดยนางพะยอม กล่าวว่า พ่อค้าชาวรายนี้จ่ายค่าทุเรียนมาแล้วส่วนหนึ่ง แต่ยังติดค้างอยู่กว่า 500,000 บาทตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน ทั้งที่ทุเรียนส่งไปถึงเมืองจีนแล้ว โดยตนได้ไปแจ้งความไว้แล้วในเบื้องต้น ส่วนที่ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบก็เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากพ่อค้ารายนี้พาลูกน้องเข้ามาขนของภายในล้งของตนในยามวิกาลโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ พ่อค้าชาวจีนรายนี้ ได้ชี้แจงผ่านล่ามว่า สาเหตุที่ไม่จ่ายค่าทุเรียนที่เหลืออยู่ เนื่องจากทุเรียนที่ส่งไป ไม่ได้คุณภาพ เป็นทุเรียนดิบ ไม่สุก โดยท้าให้เจ้าของล้ง เดินทางไปดูสินค้าดังกล่าว ได้ที่เมืองจีน โดยจะออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ซึ่งหากเจราจากันไม่รู้เรื่องอาจมีการแจ้งความกลับ
นางพะยอม ยืนยันว่า ทุเรียนของตนไม่ได้อ่อนอย่างที่ถูกกล่าวหาอย่างแน่นอน เนื่องจากตอนนำสินค้าลงตู้ขนส่ง ทั้งสองฝ่ายร่วมกันตรวจสอบคุณภาพสินค้า ทั้งเจ้าของล้ง ทั้งพ่อค้าชาวจีน โดยทางพ่อค้าชาวจีน เซ็นหนังสือเอง ตั้งอุณหภูมิตู้และปล่อยตู้เอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร.ต.อ.กฤษกร กมลภพ ร้อยเวร จะทำการสอบสวนสอบปากคำ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องพร้อมรวบรวมพยานหลักฐานที่มีอยู่ทั้งหมด เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายต่อไป
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |