'บิ๊กบี้' ยกนิ้วโป้งหลังรับมอบตำแหน่ง-ธง ผบ.ทบ. ลั่นสานต่อภารกิจ 'บิ๊กแดง' ค้ำจุนชาติ-ราชบัลลังก์


เพิ่มเพื่อน    

29 ก.ย.63 - ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก และ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ท่านใหม่) ร่วมกระทำพิธีรับ - ส่งหน้าที่ผู้บัญชาการทหารบก โดยได้กระทำพิธีสักการะศาลพระชัยมงคลภูมิ วางพานพุ่มถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 พร้อมลงนามเอกสารรับ-ส่งหน้าที่ผู้บัญชาการทหารบก

จากนั้นจึงเดินทางมายังบริเวณพิธีรับ-ส่งหน้าที่ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมขึ้นแท่นรับการเคารพ จากกองผสมสวนสนาม ซึ่งจัดจาก กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์, กองพันทหารม้าที่ 1 กรมทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ ผสมกองพันทหารม้าที่ 3 กรมทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ และกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 11กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ กองพันละ 116 นาย และหมู่เชิญธงประจำกองทัพบก 2 หมู่ หมู่ละ 4 นาย จัดจาก กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ และกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ รวม 561 นาย ผู้บังคับกองผสม

จากนั้น พล.อ.อภิรัชต์ ส่งหน้าที่พร้อมธงผู้บัญชาการทหารบก ให้กับ พล.อ. ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ท่านใหม่) โดยระบุว่า ตามที่มีพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ เป็นผบ.ทบ.ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้และเป็นเกียรติอันสูงยิ่งของการรับราชการในกองทัพตนขอแสดงความยินดีด้วยความจริงใจ

การปฏิบัติหน้าที่มาตลอดชีวิตรับราชการ ที่รู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจที่ได้มีโอกาสอันสำคัญยิ่งในการทำหน้าที่ทหารของชาติพิทักษ์รักษาความมั่นคง ให้กับชาติบ้านเมืองปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์และสร้างสันติสุขให้แก่ประชาชน

ในขณะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกตนมีความมุ่งหวังที่ทำให้กองทัพบกดำรงไว้ซึ่งเกียรติและศักดิ์ศรีในการที่เป็นสถาบัน เป็นรากฐานความมั่นคงของประเทศด้วยการพัฒนากองทัพบกในทุกด้านและปฏิรูปให้มีความทันสมัยมีประสิทธิภาพปรับตัวเข้ากับยุคสมัยใดมีการเปลี่ยนแปลงและก้าวทันต่อเทคโนโลยีสมัยใหม่โดยให้เกิดผลสัมฤทธิ์ของภารกิจสำคัญ

สำหรับผู้บัญชาการทหารบกท่านใหม่ ตนเชื่อมั่นในความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ด้านฝ่ายอำนวยการและผู้บังคับหน่วยในสนามและหน่วยปกติ อีกทั้งจิตวิญญาณของความเป็นทหารและความมุ่งมั่นในการทำงานที่ยึดถือผลประโยชน์และความมั่นคงของชาติเป็นสำคัญ ที่จะสามารถรับผิดชอบสานต่อภารกิจที่มาพร้อมกับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกภายใต้ผืนธงนี้อย่างดียิ่งและจะนำพากองทัพขับเคลื่อนด้วยความมั่นคงเป็นปึกแผ่นต่อไป จึงขอส่งมอบตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกและการบังคับบัญชาให้กับ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ขณะ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า จากการที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ตนดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไปนั้น นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ ตนขอน้อมรับหน้าที่อันมีเกียรตินี้ด้วยความสำนึกในความรับผิดชอบเป็นอย่างยิ่ง ในการปฏิบัติหน้าที่ราชการและดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของกองทัพบกนั้น พล.อ.อภิรัชต์ ได้แสดงให้เห็นถึงการเป็นทหารอาชีพที่มีอุดมการณ์แน่วแน่ ทุ่มเท เสียสละในการทำหน้าที่เพื่อส่วนรวมอย่างเต็มกำลังความสามารถและมีความจงรักภักดีอย่างมั่นคงต่อสถาบันชาติศาสนาพระมหากษัตริย์

ตนขอยืนยันต่อท่านทั้งหลายว่าจะสานต่อภาระ หน้าที่ นโยบายและอุดมการณ์การทำงานของท่านผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อย่างเต็มความสามารถที่จะปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยความเป็นธรรมดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดและพร้อมจะนำพากำลังพลในกองทัพบกปฏิบัติภารกิจบนพื้นฐานของความสามัคคีร่วมแรงร่วมใจดูและพัฒนากองทัพบกให้มีความเจริญก้าวหน้าสามารถยืนหยัดเป็นสถาบันหลักด้านความมั่นคงที่ค้ำจุนประเทศชาติและราชบัลลังก์อย่างยั่งยืนตลอดไป ในโอกาสสำคัญนี้ ตนขอรับมอบหน้าที่ผู้บัญชาการทหารบกและสายการบังคับบัญชาตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

จากนั้น พล.อ. อภิรัชต์ ได้เดินมาอำลากำลังพลพร้อมสื่อมวลชน โดยระบุว่าขอบคุณสื่อทุกคนนะครับ พร้อมสวมกอดกับนางสาวอนุกูล วงศ์บัวทอง ผู้สื่อข่าวอาวุโสสายทหาร ในวัย 85 ปี โดยขอให้รักษาสุขภาพ ก่อนจะขึ้นรถเดินทางกลับ

ส่วน พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังเสร็จพิธีว่า ตนจะให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายและแนวทางการทำงานในกองทัพบก เป็นครั้งแรกภายหลังการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก 6 ต.ค.

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกอย่างไรบ้างรับมอบตำแหน่งวันแรก พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า เรียบร้อยดี พร้อมชูนิ้วโป้ง 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"