28 ก.ย.63 - ร.ต.อ.กิตติภณ พลเดช รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ รับแจ้งมีสารเคมีรั่วไหล ที่บริเวณกลางหมู่บ้านบางพลีนิเวศน์ ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ มีชาวบ้านสูดดมสารเคมีเข้าไปได้รับอันตรายหลายราย หลังรับแจ้งจึงพร้อมเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อบต. บางแก้ว และแพทย์พยาบาลโรงพยาบาลบางพลี เดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณกลางหมู่บ้านพบกลิ่นสารเคมีฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ ภายในป่าบริเวณข้างหมู่บ้านพบถังแคปซูลความยาวประมาณ 1 เมตรถูกทิ้งอยู่ในพงหญ้า ต้นไม้ใบหญ้าในรัศมีเกือบ 100 เมตร มีลักษณะแห้งเหี่ยวยืนต้นตาย ขณะเดียวกันพบว่ามีชาวบ้านที่สูดดมสารเคมีเข้าไป กว่า 10 ราย มีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ถูกนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงไปก่อนแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดล้อมพื้นที่ในรัศมีโดยรอบ พร้อมฉีดพ่นละอองน้ำขึ้นฟ้าและบริเวณถังแคปซูล ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สาธารณสุข พร้อมแพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลบางพลี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่อยู่บริเวณรอบๆ

จากการสอบถามชาวบ้าน เล่าว่า เมื่อกลางดึกเมื่อคืนนี้ได้มีคนงานร้านรับซื้อของเก่า ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้าน ได้นำเอาถังเหล็กแคปซูลใบดังกล่าว ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับถังแก๊ส มาทำการเจาะตัดเพื่อนำเหล็กไปขายต่อ แต่เมื่อคนงานใช้แก๊สตัดถังทำให้สารเคมีไม่ทราบชนิดรั่วไหลออกมาอย่างรุนแรงทำให้คนงานสองคนหมดสติจนต้องหามส่งโรงพยาบาล และยังมีประชาชนที่พักอาศัยในละแวกใกล้เคียงสูดดมสารเคมีเข้าไปจนมีอาการแน่นหน้าอกและหายใจไม่ออกต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลไปอีกหลายรายซึ่งมีเด็กรวมอยู่ด้วย และยังมีอาการคันตามผิวหนัง และต้นไม้โดยรอบรัศมีเกือบ 100 เมตร ต่างพากันยืนต้นตาย ใบไม้ถึงกับแห้งเหี่ยวซึ่งคาดว่าน่าจะเกี่ยวกับสารเคมีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องฉีดน้ำคุมพื้นที่โดยรอบและจัดชุดเผจญสารเคมีเข้าควบคุมสถานการณ์พร้อมทั้งปิดกั้นพื้นที่ในรัศมีโดยรอบระยะไม่ต่ำกว่า 500 เมตร พร้อมทั้งฉีดพ่นละอองน้ำในชั้นบรรยากาศเพื่อเจือจางสารเคมี

ขณะที่ทางด้าน พ.ต.อ.ประสารทพร  ศรีสุขโข ผกก.สภ.บางแก้ว  หลังลงพื้นที่พร้อมประสานผู้เชี่ยวชาญด้านสารเคมีให้ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงว่าเกิดจากสารเคมีชนิดไหนพร้อมทั้งเตรียมสอบสวนหาที่มาของถังชนิดนี้ว่าซื้อมาจากที่ใดภายในบรรจุสารเคมีอะไร เพื่อเอาผิดผู้ประกอบการ

ด้าน นายธวัชชัย  นามสมุทร นายอำเภอบางพลี สั่งระดมทีมสาธารณสุขบางพลีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบแล้ว โดยขณะนี้ยังคงต้องรอหน่วยงานที่เชี่ยวชาญด้านสารเคมีเข้ามาตรวจสอบและประเมินผลกระทบอย่างละเอียดเพื่อหาข้อเท็จจริงเรื่องสารเคมีและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเยียวยาผู้ป่วยต่อไป