“แมนดาลา” (mandala) หรือที่หลายคนให้คำจำกัดความว่า “ศิลปะภาวนา” ซึ่งมีที่มาจากประเทศทิเบต ที่ปัจจุบันนำมาบำบัดเกี่ยวสภาวะอารมณ์ให้กับคนทุกเพศทุกวัย ไล่ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ นัยว่าเป็นการรักษาภาวะโรคเครียด สร้างสมาธิ และทำจิตใจให้กับผู้เรียนศิลปะดังกล่าวเกิดความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย ซึ่งความน่าสนใจของงานศิลปะดังกล่าวยังแฝงแง่คิดเกี่ยวกับการเข้าใจและยอมรับในสัจธรรมชีวิตให้กับคนสูงวัยได้เช่นกัน เนื่องจากงานอาร์ตที่ว่าจะเกิดขึ้นในวงกลมซึ่งเปรียบเสมือนทารกในครรภ์มารดา ซึ่งเมื่อคลอดออกมาแล้วทุกคนล้วนต้องใช้ชีวิตเวียนว่ายตายเกิดด้วยกันทั้งสิ้น หรือพูดง่ายๆ ว่าทุกคนบนโลกนี้ใช้ชีวิตเป็นวงกลมโดยที่เราไม่ได้สังเกต ครูเต้-ผดุงพงศ์ ประสาททอง นักศิลปะบำบัดจาก “มูลนิธิพื้นที่ปัญญ์รัก” มีข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนงานอาร์ตดังกล่าวของผู้สูงวัยไว้น่าสนใจ
ครูเต้ นักศิลปะบำบัด เล่าให้ฟังว่า “จุดเริ่มต้นของงานศิลปะ “แมนดาลา” เกิดในประเทศทิเบต โดยการที่พระชาวทิเบตได้นำทรายมาโรยเป็นวงกลมให้มีความสวยงาม ประณีต บรรจง ซึ่งท่านใช้เวลาทำนานหลายวันติดต่อกัน และเมื่อทำเสร็จ พระท่านก็ได้เป่าทรายที่ทำไว้ทิ้งไป ซึ่งเป็นการสอนธรรมะอย่างหนึ่ง หรือการลดการยึดติดในความสวยงาม และรูป รส กลิ่น เสียงที่เกิดขึ้นนั่นเอง ซึ่งพิธีกรรมดังกล่าวทำสืบต่อกันมายาวนานหลายร้อยปี
กระทั่งถึงปัจจุบันนำมาใช้บำบัดเกี่ยวกับเรื่องสภาวะอารมณ์ในคนทุกเพศทุกวัยเป็นสำคัญ ซึ่งหลักการของศิลปะดังกล่าวจะทำอยู่ในวงกลม ซึ่งมีนัยสำคัญว่าวงกลมดังกล่าวเปรียบเสมือนครรภ์ของแม่ เมื่อลูกคลอดออกมาก็ต้องดำเนินชีวิตเป็นวงกลม จนกระทั่งเมื่ออายุมาก ผู้สูงอายุก็จะต้องเตรียมตัวตายและกลับมาเกิดใหม่อีกรอบ ดังนั้น “ศิลปะแมนดาลา” จึงเป็นตัวแทนของแม่ที่เป็นผู้ให้กำเนิดลูก เมื่อเด็กคลอดก็ต้องอยู่บนโลกใบนี้ และโลกก็อยู่ภายใต้จักรวาลที่เป็นวงกลมอีกทีหนึ่ง สรุปโดยง่าย ศาสตร์นี้จึงเปรียบเสมือนการโอบอุ้มและประคับประคอง หรือนำพาชีวิตของผู้ที่เรียนรู้ไปสู่การทำชีวิตให้สมดุลและมีพลัง สำหรับรูปทรงของศิลปะ “แมนดาลา” จะไม่จำกัดรูปแบบ มีทั้งการเรียงกลีบดอกไม้, การวาดรูปต่างๆ เช่น คน นก ต้นไม้ รูปหัวใจ หรือระบายสีอย่างเดียวก็ได้เช่นกัน แต่ทุกด้านนั้นต้องเท่ากัน หรือสอดรับอยู่ภายใต้วงกลมเดียวกัน และศิลปะดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้นั้น คือภายหลังจากการที่ได้คุยกับนักศิลปะบำบัด
ในส่วนของการบำบัดผู้สูงวัยด้วยศาสตร์ “แมนดาลา” อันดับแรกคุณตาคุณยายจะได้เรื่องการ “ภาวนา” เพราะในขณะที่กำลังวาดรูปหรือใช้สีระบายในวงกลมอยู่ จิตของท่านจะไม่ฟุ้งซ่านจึงทำให้รู้สึกสงบขึ้น ที่สำคัญยังทำให้ผู้สูงวัยเกิดภาวะ “ความนิ่ง” หรือหยุดอยู่กับที่เพื่อเตรียมรับกับความตายที่กำลังจะมาถึง เพื่อไปเกิดยังอีกภพชาติหนึ่ง ที่สำคัญงานศิลปะที่ผู้สูงทำยังช่วย “แก้ปมชีวิต” หรือนำไปสู่การเยียวรักษาโดยผู้เชี่ยวชาญต่อไป เช่น หลังจากการที่ได้พูดคุยกับนักศิลปะบำบัด ผู้สูงวัยก็จะวาดรูปตามจินตนาการของตัวเอง เช่น ถ้าหากท่านระบายสีธรรมดาโดยการหยิบ “สีเขียวเข้ม” มาระบาย ซึ่งโทนสีดังกล่าวจะสื่อถึงพลังงาน นั่นแปลว่าท่านกำลังเหนื่อยและต้องการการเยียวยา แต่ถ้าหยิบ “สีชมพู” ขึ้นมาระบาย แปลว่าท่านกำลังต้องการความรัก หรือกำลังเสียใจ และต้องการคนมาดูแล หรือแม้แต่หยิบ “สีแดง” นั่นแปลว่าต้องการสื่อให้รู้ว่าตัวเองยังอยู่ตรงนี้ และอยู่บนโลกใบนี้ จึงต้องการการเยียวยา หรือการเอาใจจากลูกหลาน เป็นต้น
สำหรับการแก้ปมปัญหาชีวิต หรือบอกอดีตที่ผ่านมาของผู้สูงอายุจาก “ศิลปะแมนดาลา” เช่น ถ้าหากท่านวาดรูปในวงกลม โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ การวาด ขีดหรือระบายสี กระทั่งทำสัญลักษณ์บางอย่าง บริเวณด้านล่าง ตรงกลาง และด้านบนของวงกลม นั่นแปลว่าในชีวิตที่ผ่านมาคุณแม่อาจทำแท้งตอนที่ตั้งครรภ์คุณตาคุณยายอยู่ แต่ไม่สำเร็จ จนกระทั่งผู้สูงอายุคลอดออกมา หรือถ้าหากผู้สูงวัยวาดรูปต้นไม้ในวงกลมโดยเอียงไปทางซ้าย ก็จะสื่อถือเรื่องที่เกี่ยวกับแม่ แต่ถ้าวาดรูปต้นไม้เอียงไปทางขวา ก็จะสื่อถึงปัญหาหรือปมที่มาจากพ่อ ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ก็จะเป็นหน้าที่ของผู้เชี่ยวเฉพาะด้านในการเยียวยารักษาต่อไป
สำหรับผู้สูงวัยที่สนใจการสร้างความผ่อนคลายด้วย “แมนดาลา” หากกำลังรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอ สับสัน ก็ให้หยิบขึ้นมาทำได้ทันที ทั้งนี้ เพื่อทำให้จิตสงบได้ พูดง่ายๆ ว่าสามารถทำได้ทุกเวลา หรือหยิบมาทำบ่อยก็ยิ่งดี.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |